blackhills
Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok

10 ร้านกาแฟสำหรับสาย slow bar นั่งจิบช้าๆ ใช้เวลาดื่มด่ำรสชาติแบบชิลๆ

คนดื่มกาแฟแบบจริงจังที่คิดถึงบรรยากาศสโลวไลฟ์ เรามีคาเฟ่และร้านแนะนำมาบอก

Kenika Ruaytanapanich
การโฆษณา

เรารู้ว่าหลายคนกำลังคิดถึงบรรยากาศร้านกาแฟ และการได้นั่งพูดคุยกับบาร์ริสต้าเรื่องกาแฟอย่างถูกคอ หรือกระทั่งบางคนที่อยากเริ่มดื่มกาแฟอย่างจริงจังขึ้นมาบ้าง ก็อาจกำลังมองหาร้านกาแฟดีๆ ที่เสิร์ฟมากกว่ากาแฟจากเครื่องเอสเพรสโซ่ พร้อมมีเมล็ดกาแฟใหม่ๆ ให้เลือกด้วยเหมือนกัน

วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนออกไปจิบกาแฟสไตล์ slow bar ที่ไม่ว่าใครลองก็ต้องหลงเสน่ห์ เพราะนอกจากทำให้เราลิ้มรสชาติและได้อโรม่าของกาแฟที่ลึกซึ้งมากกว่าเดิม การได้พูดคุยและชมฝีมือบาร์ริสต้าค่อยๆ กลั่นกาแฟให้เราอย่างใจเย็น ก็เป็นกิจกรรมที่ชวนผ่อนคลายจนหลายคนยกให้การดื่มกาแฟเป็นการพักผ่อนไปเลยก็มี

แล้วไหนจะความสนุกของการชิมเมล็ดกาแฟใหม่ๆ เพื่อตามหารสชาติที่ใช่อีก… รับรองว่ามีให้ทุกคนเลือกจนไม่สิ้นสุดเลยล่ะ

หากใครพร้อมเข้าสู่โลกของการดื่มกาแฟแล้ว มาดูกันเลยว่าจะมีร้านและคาเฟ่ไหนบ้างที่มีกาแฟสไตล์ slow bar เสิร์ฟสำหรับคนอยากนั่งดื่มแบบชิลๆ 

  • คาเฟ่
  • จุฬาฯ-สามย่าน

ร้านกาแฟที่เป็นอาร์ตแกลเลอรี่ด้วยแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลจากสามย่านมิตรทาวน์ สามารถเดินไปได้ใช้เวลาเพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น และหากใครเคยแวะไปนั่งแล้วจะเห็นด้วยว่าทั้งกาแฟและบรรยากาศคุ้มค่ากับการตั้งใจเดินทางมาจริงๆ โดยร้านจะเปิดอยู่ในตึกเก่าอายุกว่า 70 ปี เมื่อเปิดเข้าไปจะพบเคาน์เตอร์บาร์ตั้งอยู่ฝั่งหนึ่งของร้าน ซึ่งตรงนี้เองเป็นพื้นที่นั่งดื่มและชมการดริปกาแฟแบบ pour over โดยที่ร้านจะมีเมล็ดพิเศษวนมาให้ลองกันอยู่เรื่อยๆ สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 140 บาท

  • คาเฟ่
  • จตุจักร

ร้านกาแฟสโลวบาร์ย่านห้าแยกลาดพร้าวที่หลายคนยกให้เป็นร้านโปรด เพราะที่นี่จะใช้วิธีชงด้วยมือทุกแก้ว ผ่านอุปกรณ์ชงกาแฟหลายรูปแบบที่ให้พวกเราเลือกลองตั้งแต่การดริป แอโรเพรส โมก้า หรือไซฟ่อน โดยเมล็ดกาแฟก็จะนำมาจากทั้งไทยและต่างประเทศ ร้านจะคัดสรรและหมุนเวียนมาให้ชิมกันตลอด ถ้าใครเพิ่งเริ่มต้นดื่มหรือกำลังตามหารสชาติแบบไหนเป็นพิเศษ ก็ปรึกษาบาร์ริสต้าประจำร้านได้เลย

โดยร้านจะมีลักษณะเป็นเคาน์เตอร์บาร์ให้เรานั่งชมขั้นตอนต่างๆ และพูดคุยกับบาร์ริสต้าได้ ส่วนราคากาแฟก็ขึ้นอยู่กับเมล็ดและวิธีชงที่เราเลือก ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 100 บาท

การโฆษณา
  • คาเฟ่
  • พญาไท

หลายคนอาจคิดว่าเป็นคาเฟ่สำหรับสายฮ็อปปิ้ง แต่จริงๆ แล้ว Laze ก็เป็นร้านกาแฟ specialty coffee ด้วยเหมือนกันนะ เพราะมีทั้งเคาน์เตอร์ให้นั่งชมการดริปกาแฟ และมีเมล็ดพิเศษคัดมาให้ลองกันเรื่อยๆ ด้วย โดยร้านจะนำมาจากทั้งในและนอกประเทศ สำหรับราคากาแฟดริปจะเริ่มต้นที่ 170 บาท ถ้าหากใครอยากลองดื่มครั้งแรก หรืออยากชิมเมล็ดใหม่ๆ ก็ลองไปนั่งคุยกับบาร์ริสต้าที่ร้านได้เลย

  • อาหารญี่ปุ่น
  • คลองเตย

แม้ว่าจะเป็นร้านอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นจากบรู๊คลิน กรุงนิวยอร์ก แต่เพื่อปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของคนไทย Okonomi สาขาแรกที่มาเปิดในกรุงเทพฯ จึงมีโซนคาเฟ่เสิร์ฟกาแฟด้วยเช่นกัน โดยกาแฟแบบ slow bar ของที่นี่จะใช้วิธีการดริป และมีเมล็ดให้เลือกอยู่ 2 แบบเท่านั้น คือ เบนลด์ประจำร้านที่ชื่อ Okonomi House (150 บาท) เป็นเมล็ดกาแฟไทยผสมเอธิโอเปีย และ Kenya (250 บาท) เป็นเมล็ดแบบซิงเกิล ออริจิน

การโฆษณา
  • คาเฟ่
  • จตุจักร

‘บุชส์’ เป็นร้านกาแฟสเปเชียลตี้ในซอยวิภาวดี 5 ย่านจตุจักร ที่คอกาแฟควรแวะไปนั่งชิลดูสักครั้ง เพราะนอกจากบรรยากาศที่เฟรนลี่แล้ว เรื่องกาแฟของที่นี่ก็น่าสนใจและราคาเป็นมิตรไม่เบา โดยร้านจะเน้นคั่วเมล็ดกาแฟเอง ส่วนใหญ่เป็นเมล็ดแบบ single origin จากหลายประเทศ เลยเหมาะกับคนอยากตามหารสชาติใหม่ๆ หรืออยากลองรสชาติกาแฟจากหลายๆ แหล่ง ส่วนกาแฟที่เสิร์ฟแบบ slowbar จะเป็นสไตล์ดริป ราคาเริ่มต้น 80 บาทเท่านั้น

  • คาเฟ่
  • พร้อมพงษ์

ร้านกาแฟสีขาวมินิมัลที่มาในคอนเซ็ปต์การเป็นร้านกาแฟแบบ Single Origin ซึ่งหมายความว่าทุกคนจะถามหาเบลนด์พิเศษจากที่นี่ไม่ได้นะ แต่เพราะเช่นนั้นจึงทำให้ที่นี่แตกต่างอย่างน่าสนใจ โดยเมล็ดส่วนใหญ่จะมาจากประเทศเอธิโอเปีย แต่บางครั้งก็อาจมีเมล็ดจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มมาให้ชิมอยู่บ้าง ทุกคนสามารถเลือกชิมได้ตามคาร์แรคเตอร์ที่สนใจ นอกจากนี้ร้านก็ยังคั่วเมล็ดใช้เองอีกด้วย 

ที่นี่จะเหมาะกับคนที่อยากลิ้มรสชาติเมล็ดกาแฟจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งโดยเฉพาะ ผ่านการชงแบบดริปที่ราคาจะขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟ 

การโฆษณา
  • คาเฟ่
  • เยาวราช
  • ราคา 1 จาก 4

ต้องบอกว่าเป็นร้านกาแฟและโรงคั่วที่เติบโตเร็วจนตอนนี้หลายคนยกให้เป็นร้านประจำ เพราะมีทั้งบาริสต้ามือแชมป์ฯ และทีมนักชงกาแฟฝีมือดีที่ประจำอยู่ทุกสาขา โดยตอนนี้สาขาที่เปิดให้นั่งดื่มกาแฟได้ก็มีสาขาเลียบด่วน และสาขาอารีย์

ส่วนเมนูกาแฟสไตล์ slow bar จะมีเมล็ดให้เลือกเฉพาะแบบ single origin เลยเหมาะกับคนที่อยากลองชิมกาแฟเพื่อรู้จักรสชาติของเมล็ดจากหลายๆ แหล่งกำเนิด โดยเลือกดื่มได้ทั้งวิธีดริป ไซฟ่อน หรือเอสเพรสโซ่ ราคาจะเริ่มต้นที่ 180 - 600 บาท

  • คาเฟ่
  • วังทองหลาง
  • ราคา 2 จาก 4

อีกหนึ่งร้านกาแฟสเปเชียลตี้ที่มีบรรยากาศสนุกสนานและขึ้นชื่อเรื่องกาแฟมานาน เพราะนอกจากเมล็ดที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ ซึ่งร้านจะคั่วเอง ที่นี่ก็ยังโดดเด่นเรื่องการใช้เทคนิคและเครื่องมือทันสมัยในการช่วยชงกาแฟที่ทำให้แต่ละสาขามีมาตรฐานใกล้เคียงกันเสมอ เราเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่หาก Red Diamond จะเป็นอีกร้านที่หลายคนมักนึกถึงเวลาอยากดื่มกาแฟดีๆ ระหว่างวันขึ้นมา

ส่วนราคากาแฟจะขึ้นอยู่กับเมนูและเมล็ดที่เราเลือก รวมถึงรูปแบบการชงด้วย (มีทั้งดริปและไซฟ่อน ขึ้นอยู่กับแต่ละสาขา) โดยจะเริ่มต้นที่ 120 บาท แนะนำให้แวะไปนั่งดื่มที่ร้านสาขาที่มีเคาน์เตอร์บาร์ จะได้ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟและคุยกับบาร์ริสต้าได้อย่างเต็มที่

การโฆษณา
  • คาเฟ่
  • เยาวราช

แม้จะเห็นคนถ่ายรูปกับตึกเก่าสไตล์วินเทจมากกว่าแก้วกาแฟ แต่เอาเป็นว่าที่คาเฟ่นี้ก็มีกาแฟดริปให้ชิมเหมือนกันนะ แถมบรรยากาศในร้านยังเหมาะกับการนั่งชิล จิบเครื่องดื่มแบบเพลินๆ อีกด้วย โดยราคากาแฟดริปก็ขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟที่เราเลือก ทุกคนสามารถนั่งดื่มและชมวิธีการต่างๆ ตรงเคาน์เตอร์บาร์ หรือจะยกไปนั่งจิบตรงที่นั่งโปร่งๆ กลางแจ้งก็ได้เช่นกัน



  • คาเฟ่
  • เยาวราช

คาเฟ่เล็กๆ ในย่านเจริญกรุงที่มาพร้อมวัฒนธรรมกาแฟสไตล์สแกนดิเนเวียน เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินชื่อมาก่อนแล้ว แต่อาจยังไม่เคยไปลองนั่งจิบกาแฟดริปของที่นี่ ซึ่งเอกลักษณ์ของร้านนี้จะเน้นเมล็ดกาแฟ single origin แบบคั่วอ่อน มีให้เลือกหลายเทสโน๊ตตามที่อยากลอง ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับเมล็ดที่เราเลือก โดยจะเริ่มต้นที่ 200 บาท

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา