Red Diamond Cafe

เราขอรับรองว่าการฝ่ารถติดบนนถนนลาดพร้าว เพื่อแวะไปกินกาแฟของ Red Diamond Café นั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน ทำไมนะหรอ? นั่นก็เพราะว่าคาเฟ่แห่งนี้มีเมล็ดกาแฟให้เลือกกว่า 100 แบบ แถมยังมีเครื่องคั่วกาแฟสุดนำสมัย และเครื่องทำกาแฟสุดล้ำแบบที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน

คาเฟ่แห่งนี้ยึดพื้นที่ร้านขายชุดแต่งงานอันเก่า แล้วปรับโฉมเสียใหม่ให้กลายเป็นร้านสไตล์อินดัสเทรียล ผสมผสานการใช้โลหะ ทองแดง และคอนกรีตในการตกแต่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ พื้นที่ชั้นล่างนั้นจะใช้เป็นบริเวณคั่วกาแฟ ด้านล่างจึงมีขั้นวางของ อัดแน่นไปด้วยเมล็ดกาแฟต่างๆ สูงจรดเพดาน ส่วนด้านบนนั้นจะมีพื้นที่นั่ง บริเวณสำหรับสูบบุหรี่ และคอฟฟี่แล็บซึ่งทำหน้าที่เป็นโรงเรียนสอนบาริสต้าด้วยเช่นกัน (เช็คตารางการเรียนการสอนได้ที่ Facebook ของร้าน)

นิโคลัส ฮอว์ เฮดบาริสต้าของร้านทำหน้าที่กำกับทุกขั้นตอนในการชง (เริ่มตั้งแต่การหาค่า pH ของน้ำ) จึงทำให้กาแฟทุกแก้วเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ นอกเหนือจากเฮ้าส์เบลนด์สองตัวแล้ว ที่นี่ยังมีบรูว์พิเศษที่ทำจากเมล็ดคุณภาพดีที่ได้คะแนนเกิน 80 แต้มจาก Specialty Coffee Association เท่านั้น (หนึ่งในนั้นคือเมล็ดกาแฟของทางร้านชื่อ Phatang Dry Ruby ส่งตรงมาจากเชียงราย) ส่วนเมล็ดที่ได้เกิน 90 แต้มและได้รางวัลจาก Cup of Excellence ก็มีในร้านเช่นเดียวกัน 

ภายในร้านยังมีเครื่องทำกาแฟคุณภาพเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น Mavam ที่ช่วยในเรื่องของอุณหภูมิ แถมยังใช้แอพพลิเคชั่นในการควบคุมความแม่นยำในการชง ส่วนเครื่อง Hario V60 และ Trinity ONE จะรับผิดชอบในการชงกาแฟแบบดริป