12 ร้านอาหารเช้าในกรุงเทพฯ สำหรับนกที่ไม่อยากตื่นสาย

ร้านอาหารเช้าสไตล์อินเดียของเชฟการิมา อะโรรา แห่งร้านอาหาร Gaa (ซึ่งเปิดอยู่ด้านบนของร้านนี้) โดยเชฟบอกว่าเธอตั้งใจเปิดร้าน Here เพื่อเสิร์ฟอาหารเช้าที่คนอินเดียกินจริงๆ แต่เปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบสมัยใหม่และเข้าถึงง่ายมากขึ้น ซึ่งตอนนี้เฮดเชฟผู้มาดูแลเมนูอาหารตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นแทนเชฟการิมาก็คือ ซอราป ซาเดวา (Saurabh Sachdeva) เชฟชาวอินเดียที่ทำอาหารในเอเชียมานาน 16 ปีแล้ว

เมนูแนะนำเช่น Besan Poori (180 บาท) ขนมปังคล้ายพัฟที่พองจนข้างในเป็นโพรง จะฉีกแล้วจิ้มกินหรือเจาะแล้วใส่ซอสโยเกิร์ตมะม่วงลงไปก็ได้ หรืออีกเมนู Masala Egg Bhurji (220 บาท) ขนมปังซาวโดว์เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับไข่ที่คล้ายกับไข่คนให้กินคู่กัน

⏱ Here ซอยสุขุมวิท 53, เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7:30 - 17:00 น.

ร้านอาหารเช้าจนถึงสายสไตล์ออสซี่ และเราเชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักหรือไปบ่อยๆ จนมีเมนูประจำกันแล้วแน่นอน โดยตอนนี้ร้านมาเปิดสาขาใหม่ล่าสุดเป็นแห่งที่ 3 อยู่ที่โครงการ nobe PLAY ติดบีทีเอสเพลินจิต มาพร้อมขนม อาหาร และเครื่องดื่มให้สั่งกันได้เต็มอิ่มเช่นเดิม ส่วนบรรยากาศก็เหมาะทั้งแวะมานั่งจิบกาแฟสไตล์คาเฟ่ หรือจะมานั่งกินอาหารจริงจังเลยก็ได้ เพราะโครงการนี้เป็นคอมมูนิตี้ที่มีทั้งแกลเลอรี เวิร์กช็อป และกิจกรรมให้ทำกันได้ในวันหยุดชิลๆ

Toby's หน้าโครงการ Noble Play เพลินจิต, เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00 - 17:00 น. 

ร้านอาหารเช้าสไตล์ all-day dining ที่เปิดจนถึงมืดค่ำ ที่นี่เราว่าหลายๆ คนน่าจะเคยเห็นหรือเคยลองแวะไปนั่งสัมผัสด้วยตัวเองแล้ว เพราะมีบรรยากาศสดใสไม่เหมือนใคร น่าแวะมานั่งเติมสีสันในวันหยุดสุดๆ ซึ่งนั่นก็ตรงกับคอนเซ็ปต์ของร้านด้วย ที่ตั้งใจเป็นร้านอาหารแนว art-inspired ที่จะทำให้ทุกคนสนุกเมื่อมาใช้เวลาที่นี่

นอกจากนี้ หากใครแวะไปทุกวันเสาร์ Chim Chim จะมีมื้อพิเศษที่มีดีเจมาเปิดเพลงไวนิลให้ฟังช่วงมื้อสายด้วย ถ้าใครอยากกินมื้อเช้าจนมื้อสายแบบชิลๆ แถมได้รูปกลับไปในวันหยุด เราว่าที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีเลย แต่แนะนำให้จองที่นั่งล่วงหน้าก็ดีนะ

Chim Chim ในโรงแรมสยาม แอท สยาม, เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00 - 22:00 น.

อยากกินมื้อเช้าแบบฮิปๆ หน่อยต้องไปที่นี่ ร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศสุดเท่ประจำย่านเจริญกรุง ซึ่งทุกคนน่าจะรู้แล้วว่า Sarnie’s เป็นร้านกาแฟดังจากสิงคโปร์ แต่นอกจากเรื่องกาแฟเขาก็เสิร์ฟอาหารเช้าจนถึงสายให้ชิมในจานใหญ่ๆ อีกด้วย โดยที่นี่จะเน้นอาหารสไตล์ฟิวชั่น มีกลิ่นอายอาหารตะวันตกแต่ก็ถูกปากคนไทย เมนูใหม่ที่ร้านแนะนำให้แวะไปลองช่วงนี้ก็คือ “ส้มตำสลัดแพนเซลเนลล่า” ทำมาจากมะเขือเทศรมควัน อะโวคาโด โหระพา เฟต้าชีส มะม่วงเปรี้ยว ถั่ว และนํ้าส้มตำรสแซ่บ

อ้อ! แต่ถ้าใครอยากลองอาหารเช้าแนวขนมปัง พิซซ่า โทสต์ แซนด์วิช จับคู่กับกาแฟดีๆ สักแก้ว ก็ลองแวะไปร้านใหม่ของ Sarnie’s ในย่านเดียวกันดูได้นะ ชื่อร้าน Sarnie’s Sourdough

⏱ Sarnie’s เจริญกรุง 44 และ Sarnie’s Sourdough เจริญกรุง 42, เปิดทุกวัน 8.00 - 22.00 น.

คาเฟ่และร้านอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ หรืออยากเริ่มต้นวันด้วยการไม่กินเนื้อ เพราะแทบทุกเมนูของร้านนี้จะเป็นสไตล์ plant-based ที่กินแล้วอิ่มท้อง แถมมีรสชาติจากวัตถุดิบที่ตั้งใจทำเองทุกอย่าง โดยทุกเมนูจะเสิร์ฟให้ชิมตลอดวันตั้งแต่เช้าถึงเย็น

เมนูที่อยากให้ลองคือ The Bibi Bowl (220 บาท) ข้าวยำสไตล์เกาหลีที่ใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่แทน เสิร์ฟพร้อมผักโขม เห็ดชิตาเกะ ถั่วงอก แครอท แตงกวา และเต้าหู้ ซึ่งทีเด็ดอยู่ตรงน้ำซอสบิบิมบับที่รสชาติไม่เหมือนใคร มีรสเผ็ดอ่อนๆ ทว่าคลุกเคล้ากันแล้วทำให้จานนี้มีรสชาติที่ไม่น่าเบื่อ 

⏱ Plantiful ซอยสุขุมวิท 61, เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 - 17.00 น.

ต่อไปนี้ชาวสุขุมวิท 49 และใกล้เคียง มีเหตุผลให้ตื่นมากินมื้อเช้าและบรันช์แล้ว เพราะ Kay's Boutique Breakfast ร้านอาหารเช้าจากโรงแรม K Maison ซอยรางน้ำ มาเปิดสาขาล่าสุดใกล้ๆ กับ The 49 Terrace เปิดร้านวันนี้วันแรกด้วยบริการร้านอาหารเต็มรูปแบบพร้อมเมนูใหม่ที่มีเฉพาะสาขานี้เท่านั้น

หน้าร้านสวยสะดุดตาด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ตัวร้านก็กลืนไปกับความเป็นธรรมชาติด้วยวัสดุตกแต่งที่เป็นไม้ซะส่วนใหญ่ ส่วนบรรยากาศข้างในร้านนั้น เรียกว่าโล่ง โปร่ง นั่งสบาย เพราะนอกจากพื้นที่ร้านจะกว้างและมีเพดานสูงๆ แล้ว เรายังสามารถมองทะลุผนังกระจกใสออกไปเจอธรรมชาติรอบๆ ร้านได้แทบทุกองศา แถมมีต้นมะกอกอายุ 200 ปี ประดับอยู่กลางร้านด้วย

Kay’s สุขุมวิท 49 จะเสิร์ฟอาหารเช้าตั้งแต่ร้านเปิด 7.30 น. จนถึง 14.00 น. เมนูที่เสิร์ฟเฉพาะสาขานี้คือ Breakfast Board (390 บาท) อาหารเช้าที่เสิร์ฟมาบนถาดไม้ ประกอบด้วย ขนมปังซาวโดวจ์ เบคอน ไข่ดาว แซลมอนรมควัน อโวคาโด สลัด และกราโนลาโยเกิร์ต อีกเมนูคือ Breakfast Taco (290 บาท) อาหารเช้าสไตล์ทาโกเครื่องแน่นๆ มีทั้งอโวคาโด ไข่ เบคอน ชีส และแฮชบราวน์

ใครตื่นสายหน่อยที่นี่ก็มีเมนู Lunch/Dinner เสิร์ฟตั้งแต่ 11.00 - 21.00 น. จะกินเป็นมื้อบรัช์หรือหรือมื้อเย็นก็ได้ มีให้สั่งทั้งสลัด พาสต้า และอาหารจานหลัก เราเริ่มที่ Kale Salad (280) เคลสีเขียวสดกรอบๆ กับชีส แอปเปิลและอัลมอนด์ ส่วนพาสต้าเราสั่ง Crab Arrabiata (490 บาท) เส้นพาสต้าที่ร้านทำเองคลุกเค้าซอสมะเขือเทศและเนื้อปู

ต่อด้วยจานหลักอย่าง Roasted Rosemary Chicken (380 บาท) ไก่อบโรสแมรี่เนื้อนุ่มที่ทำให้มื้อนี้เป็นมื้อที่ทั้งอิ่มและอร่อย แต่ยังไม่หมด เพราะมาที่ Kay’s ก็ต้องชิมโทสต์ ซึ่งถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เราลองชิม Crab Aioli Toast (320 บาท) เนื้อปูแน่นๆ ชุ่มซอสไอโอลีวางบนโทสต์เนื้อนุ่มซึ่งเรายกให้เป็นเมนูที่ชอบที่สุด

ตอนนี้ Kay’s สุขุมวิท 49 เปิดให้บริการเฉพาะโซนอินดอร์ก่อน ส่วนโซนเอาต์ดอร์จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ พร้อมต้อนรับน้องหมาน้องแมวของเราด้วย แวะไปนั่งกินมื้อเช้า มื้อสาย หรือมื้อเย็น ได้แล้ววันนี้ ร้านเปิดตั้งแต่ 7.30 - 22.00 น. (ครัวปิด 21.00 น.)

อีกหนึ่งร้านอาหารและจุดแฮงเอาต์ที่เราเชื่อว่าใครๆ ก็รัก เพราะนอกจากบรรยากาศที่ดี ที่นี่ก็เสิร์ฟเมนูอาหารเรียบง่าย แต่รสชาติเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์จากฝีมือ เชฟต้อยติ่ง ผู้เคยทำอาหารในร้านดังๆ มาก่อน เช่น Gaa, 80/20 และ Noma โดยเมนูส่วนใหญ่ที่เชฟเสิร์ฟในร้านจะมีกลิ่นอายอาหารยุโรป แต่ผสมผสานรสชาติไทยๆ ลงไปด้วย

⏱ H dining ซอยสุขุมวิท 49, เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 - 22.00 น.

ถ้าใครเป็นคนชอบอาหารกลิ่นอายญี่ปุ่นแบบเราต้องรักที่นี่แน่นอน เพราะ Okonomi (โอโคโนมิ) เป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นจากเมืองบรูกลิน นิวยอร์ก ที่มีเจ้าของเป็นชาวญี่ปุ่นแท้ๆ โดยเขาตั้งใจเปิดร้าน Okonomi ขึ้นก็เพื่อเสิร์ฟอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบสำรับ หรือ ‘อิชิจู-ซันไซ’ โดยเฉพาะเลย ซึ่งแน่นอนว่าสาขากรุงเทพฯ ก็จะมีเซ็ตอาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟให้ลองกันด้วย ทว่าต้องตื่นเช้ากันหน่อย เพราะเสิร์ฟถึงเวลา 11 โมงเท่านั้น

แต่ถ้าใครมาไม่ทันเวลาก็ไม่เป็นไร เพราะเขายังมีอาหารอื่นๆ ที่เสิร์ฟทั้งวันให้ลองกันอีกเพียบ เช่น  Unagi Kabayaki (550 บาท) ข้าวหน้าปลาไหลย่างซอสซีอิ๊วหวานผสมซิตรัส หรือ Shiro Shoyu Ramen (300) ราเมนที่เป็นอีกเมนูขึ้นชื่อ เสิร์ฟพร้อมปลามาไดหมักสาหร่ายคอมบุ

⏱ Okonomi ซอยสุขุมวิท 38, เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00 - 18:00 น.

ถ้าใครอยากกินมื้อเช้าในบรรยากาศเงียบๆ พร้อมกาแฟดีๆ และแสงธรรมชาติ เราแนะนำให้ขึ้นไปนั่งบนคาเฟ่ชั้น 19 ของตึกสาทรนคร เพราะที่นี่บรรยากาศดีและคนไม่เยอะจนเกินไป (ถ้าไปตอนเช้าล่ะก็นะ)

ร้านนี้เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่อาจรับได้เพียง 10 คนเท่านั้น เราเลยคิดว่าอาจถูกใจคนที่ไม่ชอบเจอคนแน่นร้าน หรือไม่ชอบรอเครื่องดื่มนานๆ ซึ่งนอกจากเครื่องดื่มสไตล์คาเฟ่ Rico’s ก็มีอาหารเช้าแนวโทสต์และแซนด์วิชที่เราแนะนำให้สั่งมากๆ ให้ลองด้วย ซึ่งเมนูเด่นของร้านก็คือ “Signature speculoos créme toast (90 บาท)” ขนมปังฮอกไกโดหอมๆ กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมกล้วยหอมคาราเมไลซ์และซอสโฮมเมดผสมคุกกี้บิสคอฟฟ์ หรืออีกเมนู “Bacon avocado sandwich (120 บาท)” แซนด์วิชไส้เบคอน ไข่ อโวคาโด และผักสด ราดซอสทรัฟเฟิลมาโยโฮมเมด

⏱ Rico's ชั้น 19 ตึกสาทรนคร, เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8:00 - 17:00 น.

คาเฟ่และร้านอาหารมื้อเช้าถึงสายแห่งใหม่ในย่านหลังสวน ที่นี่เปิดอยู่ในล็อบบี้โรงแรมสินธร มิดทาวน์ มาในบรรยากาศสงบๆ และโปร่งสบาย ถ้าหากวันไหนคนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่จะเหมาะกับการนั่งชิลกินอาหารสบายๆ ที่สุด และเราชอบที่ค่อนข้างมีหลายมุมให้เลือกนั่ง ตั้งแต่โต๊ะเตี้ยสำหรับจิบกาแฟ ไปจนถึงเคาน์เตอร์สูงสำหรับกินอาหาร

ที่นี่จะเน้นเสิร์ฟทั้งมื้อหนักและมื้อเบา เลยมีลิสต์เมนูตั้งแต่กาแฟ เบเกอรี่ สมูธตี้ ข้าว พาสต้า พิซซ่า ไปจนถึงอาหารตกวันตกที่อาจหากินได้เฉพาะในร้านอาหารยุโรปเท่านั้น เช่น “Braised Beef Cheek (390 บาท)” แก้มวัววากิวตุ๋นจนนุ่ม มาพร้อมมันบด เห็ดผัด และซอสไวน์แดง หรือ “Tossed Taco Salad (240 บาท)” สลัดเสิร์ฟมาในชามทาโก้กรอบๆ กินได้ทั้งชิ้น ด้านในมีผัก ถั่ว ชีส น้ำสลัด และเลือกเนื้อสัตว์ได้ระหว่าง ไก่ หมู หรือ เนื้อ (+50 บาท) 

⏱ Sip & Co. โรงแรมสินทร มิดทาวน์, เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6:00 - 19:00 น.

ถ้าใครกำลังอยากตื่นเช้ามานั่งเล่นที่คาเฟ่ พร้อมมีอาหารอิ่มท้องให้สั่งไปพร้อมๆ กันด้วย เราว่าต้องลองแวะมาที่นี่เลย เพราะคาเฟ่เล็กๆ กลางซอยสุขุมวิท 23 ที่มาพร้อมเงาไม้ร่มรื่น และโซนกลางแจ้งบนดาดฟ้าให้นั่งชิล เขาเสิร์ฟเมนูอาหารอีกหลายอย่างนอกไปจากกาแฟและขนมรสชาติดี เช่น แซนด์วิชไข่ โจ๊ก ไปจนถึงสเต๊ก

เมนูแนะนำก็เช่น Fried Chicken Sandwich (190 บาท) แซนด์วิชไข่และไก่ทอดกรอบๆ รสชาติสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ดที่เชื่อว่าใครๆ ก็ต้องติดใจ หรือ Ribeye Steak & Scrambled Egg (495 บาท) เนื้อสเต๊กและไข่คนพร้อมน้ำจิ้มคล้ายแจ่ว สุดท้ายเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่ โจ๊กและครัวซองต์ (160 บาท) อาหารเช้าง่ายๆ ที่เพิ่มขนมอบสัญชาติฝรั่งเศสมาให้กินด้วยกัน 

⏱ Cosmos ซอยสุขุมวิท 23, เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07:30 - 17:30 น.

ร้านอาหารสไตล์ cocoa bistro จากแบรนด์ Kad Kokoa ที่ใช้โกโก้และช็อกโกแลตไทยมาผสมในทุกเมนู ตั้งแต่อาหาร ขนม และเครื่องดื่ม และเป็นส่วนผสมและเป็นพื้นที่โชว์ความสามารถของทีมเชฟเยาวชนไทยที่ไปแข่งทำอาหารในเวทีระดับโลก

อาหารที่ร้านนี้จะมีทั้งสลัด แซนด์วิชหน้าเปิด และจานหลักที่เป็นโปรตีนกินอิ่มเป็นมื้อ โดยทั้งหมดเป็นสไตล์ French-Nordic รสชาติส่วนใหญ่เลยจะถูกปากคนชอบกินอาหารดีต่อร่างกาย หรือชอบอาหารเบาๆ เมนูที่แนะนำอย่างเช่น Shrimp Cocktail Tartine (290 บาท) เป็นแซนด์วิชหน้าเปิดที่ทาด้วยซอสเทาซันไอร์แลนด์ ก่อนท็อปด้วยกุ้ง ไข่ต้ม และบัตเตอร์นัทเพียวเร หรือ Seared Andaman Barramundi (390 บาท) ปลากระพงขาวเซียร์จนผิวกรอบสวย มาพร้อมต้นกระเทียมและมันฝรั่งเพียวเร ราดซอสไวน์ขาวผสมโกโก้นิบส์ และผักดองน้ำโกโก้

⏱ 31 Degrees by Kad Kokoa ซอยสุขุมวิท 31, เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00 - 23:00 น.