แนะนำ 5 ร้านกาแฟสำหรับคนตามหาที่นั่งพักผ่อนจิบคาเฟอีนโดยเฉพาะ

พบหน้า เป็นโฮมคาเฟ่ในซอยคอนแวนต์ สีลม ที่เปิดอยากชวนคนรักกาแฟให้มานั่งดื่มพบหน้ากัน เพื่อละเลียดกาแฟจากเมล็ดพิเศษ Single Origin จากหลายแหล่งทั่วโลก ซึ่งบางตัวทางร้านก็คั่วเองด้วย เมนูกาแฟที่เราแนะนำให้ลองคือกาแฟดริป ที่เรารับรองว่าสำหรับคนชอบดื่มกาแฟแก้วเดียวอาจจะไม่พอ

พูนนี่ เป็นคาเฟ่อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านในย่านสุทธิสาร มีเจ้าของเป็นบาริสตาหนุ่มมาดกวนแต่มากประสบการณ์ด้านกาแฟ ที่กลับมาเปิดร้านในกรุงเทพฯ หลังผ่านประสบการณ์การทำงานในอาชีพบาริสต้าอยู่ที่ออสเตรเลียมานาน โดยเมนูที่หากใครแวะมาแล้วจะพลาดไม่ได้เลยก็คือลาเต้ร้อนที่เสิร์ฟมาพร้อมลาเต้อาร์ตสุดเท่ ที่ใครอยากได้ลวดลายแบบไหนสามารถรีเควสได้ด้วย มีตั้งแต่ลายน่ารักๆ ไปจนถึงลายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น (อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะ)

สาขาใหม่ของแบรนด์กาแฟจากประเทศญี่ปุ่นต่อจากสาขาแรกที่โชคชัย 4 ตั้งอยู่ในตึกธนิยะ  พลาซ่า ที่ปรับปรุงใหม่เอี่ยม เราเชื่อว่าสาวกอุปกรณ์ทำกาแฟต้องรู้จัก Hario อย่างแน่นอน เพราะนอกจากเรื่องกาแฟแล้ว Hario จะขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์การชงกาแฟมากเป็นพิเศษ โดยสาขาธนิยะ พลาซ่า ยังเป็น Flagship Store ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

สาขานี้จะรวมทุกเรื่องของคนรักกาแฟเอาไว้ให้มาลองสัมผัสกัน ตั้งแต่การเสิร์ฟแบบ Slowbar อันเป็นเอกลักษณ์สำหรับคนอยากชิมกาแฟดริป หรือจะเป็น Speedbar สำหรับสายเร่งรีบยามเช้า และแน่นอนว่าที่สาขานี้ก็มีอุปกรณ์เกี่ยวกับกาแฟของแบรนด์ Hario ให้เลือกซื้อกกลับบ้านมากที่สุดอีกด้วย

ร้านกาแฟสเปเชียลตี้ในซอยวิภาวดี 5 ย่านจตุจักร ที่เราว่าเป็นอีกร้านกาแฟน้องใหม่ที่คอกาแฟไม่ควรพลาดลอง แถมบรรยากาศร้านก็เฟรนลี่และชวนนั่งจิบกาแฟพักผ่อนสุดๆ ด้วย โดยที่นี่จะเน้นคั่วเมล็ดกาแฟเอง มีเบลนด์ประจำร้านให้เลือกอยู่ 3 สไตล์ สามารถจับคู่กับเมนูกาแฟของร้านได้เกือบทุกเมนู 

แต่สำหรับคอกาแฟที่อยากลองอะไรใหม่ๆ Butch’s ก็จะมีเมล็ดแบบ single origin สับเปลี่ยนมาให้ลองกันอยู่เรื่อยๆ ด้วย นอกจากนี้ เราว่าราคากาแฟของที่นี่ก็สมเหตุสมผลและชวนกลับไปลอง

La Cabra เป็นร้านกาแฟที่มีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองอาร์ฮุส (Aarhus) ประเทศเดนมาร์ก เป็นเมืองที่มีทั้งอาร์ตแกลเลอรีดีๆ และคาเฟ่ฮิปๆ กระจายอยู่รอบเมือง และเดินทางมาเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ อยู่ที่ย่านตลาดน้อยได้สักพักหนึ่งแล้ว

กาแฟทุกแก้วชงด้วยเมล็ดที่ผ่านการคั่วแบบ one roasting profile หรือการคั่วแบบเดียวต่อเมล็ดหนึ่งตัว โดยเมล็ดจะถูกคั่วแล้วส่งมาจากเดนมาร์ก ทุกคนสามารถเลือกชิมได้ 2 สไตล์คือ Comfort (ราคาเริ่มต้น 110 บาท) ใช้เมล็ดกาแฟจากบราซิล ให้กลิ่นและรสชาติของช็อกโกแล็ต คาราเมลและถั่ว

ส่วนคอกาแฟมากประสบการณ์ ต้องสั่งแบบ Adventurous (ราคาเริ่มต้น 150 บาท) รสชาติกาแฟจะสว่างกว่า comfort มีกลิ่นและรสชาติของผลไม้และดอกไม้ หรือใครอยากลองรสชาติแบบไหนก็สามารถคุยกับบาริสตาได้เช่นกัน