
หน้าหลัก Time Out Bangkok
เอดิชันภาษาไทยของมีเดียแพลตฟอร์มระดับโลกที่อัปเดตไลฟ์สไตล์คนเมืองมาตั้งแต่ปี 1968

Art
ปิดรับผลงานไปเรียบร้อยแล้วกับแคมเปญ Capture Bangkok และคณะกรรมการของเราก็ได้ทำการตัดสินเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งผลตอบรับนั้นดีเกินคาด เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา...

Things to do
อีเวนต์น่าสนใจในกรุงเทพฯ ตลอดกรกฎาคมนี้
แม้อากาศช่วงนี้จะเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออก แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ เพราะเราขอชวนทุกคนออกจากบ้าน แล้วไปสนุกกับลิสต์อีเวนต์สุดพิเศษ...

Things to do
กิจกรรมน่าทำในกรุงเทพฯ สุดสัปดาห์นี้ (24 - 27 กรกฎาคม)
ไม่มีอะไรมาขวางกั้นความสนุกในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ได้ Time Out คัดมาให้แล้วสำหรับ กิจกรรมน่าทำในกรุงเทพฯ ที่มีครบทั้งแฟชั่น ดนตรี ศิลปะ และไลฟ์สไตล์สุดฮิป...

Movies
‘Human Resource’ หนังเรื่องใหม่ของ เต๋อ นวพล เตรียมฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส
Human Resource ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เป็นหนังไทยเพียงเรื่องเดียวที่ได้รับเลือกให้ฉายในรอบ World Premiere...

Restaurants
รวมร้านกาแฟมุมสงบใจกลางกรุง ทำงาน อ่านหนังสือท่ามกลางความเขียวชอุ่ม
ร้านกาแฟในกรุงเทพฯ นี่เรียกได้ว่ามีให้เลือกเยอะแบบแทบไม่ซ้ำกันเลยในทุกย่าน แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่จะเหมาะกับการนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือ บางที่อาจเสียงดัง แสงไม่ดี...
การโฆษณา
อีเวนต์และกิจกรรมน่าสนใจในกรุงเทพฯ
อัปเดตข่าวล่าสุดจาก Time Out กรุงเทพฯ

Things to do
ย้อนดูโมเมนต์ดีๆ ที่ madi.bkk ก่อน Farewell สิ้นเดือนสิงหาคม
The best therapy is time spent laughing with good friends. คืออีกนิยามที่ madi.bkk จำกัดความไว้ แม้หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วและอาจจะรู้สึกเสียดาย ที่ madi.bkk ประกาศปิด Creator Hub ย่านเจริญกรุงด้วยเหตุผลส่วนตัว
Photograph: madi.bkk
ย้อนไปสักนิด madi.bkk ก่อตั้งขึ้นเพราะจี๊ป-สาธิยา ศิริพจนากร เป็นคนติดเพื่อนสุดๆ ถึงกับชวนเมย์-เมธิกานต์ ขวัญเมือง เพื่อนสนิทมาเปิดสเปซใจกลางเจริญกรุง และตั้งชื่อสเปซแห่งนี้ว่า มาดิ (madi.bkk) จี๊ปบอกว่าเป็นชื่อที่มาจากอินเนอร์ล้วนๆ เวลาที่เธอจะชวนเพื่อนไปไหน แค่ชวนเพราะอยากให้ไปด้วยกัน ประมาณว่า มาดิ มาเหอะ...เดี๋ยวขากลับไปส่ง
Photograph: madi.bkk
ส่วน madi.bkk เป็นได้ทั้งไลฟ์สไตล์คาเฟ่ที่คัดกาแฟดีๆ มาขาย หรือ Selected Lifestyle Shop ที่เลือกสินค้ามาจากความชอบและเพื่อนรอบตัว และเป็น Creator Hub คาเฟ่และไวน์คอมมูฯ ซึ่งถ้าเห็นก็คงพูดออกมาได้เลยว่า madi.bkk จัดกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรม เช่น ดนตรี เวิร์กช็อป นิทรรศการ เพื่อให้กลิ่นอายมวลรวมของความเป็นเพื่อนที่ชอบอะไรเหมือนกันมารวมกัน ซึ่งดูว่าจะครอบคลุมทุกๆ เจนเนอเรชั่น หรือพยายามทำทุกทางในทุกวิถีทางของฉัน
ไม่ว่ายังไง madi.bkk ก็ได้เดินทางพาคนที่ชอบศิลปะและไลฟ์สไตล์มาได้ไกลถึง 4 ปี นับว่าเป็นกลุ่มคนสร้างสรรค์คลื่นลูกใหม่ที่ต้านทานกระแสการเกิดขึ้นของสเปซใหม่ๆ ท่ามกลางย่านที่ขึ้นชื่อด้านวัฒนธรรมและ Activities ด้านไลฟ์สไตล์มาได้เก่งกาจ
Time Out เลยขอพาย้อนรอยกิจกรรมที่เคยเกิดขึ้นที่ madi.bkk ว่า Creator Hub แห่งนี้ เคยมีโมเมนต์ดีๆ ให้พอเก็บไว้เป็นความทรงจำเผื่อนึกถึง
Photograph: madi.bkk
2021
พฤศจิกายน
นิทรรศการแรกๆ ของ madi.bkk หลังผ่านพ้นช่วง Social Distancing กับนิทรรศการ GUNRATA Solo Exhibition Life is Art ของศิลปินกันต์ รตนาภรณ์ เซเลบริตี้และนักธุรกิจที่เขาบอกว่าสะท้อนเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตทั้งด้านมืดและสว่างที่เป็นวัฏจักรหมุนเวียนอยู่อย่างนั้นสำหรับเราคิดว่าการเปิดนิทรรศการนี้ที่ madi.bkk หลังผ่านพ้นช่วงเวลาที่ทำให้คนห่างหายกันไประยะเวลาหนึ่ง เท่ากับการได้กลับไปทบทวนชีวิตเพิ่มขึ้นไปด้วย
Photograph: madi.bkk
2022
มีนาคม
นิทรรศการ Life & Feeling by Petchsixty นิทรรศการภาพถ่ายของ Petchsixty ที่มีคติว่า อยากถ่ายอะไรก็ถ่าย แค่เราชอบ เราก็ถ่าย โดยไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง เพราะตอนที่เขากดชัตเตอร์แล้วได้ยินเสียงชัตเตอร์ดัง เขาจะรู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่เห็นและรู้สึก อยากสื่อสาร อยากส่งต่อความรู้สึกในแบบเดียวกันให้คนที่มาดู คำตอบนั้นมาจากคำถามที่มีคนเคยถามศิลปินว่า ความรู้สึกที่สมบูรณ์ที่สุดของการถ่ายรูปสำหรับคุณคือช่วงเวลาไหนนั่นเอง ดูแล้วศิลปินมีความเป็นตัวของตัวเองในแบบโนสนโนแคร์ดี
Photograph: madi.bkk
กรกฎาคม
Madi มีไวน์: Natural Wine Tasting at Madi การทำเวิร์กช็อปเทสติ้งไวน์ดูเป็นเวิร์กช็อปที่ทาง madi.bkk ทำออกมาค่อนข้างบ่อย แรกเริ่มเป็นเป็นเวิร์กช็อปชิมไวน์ 10 ตัวซึ่งเป็นเนเชอรัลไวน์คุณภาพที่ทาง madi.bkk คัดมาให้คนที่รักการดื่มไวน์ได้สนุกกับการดื่มไวน์ไปพร้อมกับการทำความรู้จักไวน์ตัวใหม่ๆ แถมยังมีดีเจ Sarttra มาเปิดแผ่นเพิ่มบรรยากาศให้การชิมไวน์ของทุกคนโฟลว์ขึ้น แต่เท่าที่เห็น เวิร์กช็อปเทสติ้งไวน์เมื่อช่วงปลายปี 2023 ดูจะเป็นการเพิ่มความพิเศษขึ้นมา เพราะเขาเลือกไวน์ 10 ตัวจากฝรั่งเศสถึง 5 ภูมิภาค และแชร์ข้อมูลเรื่องไวน์ด้วยกันในเวิร์กช็อป ซึ่งทุกคนดูครึกครื้นและสนุกเหมือนได้มาพบปะเพื่อนใหม่จริงๆ
Photograph: madi.bkk
ตุลาคม
madi.bkk จัดนิทรรศการ A Place to Hide Way Vol.1 นิทรรศการเดี่ยวในไทยครั้งที่ 3 ของแบงค์-เจษฎา ลีลานุวัฒน์กุล ศิลปินภาพถ่ายที่ได้รวบรวมผลงานตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปี 2022 เป็นโปรเจกต์ที่นำเสนอช่วงขณะเวลาที่ศิลปินสร้างพื้นที่ส่วนตัวเพื่อใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย ด้วยการนำเอกลักษณ์ของตัวเองผ่านเทคนิคที่สร้างสรรค์ด้วยตัวศิลปินเอง การจัดนิทรรศการนี้ขึ้นคล้ายกับสะท้อนให้เห็นว่าสถานที่แบบ madi.bkk นี้เหมือนเป็นแหล่งพักใจสักที่สำหรับใครที่ต้องการก็ได้
Photograph: madi.bkk
2023
เมษายน
พื้นที่ของคนรักแผ่นเสียง ที่เราคิดว่าเป็นกิจกรรมทางดนตรีที่ร่วมสมัยเอามากๆ มีทั้งความคลาสสิก ความเอนเตอร์เทนต์ ซึ่งเราคิดว่าคนที่เป็นดีเจได้ ต้องมีความเอนเตอร์เทนในระดับหนึ่ง รวมถึงการเลือกเพลงเป็น และเพลงต้องเข้ากับบรรยากาศหรือจังหวะนั้นๆ เช่นที่ madi.bkk เคยจัด Record Store Day 2023 แม้จะจัดแค่วันเดียว แต่ขอโทษที เขาจัดเที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน
เพราะมีสเปเชียลเกสต์ดีเจของ madi.bkk X Entertainment Project มาสร้างความสนุก พร้อมจิบไวน์รีเฟรชชิ่งไปด้วย เห็นแล้วก็สัมผัสได้ถึงความสนุกขึ้นมาเลย
Photograph: madi.bkk
มิถุนายน
ต่อมาเป็นนิทรรศการชื่อ View of my Life ซึ่งเป็นนิทรรศการภาพถ่ายจากกล้องฟิล์มฝีมือเด็กหญิงมะลิและมาร์ดี ซึ่ง addcandid หรือแอ๊ด-พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ มาเป็นคิวเรเตอร์ให้นิทรรศการครั้งนี้ แอ๊ดคือช่างภาพอิสระที่ขึ้นชื่อในการถ่ายภาพทีเผลอ และมีฝีมือการถ่ายภาพในระดับที่ไม่ธรรมดา จริงๆ แล้วเขาเป็นช่างภาพไทยให้กับแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Leica ด้วย จะเห็นได้เลยว่าเป็นนิทรรศการที่น่ารักและเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่รู้สึกได้
Photograph: madi.bkk
ตุลาคม - พฤศจิกายน
อีกกิจกรรมที่ดูจะบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของ madi.bkk กับ In pursuit of the Modern (Rediscovering Bangkok in Lino-cut Prints) ด้วยการเดินสำรวจตึกสไตล์โมเดิร์นในกรุงเทพฯ ซึ่งตึกสไตล์โมเดิร์นจะมีเสน่ห์ตรง facade ตามที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารเชิงพาณิชย์ ฯลฯ เหมือนกับโรงหนังสกาล่า ลิโด้ หรือตึกตามย่านสีลม บางรัก ฯลฯ และทำเวิร์กช็อปภาพพิมพ์ด้วยเทคนิคลิโนคัต (Lino-cut Prints) หรือภาพพิมพ์แกะยางกับศิลปินและสถาปนิกอเล็กซานดรา โปลยาโควา (Arcane) ที่สถาบันเกอเธ่ และกลับไปจัดแสดงผลงานภาพพิมพ์จากการเวิร์กช็อปที่ madi.bkk เป็นกิจกรรมที่น่าสนุกไม่น้อย
Photograph: madi.bkk
2024
พฤษภาคม
มาดิ มาร์เก็ต เป็นตลาดนัดมือสองของ madi.bkk ที่ชวนเหล่า Friends of Madi มาออกบูท ที่อยากตัดใจปล่อยของ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า แผ่นเสียง หรือแอ็กเซสซอรี่ของวินเทจต่างๆ อย่างกับตลาด Flea Market แบบชิกๆ เหมาะกับเจนซีเจนวาย ว่าไปก็เป็นสเปซที่เป็นได้แม้กระทั่งตลาดเล็กๆ ที่โคจรคนรักของมือสองมาเจอกันได้ ก็ถือว่าใจถึงมากๆ
Photograph: madi.bkk
2025
กรกฎาคม
นิทรรศการเล็กๆ ที่ชื่อว่า รัตนา มานิจ (Rattana Manich) จดหมายถึงปู่ย่าตายาย ที่จัดไปถึงสิ้นเดือนกรกฎานี้ นิทรรศการคราวนี้เหมือนเป็นการอำลา madi.bkk โดยให้ผู้เข้าชมเขียนจดหมายแบ่งปันเรื่องราวของปู่ย่าตายายของตัวเอง ราวกับเป็นการเติมความรักของคนใกล้ชิดให้แน่นแฟ้นในพื้นที่แห่งนั้น
นี่แค่ส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ผ่านมาบนพื้นที่ The circle of friends. ซึ่งก่อนที่จะแยกย้าย madi.bkk แอบบอกว่าเดือนสิงหาคมจะจัดกิจกรรม Garage Sale โดยเอาเฟอร์นิเจอร์ใน madi.bkk มาลดราคาขายตลอดทั้งเดือน ส่วนวีคเอนด์สุดท้าย คือวันที่ 29 - 31 สิงหาคม ทาง madi.bkk จะจัดงาน Farewell อย่างเป็นทางการ ใครที่คิดถึงคงต้องรออัปเดตรายละเอียดจาก IG หรือ FB กันอีกที
ต่อจากนี้คงปล่อยให้ Creator Hub ทำหน้าที่เป็น Memories Hub ไว้คอยเตือนใจใครต่อใครหลายๆ คน
Photograph: madi.bkk

Things to do
Inspiring Asia Micro Film Festival 2025 เปิดรับหนังสั้นและโครงการเพื่อสังคม ในธีมสุขภาพจิตเยาวชน
เข้าสู่ปีที่ 4 แล้วสำหรับเทศกาล Inspiring Asia Micro Film Festival หรือเทศกาลประกวดหนังสั้นและโครงการเพื่อสังคมระดับเอเชีย โดยใช้ชื่อเทศกาลย่อยในระดับประเทศไทยว่า Inspiring Thailand ภายใต้ความร่วมมือของ Li Foundation, Rockefeller Brothers Fund, Asia Philanthropy Circle, ECCA Family Foundation รวมถึง Documentary Club
ซึ่งเทศกาลการประกวดหนังสั้นแบบ Micro Film (ความยาว 2-7 นาที) เกิดขึ้นเมื่อปี 2564 โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากเทศกาลหนังสั้นเพื่อสังคม ในระหว่างปี 2565-2567 ทางเทศกาลเดินทางไปจัดงานมาแล้วทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ที่เน้นการเปิดพื้นที่ให้นักเล่าเรื่องด้วยภาพเคลื่อนไหว และนักสร้างสรรค์นวัตกรรมทางสังคม (Innovator) ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน/นักศึกษา บุคคลทั่วไป คนทำหนัง หรือองค์กรเพื่อสังคมทั่วภูมิภาคเอเชียได้มีส่วนร่วมตีแผ่ปัญหาสังคมในประเด็นต่างๆ ซึ่งจุฬาฯ ก็เคยเข้าร่วมจัดเทศกาลย่อยระดับประเทศ (Inspiring Thailand) ช่วงนั้นมีคนทำหนัง/องค์กรเพื่อสังคมร่วมส่งเข้าประกวดในธีมความยั่งยืนทางสังคมมากถึง 70 เรื่องจาก 8 ประเทศ ยังมีองค์กรเพื่อสังคม 40 แห่ง และนักศึกษาจำนวน 17 ทีม จาก 14 แห่งทั่วเอเชียเข้าร่วมแข่งขันด้วย
ส่วนธีมสุขภาพจิตเยาวชน (Youth Mental Well-Being) มาจากแนวคิดที่ว่า เพื่อให้เห็น: เรื่องราวที่ส่องสว่างและแนวทางที่เสริมพลัง ที่สนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันสร้างสรรค์หนังสั้นและโครงการเพื่อสังคมมาใช้เป็นสื่อกลางในการสร้างแรงกระเพื่อมและร่วมกันหาวิธีแก้ไข ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคเอเชีย เพราะประเด็นของสุขภาพจิตเยาวชนนั้นถือเป็นหนึ่งในปัญหาท้าทายที่เร่งด่วน แต่ส่วนใหญ่กลับถูกมองข้าม ซึ่ง 20% ของคนหนุ่มสาวทั่วโลกมักประสบกับความวิตกกังวล และเกือบ 1 ใน 4 อาจแสดงถึงอาการของภาวะซึมเศร้า ทั้งการต่อสู้และเผชิญกับความโดดเดี่ยวทางอารมณ์ตามลำพัง ขณะที่การเข้าถึงการดูแลก็ยังไม่เท่าเทียม
โดยกติกาการส่งผลงานเข้าแข่งขันในระดับประเทศไทย มีดังนี้
ต้องเป็นหนังสั้นความยาวระหว่าง 2-7 นาที (แต่ทางเทศกาลแนะนำความยาวที่ 5 นาที) ทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กรเพื่อสังคม โดยไม่จำกัดประเภท เช่น สารคดี ฟิกชั่น แอนิเมชั่น หนังทดลอง ฯลฯ) ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับธีมสุขภาพจิตเยาวชน
ส่งผลงานได้ทั้งหนังสั้นใหม่และเก่า แค่มีคุณสมบัติตรงกับเกณฑ์ในข้ออื่นๆ
รับไฟล์ประเภท MP4, MOV หรือ AVI โดยมีอัตราส่วนภาพอยู่ที่ 16:9 ไวด์สกรีน – 720p, 1080p หรือ 4K และมีขนาดไฟล์ 100MB – 5GB
ทุกผลงานจำเป็นต้องมีคำบรรยายภาษาอังกฤษ
ต้องมีโปสเตอร์หนังสั้น ทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอนอย่างละ 1 ชิ้น และมีภาพนิ่งความละเอียดสูงจากหนังอย่างน้อย 3 ภาพ
องค์กรที่ต้องการส่งทั้งหนังสั้นและโครงการเพื่อสังคมเข้าแข่งขันในหมวด Best Project Award ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ inspiringasia.org/Thailand
และ 7. ต้องอัปโหลดหนังสั้นและเอกสารสนับสนุนไม่เกินวันที่กำหนด โดยบุคคลและองค์กรในประเทศไทย ต้องส่งผลงานกับ Inspiring Thailand เท่านั้น
ส่วนการแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ รอบแรกระดับประเทศไทย Inspiring Thailand ส่งผลงานได้ถึง 15 สิงหาคม 2568 โดยผู้เข้ารอบจะได้เข้าร่วมเทศกาลหนังสั้นและพิธีมอบรางวัลที่ไทยในเดือนกันยายน และรอบที่สอง คือรอบชิงชนะเลิศ Inspiring Asia ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นผลงานจากไทยที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในการแข่งขันหลักที่สิงคโปร์ เพื่อได้เข้าร่วมงานรอบกึ่งชิงชนะเลิศ ในวันที่ 10 ต.ค. และหากผ่านไปสู่รอบชิงชนะเลิศก็จะได้เข้าร่วมงานในวันที่ 25 ต.ค. ด้วยเช่นกัน เพื่อลุ้นเงินรางวัลสูงสุดของผู้ชนะเลิศในแต่ละหมวด
ดูตัวอย่างผลงานที่ชนะรางวัลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://inspiringasia.or
หรือดูลิงก์โปรโมทงานในเพจเพิ่มเติมที่ Documentary Club

Attractions
ปักหมุดบีชคลับวิวทะเลในบาหลี เก็บทุกบรรยากาศ ครบทุกอารมณ์วันพักผ่อน
เกลือต้องคู่กับพริกไทย แบทแมนก็มาคู่กับโรบิน แน่นอนว่ามาบาหลีก็ต้องมีบีชคลับ ใครที่มีแพลนทริปไป Island of the Gods ทั้งที บอกเลยว่า การได้ไปแฮงเอาต์ที่บีชคลับสักแห่ง คือ a must ที่สายเที่ยวบาหลีตัวจริงต้องไม่พลาด เพราะมันไม่ใช่แค่ที่นั่งจิบค็อกเทลชิลๆ ริมหาดเท่านั้น แต่มันคือประสบการณ์ของบรรยากาศ ดนตรี และผู้คน
แม้ในยุค 2000 ยังไม่มีบีชคลับมากนัก และมีเพียง Ku De Ta ที่ Seminyak ที่ปักหมุดความชิคริมทะเลไว้เพียงเจ้าแรกและเจ้าเดียว แต่ทุกวันนี้มีคลับใหม่ๆ ผุดขึ้นแทบทุกเดือน แต่ละที่ก็มีสไตล์และเสน่ห์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคลับบนหน้าผาสูงที่มองเห็นวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา หรือคลับริมชายหาดที่สนุกได้แค่เท้าเปล่า เต้นกันยันดาวขึ้น ทุกที่สร้างจุดเด่นให้ตัวเองจนกลายเป็นแลนด์มาร์กของแต่ละย่าน เป็นอีกเรื่องหนักใจของคนไปเที่ยวว่าจะเลือกไปที่ไหนดี

Art
ชวนสายประวัติศาสตร์ฟังงานเสวนาวัตถุโบราณคืนรูป บ่ายสองวันอาทิตย์นี้ ที่ La Lanta Fine Art
วัตถุโบราณคืนรูป: ศิลปะแห่งการชุบชีวิตประวัติศาสตร์ราชบุรี เป็นงานเสวนาโดยศิลปินและผู้เชี่ยวชาญเรื่องราวประวัติศาสตร์ทางโบราณวัตถุ ได้แก่ วศินบุรี สุพาณิชวรภาชน์, ดร.อนุรักษ์ ดีพิมาย จากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และพฤศวาร สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา ศิลปินดิจิทัล 3 มิติ โดยมีผู้ดำเนินรายการคือ นิ่ม นิยมศิลป์ ภัณฑารักษ์เบอร์ต้นๆ ของประเทศ
Photographer: Wasinburee Supanichvoraparch
ทั้งหมดจะมาเสวนาถึงมิติทางประวัติศาสตร์ของราชบุรีในหลายยุคสมัย (ซึ่งเป็นบ้านเกิดของศิลปินที่นำมาสู่ผลงาน Werdin) ที่ควรได้รับการตีความโดยนำศิลปะ หรือเทคโนโลยี 3D แม้แต่จินตนาการของศิลปินเองมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อทำความเข้าใจและเชื่อมโยงอดีตมาจนถึงปัจจุบัน (และเพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้าใจประวัติศาสตร์ได้ง่ายขึ้น) นั่นเพราะประวัติศาสตร์ไม่ใช่สิ่งที่ควรถูกสตัฟฟ์ไว้
Photographer: Wasinburee Supanichvoraparch
งาน Werdin หรือดินกลาย เป็นงานนิทรรศการที่วศินบุรีบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากโครงการจรัส: แสงสร้างสรรค์ ซึ่งเคยจัดที่บริเวณลานด้านหน้าและทางเชื่อม BTS ที่หอศิลปกรุงเทพฯ เมื่อปี 2562 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมของมนุษย์ในยุคอดีตสู่ปัจจุบัน ที่ศิลปินสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ซึ่งอาจรวมถึงมนุษยชาติเสมอมา จนนำมาสู่งานเครื่องปั้นดินเผาที่ชื่อ Werdin ดินที่กลายจากอดีตมาสู่ปัจจุบันเหมือนอย่างมนุษย์ที่เดินทางผ่านมาจากยุคสู่ยุคเช่นเดียวกัน
Photographer: Wasinburee Supanichvoraparch
งานเสวนาจัดที่ La Lanta Fine Art ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ 22 เริ่มตั้งแต่บ่ายสองจนถึงสี่โมงเย็น ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมฟรีได้ที่ https://tinyurl.com/signup-werdin

Things to do
Maho Rasop Series เปิดตัวเฮดไลน์อัปแรกด้วย ‘Black Country, New Road’
ทุกๆ สิ้นปีถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองที่หลายคนเฝ้ารอ ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือเทศกาลดนตรีและคอนเสิร์ต ที่ไม่เพียงดึงดูดแฟนเพลงชาวไทยแต่ยังกลายเป็นจุดหมายสำคัญที่ทำให้ผู้คนจากทั่วโลก หลั่งไหลกันเข้ามาเพื่อเช็กอิน และสัมผัสบรรยากาศดนตรีสดแบบจัดเต็มในเมืองไทย
หนึ่งในเทศกาลที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงการดนตรีอินดี้บ้านเราได้อย่างน่าจับตามอง ก็คือ ‘Maho Rasop Festival’ เทศกาลดนตรีนอกกระแสที่เกิดจากการรวมตัวของสามผู้จัด คอนเสิร์ตชั้นนำ ได้แก่ HAVE YOU HEARD?, Seen Scene Space และ Fungjai ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการผลักดันซีนดนตรีนอกกระแสไทยให้เติบโตและเป็นที่รู้จัก ในระดับสากล พร้อมสร้างพื้นที่เปิดกว้างให้ศิลปินได้แสดงออกอย่างเต็มที่
การกลับมาในรูปแบบใหม่ ‘Maho Rasop Series’
ปีนี้ หลายคนตั้งคำถามว่า Maho Rasop จะกลับมาจัดอีกหรือไม่ และคำตอบก็คือกลับมาแน่! แต่ไม่ใช่ในรูปแบบเฟสติวัล 2 วันเต็มเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยปัจจัยหลายอย่างพวกเขา จึงตัดสินใจรีแบรนด์งานใหม่ภายใต้ชื่อ ‘Maho Rasop Series’ โดยยังคงความจัดจ้าน ด้านดนตรีไว้อย่างครบถ้วน และครั้งนี้มาในรูปแบบโชว์เดี่ยวจากศิลปินดังทั่วโลก ที่จัดอย่างต่อเนื่องในแต่ละ Episode โดยมีการออกแบบโชว์ สถานที่ และแนวเพลง ให้หลากหลายขึ้นอยู่กับแต่ละผู้จัด
ประเดิมโชว์แรกจาก HAVE YOU HEARD?
Black Country, New Road วงดนตรีอินดี้จากเกาะอังกฤษ ที่เคยฝากฝีมือบนเวที Pelupo Festival 2023 มาแล้ว ด้วยแนวดนตรีทดลองที่ผสมผสานทั้ง Baroque Pop, Progressive Rock และโฟล์กเข้าด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์ กลับมาคราวนี้แฟนเพลงตั้งตารอกันได้เลย ว่าจะมีเซอร์ไพรส์ อะไรให้ได้ชมกันอีกบ้าง
Photograph: Maho Rasop
2 วงดนตรีเจ้าบ้านเลือดใหม่
นอกจากศิลปินหลักจากต่างประเทศ ยังมีวงดนตรีอินดี้ไทยหน้าใหม่ที่น่าจับตาถึง 2 วง ได้แก่ Soft Pine วงอินดี้ร็อกเจ้าของแนวดนตรี Hypnagogic Pop ชวนฝัน และ Lepyutin วงร็อกยุคใหม่ที่รวมกลิ่นอายของ Psychedelic, Progressive Rock และ Jazz ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งคู่เคยขึ้นเวที Maho Rasop มาแล้ว และเตรียมกลับมาเพิ่มสีสันให้โชว์ ครั้งนี้อย่างแน่นอน
ไลน์อัปศิลปินที่เหลือ
สำหรับแฟนๆ ที่รอผลงานจาก Seen Scene Space และ Fungjai ก็เตรียมตัวให้พร้อม เพราะไลน์อัปจากทั้งสองค่ายที่เหลือจะประกาศเพิ่มเติมเร็วๆ นี้ เรียกได้ว่า Maho Rasop Series ปีนี้จัดเต็มทุกอารมณ์ดนตรีอย่างแท้จริง
งานจัดที่ไหน?
ในปีนี้โชว์แรกจะจัดขึ้น ที่ Search Studio โดยราคาบัตรอยู่ที่ 2,200 บาท และบัตรหน้างาน 2,400 บาท (จองบัตร) งานจัดวันที่ 13 ธันวาคม เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
ใครไม่อยากพลาดประสบการณ์ดนตรีคุณภาพส่งท้ายปี รีบกาปฏิทินและจองบัตรกันไว้ได้เลย!
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.haveyouheard.live

Things to do
ทรีซั่ม ฆาตกรต่อเนื่อง และโพสต์อิท
คุณเคยมีฟีลแบบนี้ไหม? ฟีลแบบที่แค่เดินเข้าร้านเหล้าหรือบาร์แล้วรู้สึกทันทีว่า ‘ที่นี่แหละ คือที่ของเรา’ สำหรับสายเที่ยวกลางคืนตัวจริงอย่างเรา ภาพที่นึกถึงก็คงหนีไม่พ้นแก๊งเพื่อนสนิท แก้วเหล้าผสมน้ำอัดลม และเสียงดนตรีสดที่ค่อยๆ บิวด์อารมณ์ให้เราได้ลุกขึ้นเต้นสบัด แต่ Allso Bar ทำให้ภาพเหล่านั้นในหัวเราเปลี่ยนไปหมด ปกติบาร์เล็กๆ แบบนี้ไม่ใช่ที่ที่เราจะแวะเวียนไปบ่อยนักตามนิสัย แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่เสียงเพลง หรือเหล้าเข้มๆ แต่ Allso Bar เป็นพื้นที่ที่การพูดคุยธรรมดาๆ กลับกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกัน
ลองนึกภาพตามดู ถ้ามีงานอีเวนต์ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ระบายความลับออกมา ไม่ว่าจะเป็นความลับใสๆ แบบน่ารัก ความลับเทาๆ ที่ไม่ได้ดีหรือแย่เกินไป หรือแม้แต่ความลับมืดมนที่คุณไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง แบบไม่มีใครมาตัดสิน (โอเค อาจมีการหัวเราะกันกรุบกริบบ้าง) แต่งานนี้ คุณจะได้ฟังความลับของคนอื่น แบบไม่ต้องรู้เลยว่าใครเป็นคนเขียน นี่แหละคือครั้งแรกที่เราได้สัมผัสกับ The Dark Secrets of Bangkok ค่ำคืนที่คนแปลกหน้าพากันมาแชร์เรื่องที่ทำให้คุณเผลอหันไปมองหน้าคนข้างๆ ใหม่อีกครั้ง ความลับแบบที่เราเคยขึ้นในหัวว่า คนอื่นกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เราเดินผ่านผู้คนบนถนน หรือแม้แต่ความลับของคนที่เราเต้นด้วยในคลับ เราได้ไปร่วมงานแบบงงๆ ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ความคิดที่จะได้ฟังความลับของคนอื่นก็จุดไฟความขี้สงสัยในหัวเรามากพอแล้ว
ความลับบางเรื่องน่ารักชวนยิ้ม บางเรื่องถึงขั้นทำให้หัวเราะจนหายใจไม่ทัน และบางเรื่องก็เศร้าจับใจ แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ของค่ำคืนนี้ ทุกคนต่างมีอะไรบางอย่างฝังลึกอยู่ข้างใน และคืนนี้เราจะนั่งฟังเฉยๆ ไม่ตัดสิน ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไป
มาดูกันว่าในงานนี้จะมีอะไรเด็ดๆ เกิดขึ้นบ้าง
Photograph: Allso Bar
ทันทีที่มาถึงบาร์ เราก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันชวนหลงใหล การตกแต่งสไตล์เรโทรกับแสงไฟสลัวๆ ทำให้รู้สึกเลยว่าที่นี่ต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ เราถูกจับให้นั่งโต๊ะร่วมกับคนแปลกหน้าสองคน ซึ่งก็แอบรู้สึกแปลกนิดหน่อย เพราะปกติถ้าไปร้านเหล้าก็ต้องไปกับแก๊งเพื่อนสนิทใช่ไหมล่ะ แต่พอดื่มไปสักหน่อย ความเก้ๆ กังๆ ก็ค่อยๆ จางหายไป จนกลายเป็นบทสนทนาที่จริงใจขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ จนเริ่มรู้สึกว่านี่แหละคือสถานที่ที่เหมาะจะเล่าความลับ หรือไม่ก็แอบส่องความลับของคนอื่น โดยไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร
ไม่นานหลังจากที่ทุกคนนั่งประจำที่ บรรยากาศในห้องก็ค่อยๆ เงียบลง ก่อนที่โฮสต์ของค่ำคืนนี้อย่าง Bog จะปรากฏตัวพร้อมกับ Vik นักเขียนชาวอเมริกันและคู่หูผู้ร่วมออกแบบไอเดียสุดแหวกนี้ ทั้งสองคนขึ้นมาหน้าเวทีเพื่ออธิบายว่าเรากำลังจะเจอกับอะไรต่อจากนี้
ทุกคนจะได้รับโพสต์อิทกับปากกาคนละชุด แล้วถูกเรียกขึ้นไปที่ห้องเล็กๆ ชั้นบนทีละคนแบบส่วนตัว เพื่อเขียน ‘ความลับ’ ลงไป จะเขียนสั้นๆ แค่ประโยคเดียว หรือจะยาวเป็นสองหน้ากระดาษก็ได้ จะเป็นเรื่องขำขัน เรื่องเศร้า หรืออะไรที่ไม่เคยบอกใครก็ไม่ว่ากัน
บางคนใช้เวลานานเหมือนกำลังเขียนชีวประวัติชีวิต ส่วนบางคนก็เขียนเร็วปรื๊ดราวกับกำลังลิสต์ของที่ต้องซื้อในซูเปอร์มาเก็ต บรรยากาศในห้องตอนนั้นเหมือนมีไฟฟ้าสถิตในอากาศ เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสงสัย ที่แค่ได้อยู่ตรงนั้นก็รู้เลยว่านี่จะไม่ใช่แค่คืนแฮงเอาต์ธรรมดาๆ แน่นอน
เมื่อโพสต์อิททั้งหมดถูกแปะเรียงรายบนผนัง ราวกับกระดานสารภาพบาปในโบสถ์ ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของค่ำคืนก็เริ่มต้นขึ้น Bog และ Vik รวบพลแขกทุกคนเข้ามานั่งอย่างพร้อมเพรียง แล้วเริ่มอ่านความลับสุดยอด ของแต่ละคน ทีละแผ่น ดังๆให้ทุกคนได้ยิน
บางอันเบาสมองและแสบสันต์ จนเสียงหัวเราะดังขึ้นทันที: ‘แม่ฉันไม่รู้ว่าฉันกินเหล้าและมีเซ็กส์ ซึ่งสองอย่างนี้คือสิ่งที่ฉันถนัดที่สุด’ ‘ฉันแกล้งทำเป็นยิวแค่เพื่อจะได้ไปงานวันเสาร์และแอบกินซุปไก่’
ครึ่งห้องหัวเราะ อีกครึ่งทำหน้างง เหมือนยังตัดสินใจไม่ได้ว่ามันตลกหรือน่ากลัว ‘ตอนอายุ 17 ฉันสูบฝิ่นและมีเซ็กแบบทรีซั่ม ในขณะที่มีหนึ่งในนั้นนั่วอ่านบทกวีอยู่ข้างๆ’
บางอันก็ช็อกจนทำให้ห้องเงียบกริบในพริบตา: ‘ฉันเลิกกับแฟน แล้วฉันฆ่าแมวของเธอ’ ‘ฉันเคยเดินเข้าไปในโรงงานร้างแถวบ้านแล้วเจอศพ’ ‘ฉันเคยเจอฆาตกรต่อเนื่องสามคน สองคนติดคุก อีกคนฆ่าตัวตาย’
แล้วก็มีบางอันที่ลึกซึ้งและเฉพาะตัว ชนิดที่แทงใจคนฟังแบบเงียบๆ: ‘ฉันไม่เคยเจอความรัก ฉันกลัวว่าปัญหาคือฉันเอง ฉันผลักทุกคนออกไปเสมอเวลาที่เขาเข้าใกล้’
และแน่นอน ก็มีโพสต์อิทแบบที่เป็นความโกลาหลสไตล์บางกอกสุดๆ: ‘ในวันเดียวฉันมีเซ็กส์กับสองคน แล้วไปเดทกับอีกคนตอนเย็น’ ‘ฉันมาที่นี่เพื่อแพร่โควิด’ ‘ฉันมากรุงเทพตอนที่เลยช่วงพีคของชีวิตไปแล้ว แต่เมืองนี้กลับให้ชีวิตใหม่กับฉันได้’
ทุกคนในห้องจะรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะ เสียงแห่งความอึ้ง เสียงสูดลมหายใจลึกๆ หรือแม้แต่ความเงียบที่ถาโถมเข้ามาในบางช่วง ไม่มีใครรู้ว่า ‘ความลับ’ แผ่นไหนเป็นของใคร และนั่นแหละคือความงามของมัน ในช่วงเวลานั้น ทุกคนกลายเป็นเพียงผู้รับฟังบางสิ่งที่ทั้งเหลือเชื่อและจริงแท้… และด้วยเหตุผลบางอย่าง มันกลับทำให้รู้สึกปลอดภัยอย่างน่าประหลาด
แล้วหลังจากนั้น เกิดอะไรขึ้นต่อ?
Photograph: Allso Bar
หลังจากความลับทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมา ก็เกิดช่วงเวลาที่เหมือนไฟฟ้าแล่นผ่านตัวนักท่องราตรีในคืนนั้น ทุกคนเริ่มกวาดตามองไปรอบห้อง สบตากัน และลองเดาเล่นๆ ว่าใครกันแน่คือเจ้าของคำสารภาพแต่ละแผ่น เกมเดาเริ่มขึ้นแบบไม่ได้นัดหมาย ทั้งตลก ทั้งหลอนในเวลาเดียวกัน บางคนแอบยิ้มมุมปากจนเราเผลอคิดว่า ‘หรือว่าเป็นเขาที่เขียนประโยคนั้น?’
บางคนก็นั่งยาวจนหมดค็อกเทลแก้วสุดท้าย ส่วนเราก็เผลอสนุกไปกับบทสนทนาแบบยาว ฃๆ กับคนแปลกหน้าหลายคนในร้าน จนได้รู้จักกรุงเทพฯ ในมุมที่ไม่มีไกด์บุ๊กเล่มไหนเคยเล่า อย่างผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยโดนเทกลางคลับ แต่กลับเจอคู่ชีวิตก่อนร้านปิด, ผู้กำกับหนังที่หมกมุ่นกับเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ หรือนักเดินทางที่ใช้คืนสุดท้ายในเมืองนี้มานั่งฟังความลับดิบๆ จากคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
งานนี้ดึงดูดผู้คนจากหลากหลายแบ็กกราวนด์ให้มาอยู่ในห้องเดียวกัน ไม่ใช่เพื่อมาโชว์ตัวหรือเอนเตอร์เทนใคร แต่เพื่อมาเชื่อมต่อกันจริงๆ มันอาจให้ความรู้สึกเหมือนกำลังแอบเผือกชีวิตของคนอื่นอยู่บ้าง แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์สุดๆ เหมือนกรุ๊ปเทอราพีที่แสงไฟอบอุ่นกว่า บรรยากาศเป็นกันเองกว่า และเครื่องดื่มราคาสบายกระเป๋า
สิ่งที่ทำให้เมืองกรุงน่าหลงใหล ไม่ใช่แค่ตึกสูงระฟ้าหรือถนนที่ปูด้วยคอนกรีต แต่มันคือ ‘ผู้คน’ ต่างหาก ไม่ใช่แค่คนท้องถิ่นที่ค่อยๆ หล่อหลอมเมืองนี้ในทุกวัน แต่ยังรวมถึงนักเดินทางที่แวะผ่านมา ทิ้งบางอย่างไว้ข้างหลัง และเก็บอะไรบางอย่างกลับไป เรื่องเล่า ความลับ และคำสารภาพของพวกเขากลายเป็นเฉดสีที่ทำให้เมืองนี้มีมิติมากกว่าที่ตาเห็น
และนั่นแหละคือสิ่งที่ Allso Bar หยิบมาใช้เป็นหัวใจของที่นี่ บาร์แห่งนี้คือไอเดียของ Roe Laophermsook ผู้ที่อยากฉีกกรอบเดิมๆ ของคำว่า ‘ไนต์ไลฟ์’ แล้วสร้างพื้นที่บางอย่างที่ไม่จำกัดแค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เปิดกว้างให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ออฟฟิศ นักศึกษา ศิลปิน ชาวต่างชาติ หรือคนที่ชอบนั่งคิดอะไรเงียบๆ ได้มานั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน และรู้สึกว่า ‘เราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้เหมือนกัน’
และในหลายๆ ทาง Allso Bar ก็คือตัวตนของ Roe เอง ‘ผมไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดียมาตั้งแต่ปี 2008’ เขาเล่าอย่างเปิดใจ ‘นั่นแหละเหตุผลที่ผมเปิดบาร์นี้ขึ้นมา เพื่อสร้างอะไรที่ ‘ถ่องแท้’ จริงๆ แต่ความย้อนแย้งก็คือ ตอนนี้ผมกลับต้องเล่นโซเชียลมากกว่าที่เคยเสียอีก’ ความตึงเครียดระหว่างความเหนื่อยล้าจากโลกดิจิทัล กับความต้องการเชื่อมต่อกับคนจริงๆ นี่แหละคือสิ่งที่ขับเคลื่อนทุกอย่างที่บาร์แห่งนี้
คนเรามักจะโหยหาบางสิ่งมากกว่าการเลื่อนหน้าจอไปมา พวกเขาต้องการเหตุผลที่จะเงยหน้าจากมือถือขึ้นมาจ้องตากันจริงๆ และพลังงานแบบนี้แหละที่ทำให้งานอย่าง The Dark Secrets of Bangkok เกิดขึ้นได้
งานรอบแรกได้รับการตอบรับดีเกินคาด ‘หลายคนทักมาบอกว่าชอบค่ำคืนนั้นมาก และวางแผนจะชวนเพื่อนๆ มาในรอบต่อไปด้วย’ Roe เล่าด้วยรอยยิ้ม ‘หลายคนยังชอบบรรยากาศของบาร์นี้ด้วย’ ดังนั้น ใช่แล้ว งานรอบสองจึงเตรียมจัดขึ้นช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ มี Bog เป็นโฮสต์คอยนำทาง และ Vik ที่เสริมความน่าสนใจด้วยฝีมือการเล่าเรื่อง คอนเซปต์ของงานนี้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราสร้างพื้นที่ให้ทุกคนได้พูดความจริงโดยไม่ต้องกลัวผลลัพธ์ใดๆ สิ่งที่ได้คือค่ำคืนที่เต็มไปการไร้ความคาดหวังและการเชื่อมต่อกันอย่างแท้จริง
ไม่มีชื่อ ไม่มีการตัดสิน แค่เสียงเล่าเรื่องที่ดังก้องอยู่ในบาร์ที่สร้างมาเพื่อการฟังอย่างแท้จริง

Things to do
เรื่องราวเหล่าบุคคลดัง ในรูปแบบนิทรรศการที่สัมผัสได้จริง
หากคุณคุ้นเคยกับประโยคนี้ ‘สวัสดีทุกคนค่ะ คุณอยู่กับฟาโรสพอดแคสต์ และนี่คือ People You May Know เรื่องราวของบุคคลและผลงานดัง’ อินโทรก่อนเริ่มรายการพอดแคสต์สุดฮิตที่หยิบยกเรื่องราวของ ‘บุคคล’ ในประวัติศาสตร์มาเล่าด้วยท่าทีที่สนุกสนานเป็นกันเอง เน้นรู้จักไม่เน้นรู้จริง โดยเราเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะมีความสนใจหรือชื่นชอบวิชาประวัติศาสตร์หรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าได้ลองฟัง PYMK จบสักตอนแล้ว ต้องไม่พลาดที่จะกดดูตอนอื่นๆ อย่างแน่นอน
ซึ่งรูปแบบของรายการคือการหยิบยกเรื่องราวของคนดังที่เคยฝากร่องรอยไว้ในหน้าประวัติศาสตร์มาเล่าโดยเหล่าดาราช่องผู้เป็นกัลยาณมิตร ที่ผลัดกันมาถ่ายทอดเรื่องราวของบุคคลสำคัญอันน่าสนใจและเป็นตำนานจากหลากหลายวงการ อาทิเรื่องราวของเจ้าของวิสัยทัศน์เปลี่ยนโลก บุคคลผู้เชื่อมโยงโลก คนเบื้องหลังที่โลก(เกือบ)ลืม ไปจนถึงผู้ที่ลุกขึ้นมาปฏิวัติวงการและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
Photograph: Yokploy Chandrabha - Time Out Thailand
รายการ People You May Know เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2020 โดยปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 9 แสนคน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรายการพอดแคสต์คุณภาพที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปแบบอันแตกต่างที่ไม่ใช่รายการสัมภาษณ์ทั่วไป แต่เน้นการเปิดเผยตัวตนคนดังผ่านบทสนทนาที่สนุกสนานเป็นกันเอง รวมถึงลีลาการเล่าจากดาราชาวช่องแต่ละคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นำเสนอเรื่องราวในหลากหลายแง่มุม จึงทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้รู้จักตัวตนอีกด้านของผู้คนเหล่านั้นในแบบที่ใครหลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
งานนี้จัดต่อเนื่องจากอีเวนต์ใหญ่อย่าง FaraTALK ในธีม ‘What’s in a name? ชื่อนั้นสำคัญไฉน’ ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยภายในงานคุณฟาโรสก็ได้มีการแอบสปอยล์เอาไว้ว่าพวกเขากำลังจะมีนิทรรศการเป็นครั้งแรก เพื่อถือโอกาสขอบคุณชาวช่องทุกท่านที่ร่วมเดินทางร่วมกันมาตลอด 5 ปี
Photograph: Yokploy Chandrabha - Time Out Thailand
‘AP presents PYMK The Exhibition’ ครั้งแรกของการนำเรื่องราวคนดังรอบโลกจากรายการพอดแคสต์มาร้อยเรียงเรื่องราวในรูปแบบของนิทรรศการที่ทั้งอิน ทั้งสนุก ได้สาระ ครบจบในที่เดียว โดยงานนี้ได้เปิดให้เข้าชมฟรีแบบจำกัดจำนวนผู้ชมต่อรอบ รอบละ 20 นาที ซึ่งหลังจากที่ได้เปิดระบบลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา แฟนๆ ชาวช่องก็พากันจองบัตรจนเต็มในทุกรอบเป็นที่เรียบร้อย
ชาวช่องคนไหนที่มือบัตรอยู่ในมือแล้ว เตรียมตัวไปพบกับความสนุกรูปแบบใหม่ มาร่วมแลกเปลี่ยนและค้นหาแรงบันดาลใจได้ ที่ TCDC กรุงเทพฯ ไปรษณีย์กลางบางรัก ชั้น 1 Gallery วันที่ 18 กรกฎาคม - 17 สิงหาคม เวลา 10.30 - 19.00 น. (ปิดวันจันทร์)

Travel
พระปรางค์วัดอรุณฯ ไทยติดโผว่าที่มรดกโลกของยูเนสโก
ข่าวดีอีกหนึ่งเรื่องสำหรับคนไทยในเดือนนี้มาพร้อมกับความสวยงามจับใจของวิววัดอรุณฯ เราเชื่อว่าโลกนี้มีสถานที่ที่ดูงดงามราวกับหลุดมาจากในหนัง จนแทบไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นของจริง และแน่นอนเลยว่า พระปรางค์วัดอรุณฯ ก็คือหนึ่งในสถานที่นั้น และถ้าใครเคยได้เห็นวัดอรุณฯ ยามเย็นตอนที่แม่น้ำเจ้าพระยาเปลี่ยนจากสีน้ำตาลเป็นสีทองแดงแล้ว เราก็จะไม่แปลกใจถ้าคุณจะคิดว่ามันคือกราฟิกซีจีมากกว่าของจริง
แต่เดือนนี้ ปรางค์สูงทรงขอมที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จากเศษเครื่องลายคราม เปลือกหอย และแรงศรัทธาของคน ได้รับการยอมรับที่ยิ่งใหญ่มากกว่าสตอรี่พระอาทิตย์ตกในอินสตาแกรม เพราะมันได้เข้าไปอยู่ใน ‘บัญชีรายชื่อเบื้องต้นของมรดกโลก’ โดยองค์การยูเนสโกอย่างเป็นทางการแล้วตอนนี้
ถ้าพูดกันตามตรง วัดโบราณแห่งนี้ก็ยังไม่ถึงขั้นขึ้นเป็นมรกดโลกเต็มตัว แต่ก็ไม่ต้องใจเสียกันไป เพราะรองอธิบดีฝ่ายวัฒนธรรมของยูเนสโก ได้เป็นคนเซ็นจดหมายตอบรับฉบับนั้นเองกับมือ พร้อมชื่นชมการเสนอชื่อนี้ด้วยตัวเอง เขายืนยันว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ ผ่านเกณฑ์ที่มีครบทุกข้อ ทั้งด้านความศักดิ์สิทธิ์ ประวัติศาสตร์ และความงามทางสถาปัตยกรรมที่มรดกโลกควรจะมี
คนไทยเรียกที่นี่ว่า ‘วัดแจ้ง’ หรือ ‘Temple of Dawn’ แต่ความงามของวัดอรุณฯ ไม่ได้มีแค่แสงอาทิตย์ยามเย็น แต่พระปรางค์ที่สูงถึง 82 เมตร ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองกรุงของเรา ว่ากันว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากเขาพระสุเมรุศูนย์กลางแห่งจักรวาลในตำนานพุทธศาสนา
แต่ในขณะที่แลนด์มาร์กอื่นอาจเน้นความสวยงามตระการตาด้วยทองคำ แต่วัดอรุณฯ กลับโดดเด่นออกมาด้วยพื้นผิวและรายละเอียดจากโมเสกลายดอกไม้ที่รังสรรค์จากเศษถ้วยชา ฝังทีละชิ้นด้วยมืออย่างพิถีพิถัน มันเป็นงานสถาปัตยกรรมที่เหมือนกับผ้าทอชิ้นโบว์แดง ซึ่งทั้งบอบบางแต่ก็เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความขลัง
ความงดงามนี้ไม่ใช่มรดกที่ถูกเก็บไว้หลังม่านกำมะหยี่ในพิพิธภัณฑ์ แต่วัดอรุณฯ ยังมีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยลมหายใจของผู้คนมากมาย ตั้งแต่พระสงฆ์เดินธุดงค์เท้าเปล่าผ่านนักท่องเที่ยว ที่สวมหมวกของฝากที่ขายข้างหน้าวัด และคนท้องถิ่นที่ยังคงมากราบไหว้บูชาพระปรางค์ ขณะที่เสียงแตรจากเรือเดินทางดังก้องไปทั่วฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดอรุณตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง ความศรัทธา และความวุ่นวายของชีวิตคนเมืองกรุง และนี่ คือสิ่งที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีความเป็นไทยอย่างแท้จริง โดยตอนนี้ กรุงเทพฯ มีแผนการอนุรักษ์ วัดอรุณฯ ให้สมเกียรติ สมศักดิ์ศรี ภายใต้การดูแลของหน่วยโบราณคดี โดยการรับฟังเสียงจากผู้คน ที่อาศัยอยู่บริโวณโดยรอบวัดจริงๆ เพราะเมื่อพูดถึงคำว่า ‘มรดกโลก’ มันไม่ใช่แค่การรักษาอิฐ ปูน หรือโครงสร้างของสถานที่นั้นๆ แต่สิ่งที่ต้องคงไว้ให้ได้คือจิตวิญญาณของสถานที่นั้นต่างหาก
การเสนอชื่อครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามภายในสถานที่นั้นๆ แต่มันคือการส่งสารถึง
โลกกว้างออกไปว่า วัฒนธรรมไทยเราสามารถไปไกลได้โดยไม่ต้องอวดอ้างใคร และสามารถมีความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณได้ โดยไม่ต้องหันหลังให้กับชีวิตสมัยใหม่ และถ้าวันหนึ่งพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างเต็มตัว มันจะไม่ใช่แค่ชัยชนะด้านการอนุรักษ์ แต่มันจะเป็นหลักฐานว่า สิ่งที่เป็น ‘ไทยแท้’ ก็สามารถยืนหยัดโดดเด่นบนเวทีโลกได้ พร้อมเศษเปลือกหอย เศษถ้วย และหัวใจทั้งหมดที่รวมกันเป็นวัดแห่งนี้

Hotels
รวมที่พักตอบโจทย์ทุกสไตล์ในปีนัง เดินถึงแลนด์มาร์ก ครบทุกจุดเช็กอิน
ปีนังเป็นเกาะเล็กๆ เลยมีเสน่ห์ในการโชว์ความเป็นวัฒนธรรมผ่านสถานที่ต่างๆ ในเมือง รวมถึงวิวริมทะเล และที่สำคัญสตรีทฟู้ดที่ไปแล้วต้องลองให้ได้ โดยเฉพาะใน George Town เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลสุดอาร์ตและแลนด์มาร์กอย่าง คฤหาสน์สีน้ำเงิน มัสยิดกาปิตัน เคลิง และวัดพุทธนานาชาติ
แม้จะมีเสน่ห์จากเมืองเก่า แต่ปีนังก็มีความโมเดิลซ่อนอยู่ในทุกมุม ไม่ว่าจะ street art แกลเลอรี่หรือแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ ส่วนถ้าใครเป็นสายธรรมชาติก็มีตั้งแต่เดินป่าบน Penang Hill ชมเต่าทะเลที่ศูนย์อนุรักษ์ ไปจนถึงดูนกหายากที่ Penang Bird Park แต่ถ้าเรื่องที่พักเราขออาสาลิสต์โรงแรมที่คัดมาแล้วว่าดี ครบทุกสไตล์ ทั้งบูติกโฮเทลสุดชิค วิวดีริมทะเล ไปจนถึงพูลวิลล่าหรูที่อยากนอนแช่ทั้งวัน พร้อมให้ได้ใช้ชีวิต slow life หรือจะออกไปสำรวจเมืองก็ได้ แค่แพ็คกระเป๋าให้พร้อมก็ออกเดินทางได้เลย

Things to do
‘เกิด แก่ เจ็บ ยาย’ สแตนด์อัปคอมเมดี้ครั้งแรกของ ป๋อมแป๋ม นิติ
โชว์สแตนด์อัปคอมเมดี้ครั้งแรกของ ป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาทร พิธีกรมากความสามารถ ที่เคยผ่านบทบาทมาแล้วทุกด้านทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร นักแสดง โปรดิวเซอร์ หรือแม้แต่นักเขียน หลายคนอาจคุ้นเคยกับป๋อมแป๋มจากรายการยอดนิยมอย่าง เทยเที่ยวไทย และทอล์กกะเทย ที่มอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ผู้ชมมาอย่างยาวนาน
Photograph: thaiticketmajor
ปีนี้ ป๋อมแป๋มกลับมาในบทบาทใหม่ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน กับโชว์สแตนด์อัปคอมเมดี้ เดี่ยวครั้งแรกในชื่อ 'เกิด แก่ เจ็บ ยาย – Pompam’s Stand Up Comedy' ที่ในครั้งนี้ ยายจะมายืนจับไมค์บนเวทีในฐานะนักเล่าเรื่อง ถ่ายทอดชีวิตตลอด 44 ปีของตัวเอง ตั้งแต่เรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสุข ไปจนถึงช่วงเวลาที่เคยเสียน้ำตา แต่ในเมื่อเป็นโชว์ของ ยายป๋อมแป๋มทั้งที แน่นอนว่าทุกโมเมนต์ย่อมเต็มไปด้วยความสนุกและสีสันที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
ภายใต้คอนเซปต์ ‘เกิด แก่ เจ็บ ยาย’ โชว์นี้สะท้อนคำกล่าวที่ว่า วัย 40 เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ของชีวิตทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลายคนอาจเผชิญวิกฤตวัยกลางคน แต่ไม่ใช่สำหรับป๋อมแป๋ม! เพราะนี่คือการเดินทางของยาย ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ผ่านประสบการณ์หลากหลายที่หล่อหลอมให้เขาเข้าใจความเจ็บปวด ความแข็งแกร่ง และความงดงามของการเป็นตัวเองจนกลายเป็นยายป๋อมแป๋มที่ทุกคนรักในวันนี้
ตุลาคมนี้ มาร่วมสนุกไปกับเรื่องราวชีวิตที่จะทำให้คุณได้ทั้งความสุข เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มที่หลุดออกมาโดยไม่รู้ตัว ตามสไตล์ของยายป๋อมแป๋มที่ทั้งกล้าเล่า กล้ารับ และกล้าที่จะขำไปกับทุกเรื่องราวของตัวเอง ที่โรงละคร M Theater บัตรราคา 2,000 / 2,500 บาท เปิดจำหน่ายบัตรวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทาง ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และ www.thaiticketmajor.com วันที่ 18 ตุลาคม จำนวน 2 รอบ เวลา 13.00 น. และรอบ เวลา 19.00 น.
การโฆษณา
เผื่อคุณจะพลาดสิ่งนี้ไป...

Things to do
ได้รับการสนับสนุน
ฉลองเทศกาลดนตรีระดับโลก! ที่ Bangkok World Music Day 2025 ที่ One Bangkok และ Alliance Française Bangkok 14 มิ.ย.นี้ ชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
เตรียมตัวให้พร้อม! เพราะ “เทศกาลดนตรีกรุงเทพ ’68” (Bangkok World Music Day ’25) กำลังจะมาสร้างสีสันให้วงการดนตรีอีกครั้งในวันที่...

Things to do
ได้รับการสนับสนุน
Pride Film Festival เฉลิมฉลองเดือนไพรด์ด้วยหนังคุณภาพ ที่คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ
เดือนมิถุนายนเป็นเดือนพิเศษสำหรับชุมชน LGBTQIA+ และ Kimpton Maa-Lai Bangkok ก็ไม่พลาดที่จะร่วมเฉลิมฉลองด้วยการจัด Pride Film Festival ปีที่ 5 ขึ้นในวันที่ 13 -...

Travel
ได้รับการสนับสนุน
ยกระดับทริปเที่ยวมาเก๊า กับ 48 ชั่วโมงในโรงแรมสุดหรู THE KARL LAGERFELD MACAU
ทริปมาเก๊าครั้งนี้ เราได้มีโอกาสไปพักที่ โรงแรมเดอะ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ มาเก๊า (THE KARL LAGERFELD MACAU) โรงแรมห้าดาวในเครือแกรนด์ ลิสบัว พาเลซ รีสอร์ต มาเก๊า...

Things to do
THAIFEX - ANUGA ASIA: มหกรรมอาหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย - แปซิฟิก
โลกของอาหารในวันนี้มีเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่ก็หายไปเร็วยิ่งกว่าสูตรอาหารบน TikTok เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในทุกจานและทุกครัว นวัตกรรมที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง...

Restaurants
A Taste of Malibu in Bangkok
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น สัปดาห์นี้มีอีเวนต์พิเศษที่ไม่ควรพลาด เมื่อ Nobu Bangkok เปิดครัว ลับมีด เตรียมเขียง ต้อนรับเชฟโทชิยูกิ ชิรามิซุ จาก Nobu...
รีวิวร้านอาหารและคาเฟ่ในกรุงเทพฯ

Restaurants
Gordon Ramsay Bread Street Kitchen & Bar ICONSIAM
หลายปีหลังจากกระแสความนิยมของรายการทำอาหารที่พุ่งสูงขึ้น เชฟหลายคนได้กลายเป็นขวัญใจของคนรักอาหารทั่วโลก และหนึ่งในนั้นคือ เชฟกอร์ดอน แรมซีย์...

Restaurants
Tapori
เมื่อพูดถึงอาหารอินเดีย ภาพจำของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นสตรีตฟู้ดที่พ่วงมากับรถเข็น หรือตลาดที่มีผู้คนชุกชุม...

Restaurants
โสมะ
ตั้งแต่ร้านอาหารไทยได้รับรางวัลต่างๆ ไม่ว่าจะมิชลินไกด์ Thailand’s Favourite Restaurant หรือ The Worlds 50 Best Restaurants...

Restaurants
Olivetto
สาวกพาสต้าทั้งหลายคงคุ้นชินกับเบคอนในคาโบนารา หรือแซลมอนย่างในซอสเพสโต้ ราวกับเป็นสูตรสำเร็จของเมนูเส้นยอดนิยมจากอิตาลี...

Restaurants
Bisou
Bisou แกสโตรไวน์บาร์สไตล์ฝรั่งเศสเปิดใหม่ล่าสุด ย่านหลังสวน เสิร์ฟจริตปาริเซียงสุดเท่และเซ็กซี่...
รีวิวบาร์ในกรุงเทพฯ
Bars
Lost in Thaislation
ข้าวมันไก่ ผัดไทย หมูสับเกี้ยมบ๊วย ข้าวเหนียวมะม่วง ทั้งหมดนี้คือชื่อเมนูค็อกเทลของร้าน Lost in Thaislation บาร์ใหม่ย่านทองหล่อโดย ‘ฝาเบียร์ - สุชาดา...
Bars
#FindTheLockerRoom
แม้จะเป็นที่รู้จักจากรางวัลการันตีคุณภาพมากมายทั้งที่มอบให้ร้านและบาร์เทนเดอร์แต่ก็ยังยืนหนึ่งเรื่องการเป็น ‘บาร์ลับ’ อยู่ดี สำหรับ...
Bars
Falcon Secret Bar
ตอนที่ร้าน Marie Guimar (มารี กีร์มาร์) ร้านอาหารไทยบนชั้น 28 ของโรงแรม Wyndham Bangkok Queen Convention Centre เปิดใหม่ๆ...
บทสัมภาษณ์ล่าสุด

Movies
มาร์ค วีนส์ กับชีวิตที่ดำเนินด้วย “อาหาร” จากยูทูปเบอร์สู่รายการ Food Affair ทาง HBO
ด้วยจำนวนผู้ติดตามเกือบ 10 ล้านคนในช่องยูทูป ถ้าเราจะเรียก มาร์ค วีนส์ (Mark Wiens) ผู้นี้ว่าเป็นศาสนดาแห่งอาหารก็คงจะไม่เกินจริง...

Movies
คุยกับ ทิลด้า สวินตัน และ เจ้ย-อภิชาติพงศ์ กับผลงานภาพยนตร์ Memoria
ผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับหนังแนวอินดี้ ที่ได้นักแสดงชาวอังกฤษฝีมือดีเบอร์ต้นๆ ของวงการมาร่วมงานด้วย...

Restaurants
เชฟแพม-พิชญา: “โพทงเป็นเหมือนบ้านหลังแรกของความเป็นตัวเรา”
เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะรู้จัก เชฟแพม-พิชญา สุนทรญาณกิจ ในฐานะเชฟอาหารยุโรปมากความสามารถ...
แนะนำโรงแรมทั่วกรุงเทพฯ

Travel
Kimpton Kitalay Samui
ใครอยากหนีไปพักผ่อนเงียบๆ แต่ก็อยากเจอบรรยากาศมีชีวิตชีวาให้รู้สึกได้มาพักผ่อน เราว่าอาจจะชอบรีสอร์ทแห่งใหม่ Kimpton Kitalay Samui (คิมป์ตัน คีตาเล สมุย)...

Hotels
Capella Bangkok
โรงแรมคาเพลลา (Capella) แห่งแรกในประเทศไทยตั้งอยู่บนที่ดินผืนงามริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนถนนเจริญกรุง ให้บริการห้องพัก ห้องสวีท และวิลลา 101 ห้อง...

Hotels
W Bangkok
ถ้าจะบอกว่า W Bangkok คือหนึ่งในโรงแรมหรูที่เท่ที่สุด คูลที่สุด ฮิปที่สุดในกรุงเทพฯ ก็คงไม่ผิด ตั้งแต่สถานที่ใจกลางกรุงเทพฯ ณ แยกสาทร...

Hotels
Sindhorn Kempinski Hotel
สินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนเขียวชอุ่มของสินธรวิลเลจ ใกล้กับโรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok และห้าง Velaa เป็นโรงแรมเคมปินสกี้แห่งที่ 2...

Hotels
Kimpton Maa-Lai Bangkok
โรงแรมแห่งแรกจากแบรนด์ Kimpton ที่เข้ามาเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและการผสมผสานกันอย่างลงตัวของทุกองค์ประกอบ...
Quick Meal: ดูคลิปเมนูทำง่ายจากร้านดังทั่วกรุงเทพฯ

Restaurants
พล่ากุ้งอบวุ้นเส้น
Time Out: Quick Meal คลิปนี้ ชวนเชฟเรณู หอมสมบัติ จากร้าน Saffron โรงแรม Banyan Tree กรุงเทพฯ หนึ่งในร้านอาหารที่ร่วมฉลองครบรอบ 25 ปีเบียร์ช้าง ในงาน Time Out...


