ที่กิน ที่เที่ยว ที่ชิล ในซอยสุขุมวิท 49

วางช้อนส้อมแล้วเปลี่ยนมาคว้าพู่กัน เพราะ Paintbar Bangkok คือเพนต์บาร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ด้วยบรรยากาศแบบดิบนิด ๆ แต่อบอุ่นด้วยผลงานศิลปะหลากหลาย บาร์แห่งนี้จึงเป็นจุดนัดพบของคนรักศิลปะ ไม่ว่าคุณจะเป็นศิลปินรุ่นเก๋า หรือมือใหม่หัดเพนต์ก็ตาม

เวลานึกถึงเมนูอาหารไทย สิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดย่อมหนีไม่พ้นอาหารอีสานรสแซบของบ้านเรา สำหรับร้านไก่ย่างเสือใหญ่สาขาล่าสุดนี้สามารถได้ใจรคนรักสมุนไพรและเครื่องแกงแบบไทยๆ ไปแบบเต็มๆ

ร้านงานฝีมือสุดเก๋ที่อัดแน่นด้วยข้าวของเครื่องใช้หรือของแต่งบ้านที่ทำขึ้นจากวัสดุเหลือใช้ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะริมหน้าต่างทำจากไม้สักที่สืบรู้มาว่าเคยเป็นม้านั่งของยามด้านนอกร้าน กระจกแตกบานใหญ่บริเวณเคาน์เตอร์ที่ถูกยึดไว้ให้ติดกันด้วยน๊อตติดกาวนับสิบอัน

เพราะประเทศไทยอากาศร้อนเกือบตลอดปี จนเราสามารถมีข้ออ้างกินไอสกรีมได้ทุกวัน ... จงรีบมาที่ร้าน Tokyo Cream Cafe เพราะนอกจากจะมีไอศกรีมโฮมเมดหลากหลายรสชาติให้เลือกชิมแล้ว ที่นี่ก็ยังมีโฮมเมดท้อปปิ้งอีกหลายสิบชนิดเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับไอศกรีมถ้วยโปรดของคุณ

Rocket คือหนึ่งในร้านแรกๆ ของกรุงเทพฯ ที่ให้บริการกาแฟสกัดเย็น (cold brew coffee) รวมไปถึงบรันช์ อาหารสแกนดิเนเวียนสไตลโมเดิร์น และอาหารคอมฟอร์ทฟู้ดต่างๆ

ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าทั้งหมดภายในร้าน Planeta Organica จะใช้วัสดุที่เป็นออร์แกนิก แต่ในด้านดีไซน์นั้นอยู่ห่างจากคำว่าเชยไปหลายขุม

ชื่อร้าน Casa Lapin เป็นภาษาอิตาลีแปลว่า โพรงกระต่าย ดังที่ตั้งใจให้ร้านกาแฟแห่งนี้เสมือนเป็นที่นั่งดื่มกาแฟแบบสบายๆ ซึ่งเดิมทีมีสาขาแรกเป็นร้านเล็กๆ ชื่อเดียวกันอยู่ที่ Thonglor Art Village และขุดโพรงกระต่ายที่ใหญ่ขึ้นมายังที่แห่งนี้

เพราะอาหารมักถูกปรับรสชาติให้ถูกปากคนท้องถิ่น (ลองนึกถึงผัดกะเพราในร้านอาหารสุดหรูในยุโรปอย่างไรก็อร่อยสู้ร้านข้างทางในเมืองไทยไม่ได้) คุณเตียน (Nguyen Thuy Tien) หญิงชาวเวียดนามที่ย้ายถิ่นฐานมากรุงเทพพร้อมครอบครัวได้ 5 ปีจึงอดนึกถึงอาหารเวียดนามรสชาติดั้งเดิมไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจเปิดร้านขึ้นเองเสียเลย!