ร้านอาหารสไตล์ Tex-Mex หรือเท็กซัส-เม็กซิกัน ที่ตกแต่งแบบเท่สุดๆ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งหนัง กำแพงที่เต็มไปด้วยรูปภาพในแบบป็อบคัลเจอร์ สัญลักษณ์ไฟนีออน กำแพงอิฐและดนตรีแนว R&B และ hip hop แบบ old-school เมนูอาหารก็เต็มไปด้วยรสชาติเม็กซิกันแบบดั้งเดิมผสมกับโมเดิร์นทวิสและการเสิร์ฟที่มีสไตล์ ส่วนเครื่องดื่ม ที่นี่ก็เต็มไปด้วยซีเล็กชั่นของ mescal และ tequilas ที่เรียกได้ว่าดีที่สุด มีมาร์การิต้าตัวเด็ดคือ Margarita del Tommy (340++ บาท) ผสมผสานระหว่างเตกีลา น้ำเชื่อมจากต้นอะกาเว่ และน้ำมะนาวสด หรือจะเลือกดื่มเมนูคลาสสิกอย่าง Classic Margarita (260 บาท) ที่ใช้เตกิล่า El Jimador Blanco ผสมกับกับเหล้าส้ม Cointreau น้ำมะนาว และริมขอบแก้วด้วยเกลือทะเล
22 กุมภาพันธ์ของทุกปีในบ้านเราอาจจะไม่ได้เป็นวันสำคัญอะไร แต่ที่เม็กซิโกคือวันแห่งการเฉลิมฉลองให้กับเครื่องดื่มยอดนิยมของนักดื่มทั่วโลกอย่าง ‘มาร์การิต้า’
คลาสสิกค็อกเทลแก้วนี้ ใช้เตกีลาเป็นเบสผสมเหล้าส้มหรือทริปเปิลเซคและน้ำมะนาวแล้วเขย่ากับน้ำแข็งก่อนเสิร์ฟ ซึ่งนิยมเสิร์ฟในแก้วมาร์การิต้าที่เคลือบขอบแก้วด้วยเกลือ ให้รสชาติที่ลงตัวพร้อมความรู้สึกสดชื่นเหมาะแก่การดื่มในเขตเมืองร้อนอย่างบ้านเราเป็นที่สุด!
ก่อนที่จะฮิตติดบาร์อย่างทุกวันนี้ มาร์การิต้า มีที่มาที่ไปที่ยาวนานและซับซ้อนจนไม่สามารถระบุได้ว่า จริงๆ แล้ว ค็อกเทลแก้วนี้มีต้นกำเนิดมาจากไหนกันแน่ รู้แต่ว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในเม็กซิโก ช่วงปี ค.ศ. 1936
ว่ากันว่ามาร์การิต้าแก้วแรกๆ พัฒนาสูตรมาจากเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า เดซี่ (Daisy) ที่มีส่วนผสมเป็นรัม บรั่นดี น้ำมะนาว ไซรัป และเหล้าเปลือกส้ม แต่พอเปลี่ยนส่วนผสมมาเป็น เตกีลา น้ำมะนาว และเหล้าส้ม เลยเรียกชื่อใหม่ว่า มาร์การิต้า จนถึงทุกวันนี้
รู้ประวัติคร่าวๆ แล้ว คงเดาไม่ยากใช่ไหมว่าถ้าอยากจะจิบมาร์การิต้าแบบต้นตำรับในกรุงเทพฯ ต้องไปที่ไหนกัน? วันนี้เราได้รวมบาร์และร้านอาหารเม็กซิกันในกรุงเทพฯ ที่พร้อมเสิร์ฟมาร์การิต้าให้เราได้ฉลอง National Margarita Day ไปพร้อมๆ กัน!