Nuttaya Sumritvanitcha

วันนี้ กรุงเทพ ฯ เปลี่ยนเป็นเมืองแห่งแสงสว่างเพื่อเฉลิมฉลองกับเทศกาลลอยกระทง ภายใต้แสงจันทร์อันสว่างไสว เป็นสัญลักษณ์ของการปล่อยวางความโชคร้ายในอดีตและการขอพรสำหรับอนาคต ซึ่งในปัจจุบัน เป็นที่ตระหนักถึงผลกระทบของ ‘กระทง’ ที่ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมของแหล่งน้ำ และทำให้เกิดปัญหาต่อระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ถ้าวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปฉลองลอยกระทงที่ไหน กรุงเทพ ฯ ปีนี้มีทั้งงานเลี้ยงริมแม่น้ำสมัยใหม่ กิจกรรมทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ และการลอยกระทงในสถานที่ที่คุณสามารถซึมซับวัฒนธรรมและดื่มด่ำกับบรรยากาศเทศกาลโดยอาจไม่จำเป็นต้องลอยกระทงลงแม่น้ำ

สุดสัปดาห์นี้ เตรียมตัวให้พร้อมกับการเฉลิมฉลองเทศกาลลอยกระทงที่มาพร้อมกับอากาศดีๆ เหมาะแก่การออกมาทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการลอยกระทง การชมการแสดงสุดตื่นเต้น หรือการดื่มด่ำกับดนตรีบลูแกรสที่ผ่อนคลาย กรุงเทพ ฯ มีกิจกรรมให้คุณเลือกทำมากมาย เตรียมชวนเพื่อนแล้วออกไปสร้างประสบการณ์สุดสนุกในสุดสัปดาห์นี้กัน! นี่คือกิจกรรมน่าสนใจที่เราคัดสรรมาให้ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

เดือนนี้กรุงเทพ ฯ  มาเปลี่ยนพฤศจิกายนนี้ให้เป็น 30 วันแห่งการเฉลิมฉลองก่อนสิ้นปี เช่นเคย เรานำกิจกรรมและอีเวนต์มากมายมาให้ทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่แจ๊สสุดชิลล์ไปจนถึงเทศกาลอาหาร งานการกุศลที่ไม่ควรพลาด และคอนเสิร์ตสุดมันส์จาก Dua Lipa ในกรุงเทพ ฯ มาสร้างความทรงจำดีๆ ด้วยกันก่อนหมดปีนี้

พูดถึงหน้าหนาวแล้ว ออนเซ็นก็กลายเป็นหนึ่งในที่เที่ยวสุดฮิตในญี่ปุ่น บทความนี้ได้รวบรวม 10 ออนเซ็นเด็ด ๆ มาให้แล้ว แถมเดินทางง่าย ๆ จากโตเกียว

K, the first overseas project from the Michelin-star chef by Vicky Cheng and owner of VEA and Wing in Hong Kong.  Combining Chinese cuisine with French techniques, you'll be dazzled by the colourful garnishes and techniques that elevate the robust Cantonese and Chiu Chow fare at the heart of her dishes. K offers a variety of Cantonese menu options for your liking. If you're into spicy food, whole squid with green Sichuan pepper might catch your eye. K's signature crab with Chinese black olives and garlic might be a bit messy, but the succulent meat inside is well worth the effort. Finish your meal with mango pomelo sago with coconut ice cream, chef Vicky’s interpretation of mango sticky rice.  The tea bar is also worth a shout out. Here, tea culture is blended into a wide range of inspired drinks, from brewed Chinese leaves to crafted tea-infused cocktails and mocktails. Don't let the menu intimidate you – the tea experts will help you choose the right one for your cup.

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา Travel + Leisure เป็นที่น่าติดตามว่า นิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังจะเลือกประเทศไหนเป็นที่น่าไปเยือนในปีถัดไป จากปีที่ผ่านมาจุดหมายปลายทางเป็นประเทศเด็ด ๆ อย่างคอสตาริกา อิตาลี และญี่ปุ่น สำหรับปี 2568 เป็นที่แน่นอนแล้วว่า Destination of the Year เป็นของประเทศไทย ทำไมถึงเป็นประเทศไทย ? Travel + Leisure ให้เหตุผลว่าประเทศไทยครบเครื่องด้วยความงามของธรรมชาติ อย่างอ่าวพังงา การอนุรักษ์ช้างไทยที่น่าชื่นชม แถมกรุงเทพ ฯ ยังเป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์ ทั้งในแง่วัฒนธรรม อาหารการกินที่เลื่องชื่อ และเปิดกว้างสำหรับชุมชน LGBTQ+ อีกด้วย คุณ Jacqui Gifford บรรณาธิการบริหารของ Travel + Leisure กล่าวว่า ‘เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้มอบรางวัล 2025 Destination of the Year ให้กับประเทศไทย ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมาสำรวจวงการอาหารที่ไม่เคยหยุดพักในกรุงเทพ ฯ ไปพักผ่อนริมทะเลบนเกาะสักแห่งใน 1,430 เกาะของไทย หรือจะไปสัมผัสการต้อนรับขับสู้อันเลื่องชื่อในโรงแรมหรูระดับโลก ประเทศไทยมีประสบการณ์พิเศษรอนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ" สอดคล้องกับที่ปีนี้ Time Out Travel จัดอันดับให้กรุงเทพ ฯ เป็นหนึ่งในเมืองที่ดีที่สุดในโลก และย่านเอกมัยติดอันดับย่านที่เจ๋งที่สุดในโลกอีกด้วย การได้รับเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งปี 2568 ครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ำว่าประเทศไทยยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ไม่รู้จบ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วยรอยยิ้ม และประสบการณ์ที่น่าประทับใจ  มาทำให้ปีหน้าเป็นปีแห่งการผจญภัย ลองหามุมที่ไม่เคยเห็นในกรุงเทพ จัดกระเป๋าแล้วไปจังหวัดที่ไม่เคยเช็คอินมาก่อน แล้วจะทำให้คุณรู้ว่าประเทศไทยไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง—แต่เป็นประสบการณ์ที่จะยังคงอยู่กับคุณไปตลอด ไม่ว่าจะเดินสำรวจถนนที่เต็มไปด้วยผู

COPINE (โคปีน) ร้านอาหารส All Day Dining ไตล์ Western Cuisine เปิดใหม่ในย่านสาทร ในบ้านสองชั้นข้างในซอย ทำให้ได้บรรยากาศอบอุ่นสบาย ๆ เหมือนตื่นเช้ามาทานอาหารที่บ้านเพื่อน คล้อยสายมาก็นั่งร่วมโต๊ะเอนจอยกัน เป็นมุมสงบเล็ก ๆ ในย่านคึกคักให้ทุกคนมาพบปะเพื่อนฝูง ลองชิมรสชาติใหม่ ๆ แล้วกลับมาซ้ำกับจานโปรด ชื่อร้านมาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “แฟน” (Girlfriend) หรือ “เพื่อน” (Friend) เข้ากับคอนเซปที่อยากให้ร้านนี้เป็นเหมือนบ้านเพื่อนที่มาง่าย ๆ ทานสบาย ๆ เห็นได้จากการตกแต่งภายในร้านเป็นแบบ Modern European ด้วยสีครีม-เขียวอันเป็นเอกลักษณ์ ที่มองแล้วให้ความรู้สึกโฮมมี่สบายตารับกับบรรยากาศโปร่งสบาย จากแสงธรรมชาติผ่านช่องกระจกให้เหมาะกับไวบ์ของร้านอาหาร All Day Dining มานั่งชิลล์ตลอดวัน ตั้งแต่อาหารเช้าคุ้นตาแต่ไม่ธรรมดากับ English breakfast (550 บาท) และเมนูอื่น ๆ ในช่วงเช้า 8.00-11.30น. ถ้าเข้ามาช่วงกลางวันถึงเย็นที่มีทั้งเมนูยอดฮิตอย่าง stuffed banana pepper ที่สีสันจัดจ้านไม่แพ้กับรสชาติที่รับรองว่าจะติดใจ ก่อนจะต่อกับจานหลักอย่าง crab tagliatelle (990 บาท) พาสต้าปูสูตรเข้มข้นที่ทางร้านใช้ปูหลายชนิดเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกบ่อมและมีมิติจนหยุดกินไม่ได้ หรือจะลอง black chicken (620 บาท) เมนูไก่ดำเลื่องชื่อที่เสิร์ฟมาพร้อมข้าวหอมมะลิจากนครสวรรค์ที่หุงด้วยมันเป็ด  สำหรับใครที่มองหา Pastry เค้ก และของหวาน เราขอแนะนำ cronut ice cream (340 บาท) ทาน cronut คู่กับไอศกรีมสามรสชาติ วนิลลา ครีมคาราเมล และช็อคโกแลต หรือ french toast (340 บาท) ที่ตัวโทสมีความชุ่มฉ่ำหอมเนย และเสริมรสชาติไปกับไอศครีมรสครีมคาราเมลและซอสนมสูตรพิเศษของทางร้าน ที่หลาย ๆ คนต้องกลับไปทานซ้ำ

K-Streat ศูนย์รวมอาหารเกาหลีสตรีทฟู้ด 11 ร้านเด็ด ยกร้านอาหารสตรีทฟู้ดเกาหลีมาพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็ม ตั้งแต่บิบิมบับ คิมบับ ไปจนถึงชาผลไม้สุดชื่นใจ พร้อมแล้วให้ได้ลิ้มลองอาหารต้นตำรับเกาหลี บนชั้น 4 ของสามย่านมิตรทาวน์ ในบรรยากาศฟิน ๆ เหมือนนั่งกินอาหารในกรุงโซล ตามรอยซีรี่ย์ไปกับอาหารชินตาอย่างรามยอนเกาหลีรสชาติเข้มข้นจากนงชิม ชินราเมียน (Nongshim Shin Ramyun) ที่พิเศษคือเครื่องต้มรามยอนอัตโนมัติให้ได้ลองเล่น มาลองกินรามยอนรสพิเศษสไตล์ไทย ๆ รสต้มยำสุดแปลกใหม่จากเจ๊ไฝ สตรีทฟู้ดระดับมิชลิน หรือจะแวะไปทานบิบิมบับ (ราคา 169 บาท) เมนูคลาสสิกที่ บีบีจา (BBJA) ที่เลือกท็อปปิ้งได้ตามใจชอบ ส่วนสายแซ่บแนะนำให้ท้าพิสูจน์กับความเผ็ดระดับสูงสุดของจานปลาหมึกผัดเผ็ด (ราคา 260 บาท) ที่ Moogyodoong Yoojung Nakji ยังไม่หมดเท่านี้ K-street ยังมีอาหารฟิวชั่นจาก Platter 7 ที่หยิบเอาวัตถุดิบไทยๆ ลงในข้าวผัด หรืออิ่มเบา ๆ ที่ 77Kentucky กับไก่ทอดหลากหลายรสชาติให้เลือก ตั้งแต่แบบต้นตำรับไปจนถึงรสเผ็ดสะใจ อิ่มของคาวแล้วมาต่อกันที่ของหวานอย่างขนมปังไข่ (ราคา 169 บาท) จาก Eggseoul ให้คุณได้ลิ้มความหวาน นุ่มละมุนในคำเดียว ทานคู่กับเครื่องดื่มจาก Tenpercent ไม่ว่าจะเป็นชาพีชเย็นๆ (ราคา 90 บาท) หรือคาเฟ่ลาเต้ (ราคา 95 บาท) ก็เข้ากันกับอาหารเกาหลีได้อย่างลงตัว K-Streat ชั้น 4 สามย่านมิตรทาวน์ ถนนพระราม 4 โทร 02-001-1051 เปิดทุกวัน 10.00-22.00น.

เตรียมตัวให้พร้อม! Bangkok Art Biennale ครั้งที่ 4 กับที่สุดแห่งเทศกาลงานศิลปะที่จัดทุก ๆ 2 ปี ได้กลับมาจัดแสดงงานศิลปะระดับนานาชาติ 11 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2567–25 กุมภาพันธ์ 2568 ในปีนี้งานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2567 (Bangkok Art Biennale 2024) มาพร้อมธีม ‘Nurture Gaia’ หรือ ‘รักษา กายา’ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเทพีไกอาในตำนานกรีก ผู้ให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง แนวคิดนี้สะท้อนถึงปัญหาที่โลกกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โรคระบาด สงคราม และการทำลายสิ่งแวดล้อม ที่จะมาชวนเราตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและการเลี้ยงดู รวมถึงมุมมองต่อความเป็นหญิงในหลากหลายมิติ นิทรรศการในครั้งนี้ได้ ศ.ดร.อภินันท์ โพธิ์ยานนท์ ประธานอำนวยการและผู้อำนวยการศิลป์ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ นำงานศิลปะจัดแสดงใน 11 สถานที่ทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่วัด พิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ ไปจนถึงห้างสรรพสินค้า ที่จะเปลี่ยนจุดเชคอินยอดฮิตของกรุงเทพอย่าง วัดอรุณฯ วัดโพธิ์ วัดประยุรวงศ์ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เซ็นทรัลเวิลด์ มิวเซียมสยาม และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ให้กลายเป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะสุดอาร์ต พบกับผลงานจากศิลปินกว่า 76 คนทั่วโลก รวมถึงศิลปินไทยที่น่าจับตามองอย่าง ประสงค์ ลือเมือง ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนอารมณ์และร่างกายมนุษย์ผ่านการทำสมาธิ และ โศภิรัตน์ ม่วงคำ ผู้หยิบเอาเรื่องราวส่วนตัว ธรรมชาติ และวัฒนธรรมย่อยมาถ่ายทอดในงานศิลปะ ผลงานจากศิลปินนานาชาติที่น่าสนใจอย่างเช่น หลุยส์ บูร์ชัวส์ (Louise Bourgeois) ศิลปินชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะแบบจัดวางขนาดใหญ่ และ จอร์จ โบลสเตอร์ (George Bolster) ศิลปินชาวไอริชที่ผสมผสานศิลปะ วิทยาศาสตร์ และปรัชญาเข้

Bangkok’s latest eating and drinking hotspot at The Empire, ‘EA’, has been all the rage these past few weeks with the top six floors offering a handpicked list of restaurants, cafes and bars with stunning panoramic views across the city. Among the throng of restaurant delights, one that stands out is 'K', the first overseas project from the Michelin-star chef by Vicky Cheng and owner of VEA and Wing in Hong Kong.  Combining Chinese cuisine with French techniques, you'll be dazzled by the colourful garnishes and techniques that elevate the robust Cantonese and Chiu Chow fare at the heart of his dishes. K offers a variety of Cantonese menu options for your liking. If you're into spicy food, whole squid with green Sichuan pepper might catch your eye. K's signature crab with Chinese black olives and garlic might be a bit messy, but the succulent meat inside is well worth the effort. Finish your meal with mango pomelo sago with coconut ice cream, chef Vicky’s interpretation of mango sticky rice.  The tea bar is also worth a shout out. Here, tea culture is blended into a wide range of inspired drinks, from brewed Chinese leaves to crafted tea-infused cocktails and mocktails. Don't let the menu intimidate you – the tea experts will help you choose the right one for your cup. And when it comes to decor, each detail from the Chinese tableware to lightings is inspired by Kilin  – a legendary Chinese beast – creating a sense of movement through modernised sweeping motifs with gold and b

เดือนนี้ ชาว BTS อาจจะได้เจอเหมยลี่ หรือลุง จากในหนังดังอย่างรถไฟฟ้ามาหานะเธอ ให้ได้เขินในชีวิตจริง กับ BTS Xtreme Savings x Tinder ให้ได้ปัดขวา คว้ามือคนใกล้ ๆ แทนราวรถไฟฟ้ากับ Tinder Plus เป็นที่คุ้นชินกันว่าในแต่ละเดือน BTS จะออกโปรโมชั่นเที่ยวการเดินทาง คู่กับคูปองส่วนลดร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ แต่เดือนกันยายนนี้รถไฟฟ้าจะลุกเป็นไฟ เพราะไม่ว่าจะซื้อเพคเกจการเดินทางของ BTS แบบ 15, 25 หรือ 35 เที่ยว (400-1,200 บาท สำหรับบุคคลทั่วไป) แอปพลิเคชั่นโลโก้ไฟอย่าง Tinder ก็มาพร้อมส่วนลดมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์สำหรับแพ็กเกจเดือนแรกของ Tinder Plus  ถึง Tinder จะใช้งานฟรีได้ แต่ถ้าคุณอยากจะอัพเลเวลเป็น Tinder Plus เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มากกว่าได้อย่าง ปัดขวาได้ไม่อั้นโดยไม่มีโฆษณาคั่นในราคาเริ่มต้น 259 บาทต่อเดือน หรือสำหรับฟีเจอร์มากกว่านั้นอย่างการแอบดูว่าใครถูกใจเราบ้าง ก็สามารถเปิดใช้งานได้ในระดับ Tinder Gold ในราคาเริ่มต้น 349 บาทต่อเดือน ได้เช่นกัน ถึงจะน่าเสียดายที่ชาว Tinder Plus หรือ Tinder Gold ที่เป็นสมาชิคในระยะเวลา 90 วัน จะใช้คูปองส่วนลดนี้ไม่ได้ แต่ในแพคเกจยังรวมคูปองน่าสนใจอื่น ๆ อย่างคูปองส่วนลดสำหรับบุฟเฟต์ที่ห้องอาหาร หรือคูปองสมาชิกฟิตเนสฟรี 1 วัน ที่ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอคนใหม่ ๆ หรืออาจจะได้เป็นที่นัดเดทแรก หลังปัดขวาตรงกันก็ได้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

หลังจากที่ โบ.ลาน (Bo.lan) พักครัวไป 3 ปี ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่นักชิมทั้งหลายคิดถึง ได้กลับมานำเสนออาหารไทยแบบไฟน์ไดนิ่ง ในรูปแบบสำรับไทย ร้านโบ.ลาน เป็นร้านอาหารที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของเชฟดวงพร ทรงวิศวะ (เชฟโบ) ที่ได้รับเชิญไปออกในสารคดีอาหาร Chef’s Table ซีซั่น 5 บนช่องทาง Netflix ร่วมกับเชฟดีแลน โจนส์ ที่จะนำเสนออาหารไทยในรูปแบบสำรับ โดยการจัดคู่รสชาติอาหารหลากหลายชนิด ทั้งคาวและหวานลงในภาชนะหลากหลายเป็นชุด ทำให้ได้บรรยากาศของการนั่งทานอาหารร่วมกันกับครอบครัวแบบไทย ๆ มากกว่าการนั่งทานในร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ที่มักจะนำเสนออาหารทีละรายการ ร้านโบ.ลาน มีสำรับหลายขนาดให้เลือกทาน เริ่มต้นด้วย ‘โบ.ลาน สำรับน้อย’ ที่ประกอบด้วยอาหาร 10 รายการ (3,980 บาท) ในสำรับขนาดกลาง ‘โบ.ลาน ข้าวปลาอาหาร’ ประกอบด้วยอาหาร 13 รายการ (4,600 บาท) และสำรับสุดท้ายที่จัดเตรียม 15 รายการอาหารให้ได้ลิ้มรสใน ‘โบ.ลาน ระเริงรส’ (4,800 บาท) ทางร้านได้เลือกสรรวัตถุดิบพื้นบ้านไทยจากหลายภูมิภาค เพื่อดึงความละเอียดอ่อนของรสชาติอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นปลาร้าจากภาคอีสาน แกงคั่วจากพริกแกงภาคใต้ รวมทั้งข้าวคลุกพริกเผาตำรับ ม.ล.ปอง มาลากุล ในสมัยรัชกาลที่ 6 ด้วยพริกจากภาคกลาง  ทานคู่กับเครื่องดื่มตำราพิเศษของทางร้านอย่าง ยาดอง เครื่องดื่มที่จัดจ้านไปด้วยกลิ่นของสมุนไพร และสุราไทย ก่อนจะปิดท้ายมื้ออาหารด้วยของหวานไทย  เมื่อเดินเข้าที่บริเวณสวนที่เป็นบ้านไม้ ทำให้ได้บรรยากาศอันคุ้นเคยและอบอุ่นของบ้าน รวมถึงมุมของที่ระลึกให้เลือกซื้อ เป็นความทรงจำของการร่วมทานอาหารในโบ.ลาน มาร่วมทานอาหารจากเชฟโบ เจ้าของรางวัลเชฟหญิงที่ดีที่สุดของเอเชีย ประจำปี 2556 และโบ.ลาน ที่ได้รับการจัดอันดับที่ 36 จาก Asia's 50 Best Restaurants ใ

ไม่ว่าจะกลับมาอีกกี่ครั้งก็ไม่พอ สำหรับแฟน ๆ ชาวไทยกับ Maroon 5 หรือจริง ๆ แล้วจะเป็น Maroon 5 ที่ชอบมาเล่นในประเทศไทยกันแน่ เพราะในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ศิลปินวงป็อปร็อก สัญชาติอเมริกันก็จะกลับเล่นแสดงสดที่ประเทศไทยอีกครั้ง แม้ว่านี่จะเป็นครั้งที่ 7 แต่แฟนชาวไทยก็ยังคงตื่นเต้นกับการกลับมาของ Adam Levine ที่จะมาร้องให้สุดเสียงกับแฟน ๆ ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความคิดถึง และความอบอุ่น ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี  สำหรับราคาตั๋ว Maroon 5 Asia 2025 - Bangkok อยู่ที่ 2,000-9,800 บาท ซึ่งจะเปิดจำหน่ายในวันที่ 21 กันยายนนี้ที่ Thaiticketmajor เริ่มเปิดจำหน่ายก่อนกับรอบ Mastercard พรีเซลล์ วันที่ 18-20 กันยายน และรอบ Live Nation พรีเซลล์ วันที่ 20 กันยายน ปีนี้ กรุงเทพคึกคักไปด้วยเสียงเพลงจากคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกอย่าง Olivia Rodrigo  และ Coldplay นอกจากนี้ยังมีเทศกาลดนตรีสุดอลังการกับ Summer Sonic และ Rolling Loud อีกด้วย คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นหนึ่งใน Maroon 5 Asia Tour 2025 ที่จะจัดในประเทศอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และประเทศไทย

เตรียมชั้นหนังสือให้พร้อม สำหรับกองหนังสือที่กำลังจะพูนขึ้น กับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 29 ในวันที่ 10-20 ตุลาคมนี้ เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  นอกจากหนังสือลดราคาและหนังสือออกใหม่แล้ว ความสนุกในแต่ละปีของเหล่านักอ่านคงไม่พ้นคอนเซ็ปต์ของงานที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกปี และในปีนี้งานมหกรรมหนังสือมาในคอนเซ็ปต์ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีน ‘อ่านกันยันโลกหน้า’ พร้อมกับเชิญชวนคุณนักอ่าน มาร่วมประชันการแต่งกายในหัวข้อ ‘ผีจากหนังสือผีเล่มโปรด’ ชิงเงินรางวัลรวม 45,000 บาท  พบกับขบวนหนังสือจากกว่า 300 สำนักพิมพ์เช่นเดียวกับทุกปี ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน หนังสือพัฒนาตนเอง หรือหนังสืออ่านเล่น นอกจากหนังสือภาษาไทยแล้ว ภายในงานยังมีบูทหนังสือภาษาต่างประเทศทั้ง ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน หรือภาษาอื่น ๆ ให้เลือกซื้ออ่านได้ภายในงานเช่นเดียวกัน  นอกจากนี้ยังสามารถมาพบปะเหล่านักเขียนในงานแจกลายเซ็นหรือร่วมเสวนาน่าฟังตลอดระยะเวลาที่จัดงาน สามารถติดตามรายละเอียดรายชื่อสำนักพิมพ์ และตารางกิจกรรมที่จะประกาศเร็ว ๆ นี้ได้ที่นี่ ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์