7 ร้านเนื้อแนะนำที่สายเนื้อต้องไปตามเก็บให้ครบ!

ร้านอาหารไทย-อีสาน ร้อยมหาเศรษฐ ที่มีสาขาแรกอยู่ในย่านบางรัก ตอนนี้ได้ขยายมาเปิดสาขาใหม่ไม่ไกลจากย่านทองหล่อ พร้อมบรรยากาศที่เป็นกันเองมากขึ้น ส่วนเมนูก็คงคอนเซ็ปต์ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ผสมการทวิสต์รสชาติให้น่าสนใจ และเลือกใช้เนื้อทุกส่วนเช่นเดิม

เมนูที่สาขานี้จะค่อนข้างหลากหลาย มีจานเนื้อเด็ดแนะนำให้ลองคือ เนื้อบาเว็ทน้ำใบย่านาง ที่ใช้เนื้อวากิวสุริทร์ส่วนสันใน นำไปย่างจนสีสวย ก่อนราดด้วยน้ำซอสใบย่านาง กินคู่กับดอกหอมย่าง

ร้านอาหารสไตล์ยุโรปแห่งใหม่ย่านหลังสวน Enzo's ที่มีเชฟผู้ดูแลและควบตำแหน่งเจ้าของร้านคือ เชฟโลเรนโซ เดอลา ครูซ (Lorenzo dela Cruz) ผู้เป็นเจ้าของร้านอีก 2 แห่งคือ Bitterman ร้านอาหารยุโรปสไตล์ครอบครัว และ Meatchop ร้านที่โดดเด่นเรื่องเมนูเนื้อโดยเฉพาะ

สำหรับจานไฮไลท์ที่อยากให้ทุกคนชิมเป็นจานเนื้อและสเต็ก ที่เชื่อว่าหากใครเคยกินเมนูเนื้อโดยเชฟโลเรนโซมาก่อน ครั้งนี้ก็จะไม่ผิดหวังเช่นกัน ซึ่งแนะนำเมนู Wagyu Hanger Steak (780 บาท / 300g) เนื้อวัวย่างสุกจนสีสวยกำลังดี เสิร์ฟคู่กับซอส 2 รสชาติ

Banjoo (บันจู) ร้านอาหารเกาหลีรสชาติต้นตำรับ และมีเจ้าของเป็นเชฟชาวเกาหลีแท้ๆ หลายคนอาจไม่อยากเชื่อว่าที่ร้านบาร์บีคิวแห่งนี้จะมีเนื้อชั้นดีในนราคาจับต้องได้อยู่ ซึ่งร้านจะยกเนื้อมาย่างให้เราเห็นสีสวยๆ กันต่อหน้าต่อตา

เมนูที่เราแนะนำว่าต้องสั่งคือ เนื้อวากิว (790 บาท) ที่หากได้ลองแล้วจะติดใจความนุ่มของเนื้อจนหยุดกินแทบไม่ได้ หรือใครอยากสั่งเนื้อชนิดอื่นที่ร้านก็มีอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหมูหรือไก่

ร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้กลายเป็นร้านในดวงใจของคนรักเนื้อ และกลายเป็นอีกหนึ่งร้านที่จองคิวยากที่สุดด้วย ซึ่งอาจเป็นเพราะความจริงจังในการคัดสรรเนื้อโคขุนจากไทยจากสกลนครที่มั่นใจว่าคุณภาพดี แถมยังเสิร์ฟในราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทเท่านั้น ทำให้เหล่าคนรักเนื้อยอมรอและตามมากินจนไม่สามารถรับลูกค้า walk-in ได้อีกเลย

ร้านเนื้อในบรรยากาศครัวไทย สมัยรัชกาลที่ 5 ที่เกิดจากความรักในการทำอาหารของ คุณเบ็น ผู้เป็นเจ้าของร้าน ร่วมกับหุ้นส่วนอีกคนคือ คุณตุ้ย ซึ่งทั้งสองตัดสินใจเปิดร้านอาหารด้วยกัน จึงเลือกพระเอกของร้านเป็น เนื้อไทย ที่คัดเลือกมาจากฟาร์มหลายแห่งทั่วประเทศ และมีให้เลือกหลายส่วน

เมนูแนะนำจากร้านก็มี ทีโบนเเจ้าพระยา (970 บาท) เสิร์ฟพร้อมผักเคียงและดอกเกลือให้กินคู่กันเพื่อชูรส ซึ่งเนื้อทำได้สุกนุ่มกำลังดี กินคู่กับซอสแจ่วทำเอาติดใจสุดๆ หรือใครมาคนเดียวก็สามารถสั่งเมนูอย่างข้าวหน้าเนื้อได้เช่นกัน อาทิ ข้าวหน้าเนื้อท่านขุน (240 บาท) ที่ใช้เนื้อส่วนชายท้อง หรือ ข้าวหน้าเนื้อพิคาน่า (220 บาท) ก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน

Salvia - ซาลเวีย ร้านอาหารอิตาเลียนในโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณฯ ซึ่งมีเชฟชาวอิตาลี โรเบอร์โต พาเรนเทล่า (Roberto Parentela) เป็นผู้ดูแลเมนูอาหารทั้งหมด และนอกจากรสชาติที่ดั้งเดิม ร้านนี้ก็มีเมนูเนื้อที่ไม่อยากให้พลาดลอง

เมนูที่ว่าคือ เนื้อริบอายแองกัสออสเตรเลียน (1,380 บาท/350 กรัม) ที่นำไปย่างบนไม้องุ่นจนกลิ่นหอม เชฟแนะนำให้สั่งระดับความสุกแบบมีเดียม แต่สำหรับที่ร้านอาจค่อนข้างแรร์กว่าทั่วไปสักหน่อย ดังนั้นแนะนำให้เพิ่มระดับความสุกขึ้นมาอีกนิดสำหรับคนที่ไม่ใช่สายเนื้อระดับแรร์

Il Fumo (อิล ฟูโม่) เป็นร้านอาหารโปรตุเกสที่มีเจ้าของเดียวกันกับบาร์ค็อกเทล Vesper ร้านอาหารอิตาเลียน La Dotta และ 1919 รวมถึงร้านอาหารไทย 80/20 โดยร้านนี้มีไฮไลท์คือ เนื้อวัวรูเบน กัลเลกา (Rubia Gallega) จากประเทศสเปน ที่เป็นพระเอกของร้าน ซึ่งเนื้อชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเนื้อที่ดีที่สุดของโลก เชฟจะนำเนื้อส่วนต่างๆ มาปรุงเป็นอาหารให้รับประทาน ซึ่งเราสามารถเลือกกินพร้อมไวน์แพร์ริ่งได้ด้วย