Bangkok Art Biennale 2024: คู่มือเสพศิลป์ 11 แห่งทั่วกรุงเทพฯ

 ทำไมต้องไป? 
BACC นับได้ว่าเป็นเหมือนหัวใจของเทศกาลนี้ ด้วยผลงานที่นำมาจัดแสดงมากถึง 142 ชิ้น พร้อมโบราณวัตถุอีก 7 ชิ้น ชิ้นงานทั้งหมดจัดแสดงอยู่ในบริเวณชั้น 7 ถึง 9 ประกอบด้วยผลงานอันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ประติมากรรม จิตรกรรมและอินสตอลเลชั่น  โดย 33 ศิลปิน  เช่น ผลงานของศิลปินชาวสิงคโปร์ อแมนดา เฮง ผู้ท้าทายมุมมองเรื่องเพศสภาพในสังคมเอเชีย และงานภาพเขียนแนวเซอร์เรียลลิสต์-แฟนตาสติก ของหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร หรือ MARSI ที่สะท้อนสัจธรรมของชีวิตและความตาย 

ห้ามพลาด!   
You Are Mine โดย ดาเนียลา โคมานี่ ผู้พลิกมุมมองเรื่องความรุนแรงในครอบครัวได้อย่างชวนคิด เธอนำข่าวความรุนแรงต่อผู้หญิงมาเล่าใหม่ด้วยการสลับเพศในเนื้อหา ทำให้เราต้องหยุดคิดถึงปัญหาเรื่องความรุนแรงที่ผู้หญิงถูกผู้ชายกระทำในสังคม 

วิธีไป: BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ เดินตามสกายวอล์คชั้น 3  
วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 20.00 น.

ทำไมต้องไป?
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้แปลงชั้น G ให้กลายเป็นพื้นที่ศิลปะ นำเสนอผลงาน 15 ชิ้น จาก 10 ศิลปิน เช่น ผลงานของ อเดล อับเดสเซเหม็ด ผู้ทำงานศิลปะด้านการเมืองมากว่าสามสิบปี เธอเป็นที่รู้จักดีจากชิ้นงานที่หยิบยกสิ่งของรอบตัว มาสะท้อนมุมมองที่แตกต่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ รวมถึง
ไอแซก ชอง หว่าย ที่ใช้การแสดง วิดีโอ ศิลปะจัดวาง การถ่ายภาพ และการวาดภาพ เป็นสื่อกลางการแสดงถึงความทรงจำ ปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ และความรุนเเรงภายใต้ระบบสังคม รวมถึงชิ้นงานของศิลปินชาวไทย ประสงค์ ลือเมือง ที่สะท้อนวัฒนธรรมและจิตวิญญาณแบบไทย 

ห้ามพลาด! 
Telle mère tel fils ผลงานของ อเดล อับเดสเซเหม็ด ผู้นำเครื่องบินสามลำมาพันผูกกัน ด้วยแรงบันดาลใจจากวิธีการทำขนมของแม่ของเขา ชิ้นงานนี้สื่อถึงความรักระหว่างแม่ลูกได้อย่างอบอุ่น โดยล้อกำสำนวนภาษาอังกฤษ ‘Like mother, like daughter’ หรือที่แปลได้ว่า เหมือนแม่เหมือนลูก (สาว) ซึ่งในที่นี้ศิลปินได้เปลี่ยนเป็น เหมือนแม่เหมือนลูก (ชาย)

วิธีไป: MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 
วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 19.00 น

ทำไมต้องไป?
ไลฟ์สไตล์ฮับแห่งใหม่นี้นำเสนองานศิลปะ 7 ชิ้น รวมถึงประติมากรรมจากศิลปินระดับโลกอย่าง โทนี แคร็กก์ ผู้นิยามตนเองว่าเป็น ‘วัตถุนิยมสุดโต่ง’ เขามีชื่อเสียงด้านการนำวัสดุต่างๆ มาซ้อนทับกัน และ อนิช คาพัวร์ หนึ่งในประติมากรผู้ทรงอิทธิพลในยุคของเขา  โดยเขาสร้างชื่อจากผลงานเชิงรูปแบบและความสามารถทางวิศวกรรม

ห้ามพลาด! 
S-Curve โดย อนิช คาพัวร์ ประติมากรรมสแตนเลสขัดมันที่สะท้อนภาพแบบบิดเบือน สร้างภาพลวงตาที่เปลี่ยนไปตามมุมมองของผู้ชม สะท้อนถึงโลกที่ มนุษย์ ธรรมชาติ และสถาปัตยกรรม ปะทะและพัลวันกันอย่างงดงามและวุ่นวายในขณะเดียวกัน

วิธีไป: MRT สถานีลุมพินี 
วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา เที่ยงวัน - 20.00 น.

ทำไมต้องไป?

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจัดแสดงชิ้นงานร่วมสมัย 34 ชิ้น พร้อมด้วยกับโบราณวัตถุ 89 รายการจากคลังกลาง  ทีมคิวเรเตอร์ยังชวนผู้ชมกันขบคิดด้วยการนำชิ้นงานแบบจำลอง มาวางคู่กับของจริง ต้องลองมาชมกันว่าชิ้นไหนเป็นของจริง ชิ้นไหนของปลอม นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมหมูเด้ง ฮิปโปแคระเซเลบตัวจิ๋วที่หลายคนรู้จักดี ซ่อนอยู่ในนั้นด้วย

ห้ามพลาด!

Fish, Fire, Fallout หรือ สีทันดรสันดาป โดย นักรบ มูลมานัส  ผู้ผสานประวัติศาสตร์ กับจุดสิ้นสุดของโลกตามคติไตรภูมิ รวมถึงวิกฤตการณ์ทางสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน เพื่อสำรวจและสร้างภาพความทรงจำขึ้นมาใหม่ ผ่านประติมากรรมปลา โบราณวัตถุ และสื่อผสม ที่เป็นการสะท้อนมุมมองที่ชาวตะวันตกนึกคิดเกี่ยวกับโลกตะวันออก

วิธีไป: เรือด่วนเจ้าพระยาท่าพระมหาราช ท่าช้าง หรือท่าบางลำพู แล้วเดิน 20 นาที 

วันพุธ - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น.

ทำไมต้องไป?
อาคารประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นโรงกษาปณ์หลวง จัดแสดงผลงานศิลปะ 54 ชิ้น และโบราณวัตถุ 4 ชิ้น จาก 13 ศิลปิน รวมถึง แอกเนส อาเรลลาโน ผู้ท้าทายการแสดงออกถึงรูปร่างมนุษย์แบบดั้งเดิมและความเชื่อมโยงเชิงสัญลักษณ์ระหว่างโลกแห่งจิตวิญญาณและโลกียะ และศิลปินและนักเคลื่อนไหวชาวไทย วิชชุลดา ศิลปินผู้นำวัสดุเหลือใช้หลากหลายประเภท มาให้ชีวิตใหม่ด้วยการเปลี่ยนให้เป็นชิ้นงานศิลปะ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้วัสดุรอบตัวซ้ำ ให้เต็มประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

ห้ามพลาด!
Project Pleiades โดย แอกเนส อาเรลลาโน ที่ตีความแนวคิด 'Nurture Gaia' ผ่านเทพี 4 องค์ ได้แก่ อินันนา กาลี ฑากิณี และแม็กดาเลน นำเสนอในรูปแบบที่แปลกตา ชวนให้เราค้นพบความหลากหลายของความเป็นเทพีในวัฒนธรรมต่างๆ ศิลปินได้แรงบันดาลใจจากตำนาน ศาสนาโบราณ หลักฐานทางโบราณคดี ศิลปะเหนือจริง และนิยายวิทยาศาสตร์ เพื่อนำเสนอการตีความใหม่ที่กระตุ้นให้ผู้ชมพิจารณาถึงพลังร่วมกัน และความซับซ้อนของเทพธิดาเหล่านี้

วิธีไป: เรือด่วนเจ้าพระยาท่าพระอาทิตย์ แล้วเดิน 10 นาที 
วันพุธ - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 16.00 น

ทำไมต้องไป? 
ห้างสรรพสินค้าชื่อดังนี้จัดแสดงผลงานจัดวางของศิลปินชาวเกาหลี ชเว จอง ฮวา ผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากความสมดุลและความวุ่นวายในชีวิตเมืองใหญ่ ผลงานของเขาสะท้อนความสนุกสนานและสร้างสรรค์ เพิ่มสีสันให้กับบรรยากาศของศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งนี้

ห้ามพลาด!
Breathing โดย ชเว จอง ฮวา งานติดตั้งที่ใช้ผลไม้ ผัก และดอกบัวที่กำลังเบ่งบาน  สื่อให้เห็นถึงจังหวะของการหายใจเข้าและออกของสิ่งต่างๆ รอบตัว สร้างพื้นที่แห่งสติท่ามกลางความวุ่นวายของเมือง

วิธีไป: BTS สถานีสยาม เดิน 10 นาทีผ่านทางสกายวอล์ก 
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

ทำไมต้องไป?
สำรวจอัตลักษณ์ไทยผ่านผลงานศิลปะ 4 ชิ้น จากศิลปิน 5 ท่าน รวมถึงศิลปินชาวอังกฤษ บรูซ อัสเบสทอส ที่นำเสนอวัฒนธรรมประชานิยมผ่านแฟชั่น วัฒนธรรมดิจิทัล เสื้อผ้า
วิดิโอเกม และของที่เป่าลมได้

ห้ามพลาด!
Eye of Newt โดย บรูซ อัสเบสทอสในชิ้นงานดวงตาขนาดใหญ่ที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศสนุกสนานในสวนสนุกของเด็กๆโดยได้รับแรงบันดาลใจจากไข่กบและแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลง ศิลปินเชื่อว่าชิ้นงานนี้ จะช่วยเชื่อมโยงเรากับต้นกำเนิดของการวิวัฒนาการในธรรมชาติ ทำให้เกิดการตระหนักถึงความงดงามของกระบวนการเปลี่ยนแปลงในชีวิต 

**ชิ้นงานนี้ย้ายไปจัดแสดงที่โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ แต่ยังมีผลงานศิลปะชิ้นอื่นๆ ที่น่าสนใจจัดแสดงอยู่ที่มิวเซียมสยาม

วิธีไป: BTS เซนต์หลุยส์ เดิน 4 นาที

ทำไมต้องไป?
วัดเก่าแก่ที่สุดของกรุงเทพฯ จัดแสดงผลงาน 3 ชิ้นจาก 3 ศิลปิน หนึ่งในไฮไลท์สำคัญ คือผลงานของประติมากรหญิงผู้มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ 20 หลุยส์ บูร์ชัวส์ หลายๆ คนอาจคุ้นหู คุ้นตากันดีกับชิ้นงานประติมากรรมแมงมุม Maman ขนาดใหญ่ สูง 30 ฟุต ที่ทำจากสำริด เหล็ก และหินอ่อน

ห้ามพลาด! 
Eyes โดย หลุยส์ บูร์ชัวส์ ประติมากรรมดวงตาหินแกรนิตที่มองตรงไปยังพระพุทธไสยาสน์ สร้างความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับการมองเห็นและธรรมะ ที่แม้ว่าดวงตาจะสื่อได้ถึงนัยยะของการล่อลวงและแอบมอง แต่ก็ยังมีจุดเชื่อมโยงกับการบรรลุของปัญญาและธรรมะที่ลึกซึ้ง ผสานกับลานต้นโพธิ์ใกล้จุดแสดงชิ้นงานเสริมบรรยากาศอันร่มเย็น เป็นพื้นที่สำหรับการไตร่ตรองสติ

วิธีไป: MRT สถานีสนามไชย เดิน 8 นาที หรือเรือด่วนเจ้าพระยาท่าเตียน เดิน 3 นาที 
เปิดทุกวัน เวลา 8:00 – 17:30 น.

ทำไมต้องไป? 
วัดอรุณ หรือ วัดแจ้ง เชิญชวนทุกคนให้ชื่นชมวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ  ที่ศิลปินชาวไทย หริธร อัครพัฒน์ ได้แทรกแนวคิดทางพุทธศาสนาอันลึกซึ้ง เข้ามาสู่ชิ้นงานที่ออกแบบมาเพื่อติดตั้งในสวนของวัดอรุณโดยเฉพาะ ผลงานชิ้นนี้เล่นแสงโดยรอบ เสริมความเด่นของโทนสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ของวัด และเพิ่มมิติความร่วมสมัยให้กับสถาปัตยกรรมแห่งนี้ได้อย่างลงตัว

ห้ามพลาด! 
The Horde โดย หริธร อัครพัฒน์ กลุ่มประติมากรรมไฟเบอร์กลาส 15 ชิ้น สูงต่ำต่างกัน ตั้งแต่ 2 ถึง 5 เมตร ตั้งอยู่ภายในสวนของวัดอรุณ ชวนให้ผู้เข้าชมก้าวเข้าไปสำรวจและเดินเล่นท่ามกลางผลงานเหล่านี้ ตัวงานได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะดั้งเดิมและศิลปะที่เกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รูปทรงประติมากรรมที่มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศชาย อาจเชื่อมโยงกับ ‘ลึงค์’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพลังสร้างสรรค์แห่งเทพเจ้า อย่างไรก็ตาม ศิลปินได้ปล่อยให้รูปร่างเหล่านี้เป็นเรื่องของการตีความ เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสงานและสร้างความคิดของตนเอง มากกว่าที่จะยึดติดกับสัญลักษณ์ที่ปรากฏในผลงาน

วิธีไป: เรือด่วนเจ้าพระยาท่าเตียน แล้วต่อเรือข้ามฟากไปวัดอรุณ 
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 17.30 น.

ทำไมต้องไป? 
ท่ามกลางสวนอันร่มรื่นและเจดีย์สีขาวที่งดงาม วัดประยุรวงศ์จัดแสดงผลงาน 2 ชิ้นจาก 2 ศิลปิน ได้แก่ ประติมากรชาวอิตาเลียน เลลโล่ เอสโปสิโต้ ผู้หลงใหลในการตีความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะร่วมสมัยและสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม และศิลปินชาวอเมริกัน 
เจสสิก้า ซีกัล ผู้ถ่ายทอดประเด็นทางสิ่งแวดล้อมและสังคม ผ่านการติดตั้งผลงานเชิงประสบการณ์ที่มีธรรมชาติเป็นตัวเอก

ห้ามพลาด!
(un)common intimacy โดย เจสสิก้า ซีกัล จัดแสดงในศาลาวัด เป็นวิดิโอภาพบันทึกปฏิสัมพันธ์ของศิลปินกับสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ อย่างเสือและจระเข้ ด้วยสไตล์ที่ดูอ่อนโยนและแฝงความเป็นผู้หญิง ชิ้นงานนี้นำเสนอความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ซึ่งแตกต่างจากภาพลักษณ์ของการควบคุม และการแสดงเพื่อความบันเทิงที่สัตว์เหล่านี้มักเผชิญ

วิธีไป: นั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเรือยอดพิมาน แล้วเดินต่ออีก 10 นาที 
เปิดทุกวัน เวลา 09.30 - 17.30 น.

ทำไมต้องไป? 
วัดบวรนิเวศ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะวัดที่ผสมผสานอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมแบบไทย จีน และยุโรป ได้กลายเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะโดยศิลปินชาวไต้หวัน โคล ลู่ ผู้นำเอาประวัติศาสตร์และวรรณกรรม มาผสานกับประสบการณ์ส่วนตัวได้อย่างน่าสนใจ

ห้ามพลาด!
The Engineers ผลงานศิลปะจัดวางที่ตั้งคำถามต่อแนวคิดของ ‘วิศวกร’ ในฐานะผู้สร้างมนุษยชาติ และเจาะลึกถึงต้นกำเนิดของระบบชนชั้นในสังคม ผลงานนี้ประกอบด้วยซุ้มประตูโค้งขนาดใหญ่สองชิ้นที่สร้างจากไม้สะเดาและผ้าลินิน ซึ่งสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของวัด โดยศิลปินสร้างสรรค์ผลงานด้วยการเผาไฟ เพื่อสื่อถึงการเคลื่อนไหว ศิลปินได้นำเอาแรงบันดาลใจจากข้อความประวัติศาสตร์ ตำนาน และโบราณวัตถุ กระตุ้นให้เราครุ่นคิดเกี่ยวกับเวลา ประวัติศาสตร์ ความทรงจำ และแนวคิดเกี่ยวกับ ‘บ้าน’ 

วิธีไป: MRT สถานีสามยอด เดิน 10 นาที
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 17.00 น.

วางแผนเส้นทาง

- โซนเมืองเก่า: วัดโพธิ์ → วัดอรุณ → วัดประยุรวงศ์ → มิวเซียมสยาม (ใช้เรือเป็นพาหนะหลัก)

- โซนสยาม-ราชประสงค์: BACC → เซ็นทรัลเวิลด์ (เดินเชื่อมต่อผ่านสกายวอล์ค)

- โซนใหม่: QSNCC → One Bangkok (นั่ง MRT เชื่อมต่อ)

เทคนิคการชมงาน

- เวลาที่เหมาะสม: แนะนำให้เริ่มช่วงเช้า 10:00 น. อากาศไม่ร้อนเกินไป

- การแต่งกาย: เตรียมชุดสุภาพสำหรับเข้าวัด และรองเท้าสบายๆ สำหรับเดินชมงาน

- อุปกรณ์: กล้องถ่ายรูป แบตสำรอง น้ำดื่ม และร่มพับ

- ลงทะเบียนร่วมเวิร์คช็อปและการเสวนาล่วงหน้า

- ใช้แอพพลิเคชั่นนำทางช่วยวางแผนเส้นทาง

Bangkok Art Biennale 2024 จะอยู่กับเราไปจนถึง 25 กุมภาพันธ์ 2025 แต่ถ้าอยากได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ไปช่วงวันธรรมดาที่คนไม่พลุกพล่าน จะได้ชื่นชมงานศิลปะอย่างเต็มที่