'ชาบูและสุกี้' อาหารจริตเมืองหนาวที่ถูกปาก ถูกใจ คนเมืองร้อนอย่างเรา จนหากินได้แทบทุกตรอกซอกซอย แต่ถ้าให้เราแนะนำ นี่คือร้านชาบูและสุกี้หลากหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ที่เราไม่อยากให้สายกินทั้งหลายพลาด!
การโฆษณา
ร้านชาบูและสุกี้ในกรุงเทพฯ
ร้านชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ที่นำเข้าความอร่อยจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยมและเนื้อหมูคุโรบุตะสายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น คัดสรรอย่างพิถีพิถันเพื่อรสชาติและความนุ่มละมุนที่มีเอกลักษณ์คงแบบฉบับดั้งเดิมของ Mo-Mo-Paradise
นอกจากนี้ ยังมีวัตถุดิบชั้นเลิศให้เลือกทั้งไก่ไม้ไผ่ ทำจากไก่ที่ถูกเลี้ยงด้วยข้าวกล้อง ปราศจากฮอร์โมน ปลอดสาร ปลอดภัย และเนื้อเป็ดอนามัย สามารถเลือกทานกับซุปได้ 4 แบบคือซุปชาบูชาบู ซุปสุกี้ยากี้ ซุปคารามิโซะ และซุปทงคตสึ จิ้มกับซอสสูตรพิเศษที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนไข่ไก่ก็ใช้ไข่ไก่ที่ทานสดได้ และยังมีเมนูของหวานเป็นไดฟุกุ และไอศครีมโฮมเมด ทั้งหมดนี้มาในราคา 616 บาทต่อคน
นาทีนี้อาหารญี่ปุ่นยอดนิยมคงหนีไม่พ้น ชาบูชาบู เพราะทั้งอร่อยและเฮฮายามกินกับเพื่อน จนร้านประเภทนี้เยอะไปหมด แต่ถ้าให้เลือกร้านที่อร่อยได้รสอูมามิ ทั้งหวานทั้งเค็มทั้งเข้มข้นแบบพอดิบพอดี ต้องขอยกให้ Yukari Shabu Shabu ของดีเจออย อากรศรีจากคลื่น FM1 ด้วยสโลแกน 'ถ้าของไม่สด ทางร้านก็จะไม่ยกมาเสิร์ฟ'
ร้านชาบูแห่งนี้มีน้ำซุป 3 แบบ 3 สไตล์ได้แก่ น้ำซุปไก่พริกไทยดำ น้ำซุปกระดูกหมู และน้ำซุปสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่น โดยซุปทุกแบบจะผ่านการต้มและเคี่ยวนานหลายชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติอร่อยล้ำแบบปราศจากผงชูรสจริงแท้แน่นอน แถมน้ำจิ้มสุกี้ยากี้สูตรจัดจ้านอันเป็นเอกลักษณ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ของร้านยังมีกลิ่นอายความเป็นไทยแอบซ่อนอยู่ด้วยส่วนผสมของสมุนไพรบางชนิด ส่วนเนื้อสไลด์เกรดพรีเมียมก็มีเนื้อชุ่มฉ่ำน่าดึงดูดให้ลงไปนอนในหม้อน้ำซุปที่กำลังเดือดปุดๆ อย่างไม่รอช้า พร้อมเปิดฉากปาร์ตี้ชาบูกันทันที
การโฆษณา
สุกี้ที่ร้านนี้เป็นสุกี้ยากี้ญี่ปุ่นสไตล์คันไซ ซึ่งเป็นสุกี้ยากี้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่สืบทอดความอร่อยมานานกว่า 100 ปีแล้ว ทีเด็ดอยู่ที่การปรุงเนื้อด้วยซอสวาริชิตะ ที่มีรสชาติกลมกล่อมของซอสที่หมักจนได้ที่ และน้ำซุปทงคัตสึ คอลลาเจนที่ต้มและเคี่ยวนานกว่า 8 ชั่วโมงจนได้น้ำซุปที่เข้มข้นพร้อมอุดมไปด้วยคุณประโยชน์และคอลลาเจนจากไขกระดูก
เนื้อที่ร้าน Suki Masa จะใช้เนื้อวัววากิวแท้นําเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ทางร้านก็เน้นคัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติ สดใหม่ ได้มาตรฐาน รวมถึงไม่ใช้ผงชูรสในการปรุงอาหาร ทําให้การทานสุกี้ที่ร้านนี้เป็นมื้ออาหารที่มีทั้งความอร่อยและดีต่อสุขภาพ
หลังจากประสบความสำเร็จไปกับสาขาแรกที่ ถ.พระราม 4 FuFu (ฟู่ฟู่) จึงอยากกระจายความอร่อยไปย่านใจกลางกรุงได้ทำเลแถวอารีย์ เดินทางสะดวกสบายมีที่จอดรถกว้างขวาง ร้านโอ่อ่า โต๊ะกว้าง ที่นั่งสบาย ถ้ามาจัดเลี้ยงควรจองที่นั่งไว้ก่อนจะได้มุมเป็นส่วนตัว วัตถุดิบคัดสรรมาอย่างดี มีทั้งเนื้อวัว เนื้อลูกมะพร้าว สันในหมู เบคอน เนื้อไก่ รวมถึงซีฟู้ดนานาชนิด ทีเด็ดต้องยกให้ลูกชิ้นใส่ไส้ ทั้งลูกชิ้นไส้หมู ไส้ชีส ไส้ไข่แดง กัดลงไปคำแรกก็ไส้ทะลักแล้ว น้ำซุปที่นี่มีเยอะมากถึง 6 ชนิด หม้อต้มแบบแบ่งครึ่งสามารถเลือกได้ 2 น้ำซุป แนะนำเป็นแบบเผ็ดและแบบธรรมดา ทั้งซุปชาบูไต้หวัน ซุปหม่าล่า ซุปยาจีน และซุปต้มยำ สำหรับคนกินมังสวิรัติแนะนำซุปเห็ดหอมและซุปพริกไทยดำ สำหรับเราเลือกซุปชาบูไต้หวัน เป็นซุปกระดูกหมูน้ำใสใส่ส่วนผสมสูตรพิเศษ และน้ำซุปหม่าล่า เป็นน้ำซุปกระดูกหมูสไตล์ไต้หวันตัวเด่นของทางร้าน มีรสชาติเผ็ดร้อนจากซอสหม่าล่าที่ทางร้านสั่งตรงมาจากไต้หวันโดยเฉพาะ มีน้ำจิ้มให้เลือก 2 แบบ คือ น้ำจิ้มไต้หวันที่ให้เราปรุงเอง ส่วนผสมคือ กระเทียม พริก ต้นหอม น้ำพริกเผา ซาฉา ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู และมีความพิเศษอยู่ที่จะมีไข่ไก่ที่ต้องแยกเอาแต่ไข่แดงเท่านั้น ใส่ลงไปในน้ำจิ้มด้วย ส่วนน้ำจิ้มอีกแบบคือน้ำจิ้มกวางตุ้ง (สุกี้) แบบที่คุ้นเคย
การโฆษณา
ร้านชาบูชาบู องยาไซ เน้นการใส่ใจเรื่องวัตถุดิบเป็นสำคัญ ด้วยการคัดสรรผักสดตามฤดูกาลจากไร่ออร์แกนิกและนำเข้าเนื้อคุณภาพ ส่วนนํ้าซุปก็มีให้เลือกหลักๆ ถึง 8 แบบ ทั้งนํ้าซุปสไตล์ญี่ปุ่น ซุปสาหร่ายคอมบุ ซุปกิมจิ ซุปกระดูกหมู ซุปสุก็ยากี้ ซุปนมถั่วเหลือง ซุปต้มยำ ซุปแกงกะหรี่ และยังมีนํ้าซุปพิเศษตามฤดูกาลด้วย
อาหารก็มีทั้งบุฟเฟต์และอลาคาร์ต โดยบุฟเฟต์เริ่มต้นที่ราคา 399++ บาท ทานได้ไม่อั้น 1 ชั่วโมงครึ่ง เหมาะกับคนไม่ทานเนื้อ แต่ถ้าทานได้หมด ทางร้านแนะนำบุฟเฟต์ ราคา 799++ บาทและ 1199++ บาท เพราะเราจะได้อิ่มไม่อั้นกับเมนูที่พรีเมี่ยมที่สุดในร้าน มีทั้งเนื้อวากิวนำเข้าจากออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อเมริกา และเมนูซีฟู้ด เช่น กุ้งลายเสือ ปลาแซลมอน หอยแมลงภู่
บรรยากาศภายในร้านเน้นความสบายตา ตกแต่งด้วยงานไม้เป็นหลัก ดูอบอุ่นเหมือนได้นั่งทานข้าวที่บ้าน ใครมาเป็นครอบครัวก็มีมุมส่วนตัวรองรับ โดยเป็นโต๊ะที่นั่งสบายสามารถนั่งหย่อนเท้าได้ ได้ฟีลญี่ปุ่นที่แท้จริง
ร้านฮอตพ็อตขวัญใจคนไทย MK เปิดสาขาใหม่เอี่ยมที่เอ็มควอเทียร์ ชื่อว่า MK Live ที่เน้นนอกจากผัดสดๆ และเป็ดย่างรสเด็ดที่เราคุ้นเคย MK Live เพิ่มเติมวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น กุ้งลอบสเตอร์จากแคนาดา เนื้อวากิวญี่ปุ่น หรือผักสดจากโครงการหลวง แล้วเสริมความอร่อยด้วยน้ำซุปใหม่ 5 แบบทั้ง น้ำสุกี้ต้มแบบดั้งเดิม น้ำสุกี้ดำ น้ำสุกี้ต้มยำกุ้ง น้ำสุกี้เต้าเจี้ยว และน้ำสุกี้มิโซะ ที่มีให้เลือกกันตามใจชอบ MK Live ยังเอาใจคนรักสุขภาพด้วยเมนู สตีมชาบู 3 เซ็ต ได้แก่ หมูคุโรบูตะ (550 บาท) เนื้อวัวออสเตรเลีย (650 บาท) และเนื้อวากิวญี่ปุ่น (1,100 บาท) ให้ทุกคนได้นึ่งแทนการต้มแบบปกติ ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 นาทีก็ได้อาหารร้อนๆ อร่อยๆ แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกต่างหาก
นอกจากอาหารจะสดใหม่แล้ว MK Live ยังตกแต่งร้านให้ดูสดชื่นกว่าเดิม โดยนำแรงบันดาลใจของเรือนกระจกของฟาร์มปลูกผัก เน้นการตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติทั้งไม้ หิน และดิสเพลย์สวนผักไฮโดรโพนิกส์ที่ช่วยการันตีความสดของอาหารได้อย่างแน่นอน
Discover Time Out original video
การโฆษณา