ด้วยจำนวนผู้ติดตามเกือบ 10 ล้านคนในช่องยูทูป ถ้าเราจะเรียก มาร์ค วีนส์ (Mark Wiens) ผู้นี้ว่าเป็นศาสนดาแห่งอาหารก็คงจะไม่เกินจริง กับภารกิจออกตามล่าของอร่อยทั่วทุกมุมโลกโดยเฉพาะโซนเอเชีย ตั้งแต่ร้านหรูจนถึงร้านข้างทางในซอกกำแพงที่หลายคนองข้าม
ความหลงใหลในอาหารและการกินซึ่งติดตัวกับเขามาตั้งแต่เด็ก กับการเติบโตในฮาวาย ท่ามกลางความหลากของวัฒนธรรม ที่ยกให้อาหารเปรียบเสมือนช่วงเวลาแห่งการสังสรรค์ นำพาเขาได้ออกเดินทางไปทั่วโลก ก่อนจะหลงรักเข้ากับรสชาติของเอเชียและประเทศไทย ให้เขาได้ใช้ความชอบกินนี้เป็นตัวเชื่อม ระหว่างคนทำและคนกินไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกได้มาเจอกัน ในฐานะฟู๊ดวล็อกเกอร์
“สำหรับผมอาหารคือสิ่งที่เราทุกคนต้องการเพื่อการดำรงชีวิต เราทุกคนต้องกิน ผมเลยคิดว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็มีส่วนร่วมได้”
เขาเล่าให้ Time Out ฟังหลังจากที่เราถามว่าสำหรับเขาแล้วอาหารคืออะไร เพราะนอกจากอาหารจะเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ต้องกินและสนใจ ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เราทั้งหมดได้บินข้ามประเทศมาเจอเขาในประเทศสิงคโปร์ กับการเปิดตัวในฐานะผู้ดำเนินรายการใหม่ล่าสุดจากทาง HBO อย่าง Food Affair with Mark Wiens ที่เขาจะพาเราไปเจอรสชาติความอร่อยใ นประเทศที่ขึ้นว่าเป็นศูนย์กลางของอาหารในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง สิงคโปร์
อาหาร… ที่พาเขาเดินทางจากวล็อกเกอร์สู่พิธีกรรายการ
ใครที่เคยชมรายการจากช่องของเขา เมักจะได้เห็นรีแอคชั่นสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขจากการได้กินอาหารอร่อยๆ ไม่ว่าอาหารตรงหน้าจะเป็นอาหารธรรมดาๆ ที่หากินได้ทุกวัน หรือเมนูแปลกแหวกพิสดานก็ตาม ทุกอย่างถูกบันทึกไว้อย่างเป็นธรรมดาไร้สคริปต์ไร้การปรุงแต่งใดๆ
“ตอนแรกผมเริ่มเขียนบล็อคและถ่ายรูปอาหาร สักพักผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับผม เพราะว่าผมชอบกินอาหารข้างทาง และการกินอาหารข้างทางเต็มไปด้วยพลังงาน มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นขณะที่คุณกำลังกินอยู่ คุณได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คน คุณเห็นการทำอาหารตรงหน้า เลยเป็นสาเหตุให้ผมเริ่มถ่ายวิดีโอ เพราะรู้สึกว่าน่าจะเป็นตัวที่ถ่ายทอดทุกอย่างที่ผมเห็นได้ดีกว่า และผมก็ทำมาจนถึงทุกวันนี้”
อาหาร… ที่นำไปสู่ความหลงใหล
“ความหลงใหลในอาหาร” ที่ไม่ใช่แค่คำอธิบายความสนใจในตัวเขาเอง แต่ยังสามารถเหมารวมได้ทั่วทั้งเอเชียเลยทีเดียว ผมคิดว่าความหลงใหลนี้สามารถใช้ได้กับทุกคนโดยเฉพาะชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะอาหารถือเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรม อาจจะมากกว่าที่ใดบนโลกด้วยซ้ำไป
“คนเอเชียนชอบกิน ไม่ว่าจะพบปะเพื่อนฝูงหรือครอบครัว การกินคือสิ่งที่ต้องทำ พวกเรามักจะพูดถึงการกินตลอดเวลา แม้กระทั่งกำลังกินข้าวอยู่ ก็อาจจะพูดถึงมื้อต่อไปว่าจะกินอะไรดี”
ความหลงใหลที่ว่ายังเป็นหัวใจสำคัญของรายการ Food Affair with Mark Wein เพราะรูปแบบรายการจะเป็นไปสำรวจจักรวาลสองขั้วความอร่อย ตั้งแต่สตรีทฟู้ดข้างทางไปจนถึงอาหารไฟน์ไดนิ่งในร้านดีกรีดาวมิชลิน
ตลอดทั้ง 6 ตอนในซีซั่นแรกนี้ มาร์ค วีนส์ พาเราไปเจอกับเชฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร รวมถึงเจ้าของร้านสตรีทฟู้ด ที่ทุกคนล้วนแต่แชร์ความหลงใหลในอาหารร่วมกัน สิ่งที่ผมชอบเกียวกับ Food Affair คือการที่ทุกคนได้แชร์เรื่องราวของตัวเอง จุดเริ่มต้มที่ทำให้ให้เชฟทั้งในร้านไฟน์ไดนิ่งและร้านข้างทางเริ่มต้นเส้นทางนี้ และมุมมองที่มีต่ออาหาร ซึ่งจะว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเราทุกคนก็ได้ นอกจากนี้ยังเป็นนำเสนอให้ทุกคนเห็นว่า
“เราสามารถมีประสบการณ์ที่ดีและน่าจดจำกับการกินอาหารไฟน์ไดนิ่ง เท่ากันกับเวลาที่เรานั่งกินอาหารข้างทาง”
อาหาร… ที่มากกว่าแค่ความอร่อย
“ผมอยากให้ทุกคนรู้สึกอยากกินอาหารที่เรานำเสนอในรายการ ขณะเดียวก็อยากให้ทุกคนได้ชื่นชมสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วย เพราะอาหารทุกอย่างที่คุณกิน ถึงแม้ว่าคุณจะทำเองก็ตาม ล้วนแต่มีเรื่องราวความเป็นมา และอาหารทุกจานยังเป็นตัวแสดงถึงความพยายาม ความมุ่งมั่นของคนทำอาหารที่พยายามจะนำเสนอความอร่อยเหล่านี้” สิ่งที่เขาเพิ่งเล่าไปยิ่งเหมือนการตอกย้ำว่า “ความอร่อย” เป็นเรื่องปัคเจคบุคคล สิ่งที่เราได้จากการไปกินร้านอาหารต่างๆ คือเรื่องราว การฝึกฝน และการชื่นชมความสามารถของเชฟทั้งหลายหรือแม้แต่คุณป้าร้านส้มตำที่ฝึกฝนจนได้อาหารที่ตักเข้าปากแล้วเรากล้าพูดว่าอร่อยแบบไม่ต้องคิดมาก เพราะอาหารอร่อยก็คืออร่อยต่อให้จานละสิบบาทห้ามบาทหรือหลักพันหลักหมื่นก็ตาม
อาหาร… ที่เป็นตัวแทนแห่งความหลากหลาย
มาร์ค วีน เกิดที่ฮาวาย ก่อนจะเริ่มออกเดินทางพร้อมครอบครัวของเขาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ กับการย้ายไปอยู่เมืองเล็กๆ ในหุบเขาของประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะย้ายไปประเทศคองโก ตามมาด้วยประเทศเคนยา ทำให้เขาถือว่าเติบโตมาท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกับอาหาร “ทุกครั้งที่ผมได้กินอาหารจากประเทศต่างๆ ผมจะคิดว่ามันจะดีขนาดไหนถ้าได้กินในประเทศนั้น ผมเลยตั้งใจว่าสักวันจะต้องเดินทางไปกินอาหารพวกนั้นที่ประเทศต้นตำรับให้ได้” หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยเขาเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวในทันที และประเทศไทยก็คือจุดหมายปลายทางแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ด้วยความที่เขาชอบกินตั้งแต่เด็ก ทุกเมืองที่เขาไปการตามล่าหาของอร่อยข้างทางเลยเป็นเหมือนมิชชั่นของเขา ที่นำไปสู่การรวมตัวเป็นคอมมิวนิตี้อาหารหรือถ้าจะเรียกว่าแฟนเบสของเขาก็ว่าได้
“สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดสำหรับอาหารข้างทางของสิงคโปร์ คือทุกอย่างอยู่ในที่เดียวกันหมด คุณสามารถไปที่ศูนย์อาหารและสั่งอาหารแต่อย่างมากินพร้อมกันได้ในมื้อเดียว ถ้าเป็นประเทศอื่นเราอาจจะต้องติดอยู่บนถนนไม่ต่ำกว่าชั่วโมงสำหรับการย้ายร้าน” เขาให้คำตอบว่าจุดเด่นของอาหารสิงคโปร์คืออะไร และอะไรที่ทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางของวงการอาหาร “ด้วยความที่สิงคโปร์มีความนานาชาติมาก เป็นศูนย์กลางของหลายๆ วงการ ทำให้มีคนจากทั่วโลกบินมาที่นี่ รวมถึงเชฟด้วยเช่นกัน พวกเขาสามารถมาที่นี่แล้วทดลองกับรสชาติอาหารใหม่ๆ เพราะมีกลุ่มคนที่พร้อมเปิดรับสิ่งเหล่านั้นในทันที
“สำหรับประเทศไทยเองก็เช่นกัน โดยเฉพาะหลายปีหลังมานี้ จากที่อาหารไทยมักจะไม่ได้จัดอยู่ในหมวดไฟน์ไดนิ่ง แต่เราก็มีร้านอาหารศรณ์ มีเชฟต้น-ธิติฏฐ์และคนอื่นๆ อีกมากมาย ที่พยายามจะนำพาอาหารไทยไปสู่อีกระดับ ในมุมมองของผมสิ่งที่ทำให้วงการอาหารในประเทศไทยโดดเด่นคืออาหารไทย และสำหรับสิงคโปร์คือความหลากหลาย แต่ทั้งหมดก็เชื่อมโยงกันภาจใต้คำว่าอาหาร ที่เราทุกคนชอบเหมือนกัน”
สามารถรรับชมซีรีส์ Food Affair with Mark Wiens ได้แล้ววันนี้ทาง HBO Go
รายชื่อร้านอาหารที่อยู่ในรายการสามารถตามรอยกันได้
- Zén
- Selera Nasi Lemak
- Hainanese Delicacy
- Peach Blossoms
- Violet Oon
- Old Nyonya
- Old Tiong Bahru Bak Kut Teh
- Cloudstreet
- Kotuwa
- Samy’s Curry
- Kazu Sumiyaki
- Burnt Ends
- Kwong Satay