[title]
เชื่อว่าหลายคนต่างคิดถึงผลงานของ อาจารย์มาโกโตะ ชินไค ที่เคยฝากความซาบซึ้ง ประทับใจแก่คอหนังทั่วโลกไว้จากผลงาน 5 Centimeters Per Second (2007),The Garden of Words (2013) และผลงานที่สร้างปรากฏการณ์จนทุกคนต่างกล่าวถึงอย่าง Your Name (2016) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายทั้งในแง่ของรายได้และกระแสดีของคำวิจารณ์ ก่อนจะมาถึงผลงานภาพยนตร์อนิเมชั่นแฟนตาซีชวนฝันเรื่องล่าสุดที่แฟนๆ เฝ้านับถอยหลังรอวันรับชมมากที่สุดในนาทีนี้ก็ว่าได้กับ ‘Weathering with You’
เรื่องนี้นับเป็นผลงานอนิเมชั่นเรื่องยาวชิ้นที่หกของชินไคที่บอกเล่าเรื่องราวของ ‘โฮดากะ โมริชิมะ’ เด็กหนุ่มมัธยมปลายจากเมืองเล็กๆ ในชนบทที่ตัดสินใจออกเดินทางมายังโตเกียวเพื่อใช้ชีวิตเพียงลำพัง ด้วยการทำงานเป็นนักเขียนในนิตยสารรวมสิ่งลึกลับ และสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างในเมืองแห่งนี้ที่เกิดขึ้นบ่อยจนคนในเมืองคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งนำไปสู่จุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้พบกับ ‘ฮินะ อามาโนะ’ สาวน้อยปริศนาที่มีความสามารถในการควบคุมสภาพอากาศกับความลับที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบไปตลอดกาล
หาก Your name ทำให้เราได้เห็นด้านที่สดใสของโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะพาไปมองด้านที่หม่นหมองของโลก ว่าเมื่อความปรารถนาและความรักของมนุษย์ได้ลองทำงานของมันอย่างเต็มที่แล้ว จะสามารถส่งผลกับการตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ ได้ รวมทั้งเปลี่ยนโลกให้เป็นไปในทิศทางใดได้บ้าง โดยในการทำงานครั้งนี้ชินไคยังคงทำงานร่วมกับ มาซาโยชิ ทานากะ นักออกแบบตัวละครมืออาชีพที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อนในเรื่อง Your Name บวกกับงานสร้างภายใต้การดูแลของ ฮิโรชิ ทาคิกุจิ ผู้กำกับศิลป์จากเรื่อง The Garden of Words ที่ทำให้เราได้เห็นฉากสวยแปลกตา มีมิติความลึกและชั้นของภาพ ตลอดจนมุมมองกล้องที่สวยขึ้นนั้น และงานภาพที่งดงามนี้ก็ได้มีส่วนอย่างมากที่ทำให้การเล่าเรื่องในภาพยนตร์สนุกขึ้น มีอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งความยินดี เศร้าโศก เสียใจ และแฟนตาซี แตกต่างจากผลงานยุคแรกๆ ของชินไคอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ดนตรีประกอบและเพลงประกอบจากโยจิโร่ โนดะ วง Radwimps ก็ยิ่งช่วยเสริมพลังของตัวภาพยนตร์ในฉากสำคัญๆ ให้เข้าถึงใจคนดูมากขึ้นไปอีก ดีงามไม่แพ้ที่เคยทำเอาไว้ใน Your Name เลยทีเดียว
ความยอดเยี่ยมของงานสร้างก็ได้ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เป็นตัวแทนของประเทศสู่เวทีรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการภาพยนตร์อย่างเวทีรางวัลออสการ์ หลังจากที่ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นแล้วได้รับกระแสคำชมอย่างล้นหลามและทำรายได้อย่างถล่มทลายกว่าหมื่นล้านเยน นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี ที่ญี่ปุ่นส่งภาพยนตร์อนิเมชั่นเป็นตัวแทนประเทศเข้าชิงออสการ์ ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง Princess Mononoke (1997) ของฮายาโอะ มิยาซากิ