1. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  2. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  3. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  4. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  5. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  6. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  7. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  8. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  9. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  10. HERE bkk
    Tanisorn Vongsoontorn
  11. HERE bkk
    GAA

รีวิว

HERE

5 จาก 5 ดาว
  • Restaurants | อาหารอินเดีย
  • วัฒนา
  • แนะนำ
Kenika Ruaytanapanich
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

ในที่สุดร้านอาหารแห่งใหม่ของเชฟการิมา อะโรร่า ที่หลายคนรอคอยก็เปิดให้บริการแล้ว บนโลเคชั่นเดียวกับร้าน Gaa ในซอยสุขุมวิท 53 ซึ่งร้านจะอยู่บนชั้นล่างพร้อมกับบรรยากาศสไตล์ห้องนั่งเล่นที่เหมาะกับการนั่งกินอาหารทั้งมื้อเช้า มื้อสาย จนถึงมื้อเย็น

HERE ยังคงนำเสนออาหารอินเดียในคอนเซ็ปต์ทันสมัยอย่างที่เชฟการิมาถนัด ทว่าสำหรับร้านน้องใหม่แห่งนี้เชฟตั้งใจทำให้ทุกเมนูเข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน ทว่าหน้าตาและรสชาติยังคงสวยงามและน่าประทับใจตั้งแต่แรกเห็น อีกทั้งราคายังเป็นมิตรน่าคบหาอีกด้วย โดยเมนูส่วนใหญ่จะเป็นอาหารอินเดียที่อาจไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ส่วนหนึ่งเป็นความตั้งใจของเชฟเอง ที่อยากให้ทุกคนได้ลองชิมอาหารเช้าแบบที่ชาวอินเดียรับประทานกันจริงๆ

เมนูที่ร้านจึงมีความหลากหลายและเหมาะสำหรับมื้อระหว่างวัน มีตั้งแต่ Masala Chai (90 บาท) ชาอินเดียต้นตำรับที่แนะนำให้สั่งมากินคู่กับ Rusk (150 บาท) ขนมปังกรอบที่มาพร้อมเนยและแยมขิง เวลากินให้ลองปาดเนยและแยมลงบนขนมปังก่อน เมื่อชิมรสแล้วค่อยลองนำไปจุ่มกินกับชาร้อนๆ

เมนูต่อมาที่เราชอบเป็นพิเศษยกให้ Mango Shrikhand (180 บาท) โยเกิร์ตเนื้อเนียนพร้อมซอสมะม่วง เสิร์ฟคู่กับแป้งปูรี (poori) เป็นแป้งที่นำไปทอดจนพองเป็นโพรงด้านใน เวลากินให้ฉีกแป้งเป็นแผ่นแล้วดิป หรือจะใส่โยเกิร์ตลงด้านในแล้วกินก็สนุกดี ส่วนอีกเมนูแนะนำคือ Egg Bhurji (220 บาท) เมนูนี้คล้ายไข่คนที่เสิร์ฟคู่กับขนมปังซาวโดว์และบัตเตอร์เพาว์ (butter pav) แนะนำให้กินประกบกันคล้ายแซนด์วิชแล้วกัดทีละคำตอนร้อนๆ รับรองว่าเป็นจานที่เหมาะสำหรับมื้อเริ่มต้นวันสุดๆ

หรือใครอยากกินมื้อเช้าแบบสดชื่นและเบาท้อง ร้านก็มี Boppa Doi (220 บาท) ด้านล่างเป็นโยเกิร์ตรสมัทฉะ ท็อปด้วยผลไม้หลากชนิด หรือเมนูโทสต์ Eggfruit Mole (220 บาท) ขนมปังซาวด์โดว์ ท็อปด้วยม่อนไข่และไข่ต้ม ก็น่าลอง

ส่วนเมนูที่ควรสั่งเพราะหากินได้ยากคือ Black Rice Dosa (220 บาท) ขนมที่ชาวอินเดียนิยม ซึ่งโดซ่าของร้านต่างจากที่อื่นๆ เพราะแป้งทำจากข้าวสีดำ เสิร์ฟพร้อมดิป 3 อย่าง คือ ชัทนีย์มะพร้าว กันพาวเดอร์ และกี เมนูนี้สามารถฉีกแผ่นแป้งแล้วดิปผสมกันได้ตามใจชอบ

หลายเมนูที่ร้านมีความดีต่อสุขภาพไม่น้อย ซึ่งมีหลายจานที่เชฟการิมานำสูตรมาจากครอบครัวของเธอเอง ทำให้รสชาติที่เราจะได้ลองมีความอบอุ่น และผสมกลิ่นอายจากบ้านเกิดของเชฟอยู่ นอกเหนือจากเมนูที่แนะนำไปก็ยังมีอาหารประเภทโจ๊กสไตล์อินเดีย สลัด และเบเกอรี่ให้สั่งมาเติมเต็มมื้อแรกของวันให้ครบอีกเช่นกัน

โดยตอนนี้ร้านก็เปิดช่วงเวลาเพิ่มสำหรับมื้อเย็นแล้ว ซึ่งจะมีไวน์ชั้นดีให้เลือกดื่มเคล้ากับลิสต์เมนูเฉพาะมื้อค่ำ ซึ่งจะเสิร์ฟในพอร์ชั่นสำหรับหนึ่งคน และแชร์ร่วมกัน แน่นอนว่าอาหารยังคงเป็นสไตล์อินเดีย มีทั้งจานสลัด ซีฟู้ด นาน เมนูย่าง เคบับ และพลาดไม่ได้กับไอศกรีม Kulfi (90 บาท) ขนมหวานสไตล์อินเดียฉบับดั้งเดิม

HERE เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.30 - 17.00 น. และ 17.30 - 23.00 น.  สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 097 140 5647

รายละเอียด

ที่อยู่
46/1
Soi Thonglor 1
Klongton-Nua, Wattana
Bangkok
10110
เปิดบริการ
ทุกวัน 7:30-17:00, 17:30-23:00
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ