หน้าหลัก Time Out Bangkok

ใครว่าศึกชิงลูกค้าอยู่แค่หน้าร้าน ตอนนี้โลกออนไลน์ก็เดือดไม่แพ้กันเมื่อรัฐบาลเปิดให้ประชาชนเริ่มใช้สิทธิ์โครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา แอปฟู้ดเดลิเวอรี่เจ้าดังในไทยต่างรีบขยับหมากประกาศลดค่าธรรมเนียม (GP) แข่งกันสนั่น หวังดึงร้านอาหารเข้าร่วมโครงการในฝั่งตัวเองให้ได้มากที่สุด Line Man Wongnai ประเดิมก่อนใคร ปรับลดค่าคอมมิชชันเหลือเพียง 7-9% เท่ากับที่ Grab เสนอให้ร้านที่เข้าร่วมโครงการ โดยร้านที่สมัครภายในวันที่ 3 พฤศจิกายน จะได้เรตพิเศษสุดที่ 7% ส่วนหลังจากนั้นจะขยับเป็น 9% เช่นเดียวกับแคมเปญ ‘GrabFood x คนละครึ่งพลัส: 9-Fold Sales Boost’ ที่เปิดตัวก่อนหน้าในแนวทางเดียวกัน ฝั่ง Robinhood ก็ไม่น้อยหน้า ขอลงสนามแบบใจป้ำด้วยการลด GP เหลือ 0% สำหรับทุกออเดอร์ ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน – 19 ธันวาคมนี้ แต่จำกัดสิทธิ์เฉพาะ 5,000 ร้านแรก เท่านั้นที่สมัครเข้าร่วมในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ ShopeeFood ก็โผล่มาแจมวง ลด GP เหลือ 0% สำหรับร้านค้าที่ลงทะเบียนในวันที่ 3 พฤศจิกายน เรียกได้ว่าศึกนี้ไม่มีใครยอมใคร ไม่เพียงแต่ลด GP เท่านั้น ทั้ง Grab และ Line Man Wongnai ยังทุ่มงบรวมกว่า 400 ล้านบาท เพื่อจัดแคมเปญโปรโมตต่อยอดโครงการคนละครึ่งพลัสหวังกระตุ้นยอดขายและสร้างแรงดึงดูดให้ร้านค้าเลือกเข้าร่วมแพลตฟอร์มของตัวเอง เพราะอย่าลืมว่ากติกาของคนละครึ่งพลัสกำหนดให้ร้านค้าเลือกได้เพียงแค่หนึ่งแพลตฟอร์ม เท่านั้น ท่ามกลางสนามรบที่เต็มไปด้วยโปรลดแรงแซงทุกดีลแบบนี้ สุดท้ายแล้วร้านอาหารจะเลือกเข้าร่วมกับใคร และใครจะอยู่รอดในสงครามเดลิเวอรี่รอบใหม่นี้ คงต้องรอติดตามต่อไป

หากใครที่คุ้นตากับฉลองพระองค์อันงดงามของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และลุคต่างๆ ที่โดดเด่นด้วยผ้าไหมฝีมือคนไทย คงรู้ดีว่าท่านทรงเปรียบเสมือนไอคอนด้านแฟชั่นผู้มาก่อนกาล ผู้ซึ่งมองเห็นคุณค่าในสิ่งเล็กๆ ของประเทศ และทรงนำมาต่อยอดจนกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทำให้ผ้าไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะได้ชม ’ผ้าไทยของจริง’ อย่างใกล้ชิด เพราะพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง เปิดให้ เข้าชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป และร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ทรงอนุรักษ์และพัฒนาผ้าไทยให้กลายเป็นมรดกของชาติที่เราภูมิใจ ก่อนหน้านี้ พิพิธภัณฑ์เก็บค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ในราคา 150 บาท ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 80 บาท นักเรียน นักศึกษา 50 บาท เด็กอายุ 12-18 ปี 50 บาท และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ตอนนี้ทุกคนสามารถเข้าไปสัมผัสความงดงามของผ้าไทยได้แล้วแบบฟรีๆ ภายในมีนิทรรศการหลัก 2 ส่วนที่ห้ามพลาด ได้แก่ นิทรรศการ ชุดไทย: จากราชสำนักสู่ราชนิยม จัดแสดงฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 แบบ ตั้งแต่ เรือนต้น ไปจนถึง จักรพรรดิ แต่ละชุดเผยให้เห็นความประณีต ความงาม และรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์ของราชสำนักไทย และนิทรรศการ สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ ซึ่งจัดแสดงฉลองพระองค์จริงของสมเด็จพระพันปีหลวง ทั้งชุดไทยและชุดสากลที่ตัดเย็บจากผ้าไทยระหว่างปี 2503-2543 สะท้อนถึงความงามเหนือกาลเวลาและพระอัจฉริยภาพด้านแฟชั่น ถ้าอยากอินกับบรรยากาศให้สุด แนะนำว่าแต่งชุดไทยไปชมด้วยเลย! นอกจากจะได้รูปสวยๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำแล้ว ยังได้สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมไทยแบบเต็มอิ่มอีกด้วย และ Time Out ได้รวบรวม ชุดไทยราชนิยม 8 แบบ ให้ทุกคนเลือกสวมใส่ตามสไตล์ของตัวเอง พร้อมคงความสง่างามตามแบบฉบับของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ชุดไทยราชนิยมทั้ง 8 แบบ 1.ชุดไทยเรือนต้น    Photograph: onlyforyoucloset เป็นชุดที่ใส่สบายสุดๆ ใช้ผ้าไหมลายริ้วหรือผ้าเกลี้ยงมีเชิง ซิ่นยาวจรดข้อเท้า เสื้อคนละท่อน แขนสามส่วน กว้างพอดี ผ่าอก กระดุม 5 เม็ด คอกลมตื้น ใส่ได้ทั้งวันไปงานบุญ กฐิน หรือจะไปเที่ยวชิลล์ๆ ก็ยังได้ 2.ชุดไทยจิตรลดา     Photograph: น้ำเงินเข้ม ชุดนี้สุภาพ เรียบร้อย เหมาะกับงานกลางวัน ผ้าไหมเกลี้ยงหรือยกดอก เสื้อคนละท่อน แขนยาว คอกลม ผ่าอก  3.ชุดไทยอมรินทร์    Photograph: sugarcane แรงบันดาลใจจากพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัย คล้ายจิตรลดา แต่เพิ่มความหรูด้วยผ้าไหมยกดอกหรือยกทองทั้งตัว เสื้อกับซิ่นคนละท่อน งานค่ำ งานเลี้ยงรับเสด็จ หรือพิธีสวนสนาม ใส่แล้วดูคูล มีคลาส 4.ชุดไทยดุสิต    Photograph: กรมหม่อนไทย เป็นชุดที่ใช้เสื้อไม่มีแขน คอด้านหน้า หลังคว้านกว้าง ใช้ผ้ายกไหมหรือยกทอง ปักลายด้วยไข่มุก ลูกปัด หรือเลื่อม จีบหน้า จีบเอว มีชายพก คาดเข็มขัดไทย เหมาะกับงานค่ำแบบเต็มยศ ใส่แล้วเด่นทุกมุมกล้อง 5.ชุดไทยบรมพิมาน    Photograph: กรมหม่อนไทย ใส่ซิ่นจีบหน้ามีชายพก ยาวจรดข้อเท้า เสื้อคอกลม แขนยาว ผ่าอกหรือผ่าหลัง ผ้ายกไหมหรือยกทองทั้งตัว เหมาะกับงานพิธีเต็มยศ ครึ่งยศ หรือจะใส่เป็นชุดเจ้าสาวก็เลิศ 6.ชุดไทยจักรี    Photograph: กรมหม่อนไทย เป็นชุดห่มสไบ ซิ่นจีบยกข้างหน้า มีชายพก ผ้ายกมีเชิงหรือยกทั้งตัว คาดเข็มขัดไทย สไบเปิดไหล่ข้างหนึ่ง ใส่ไปงานค่ำ ใส่เครื่องประดับเพิ่มก็เริ่ด ปังระเบิด 7.ชุดไทยศิวาลัย    Photograph: โบราณนานมา ชุดนี้ใข้ซิ่นแบบไทยจักรพรรดิ มีชายพก เสื้อแขนยาว ผ่าหลัง เย็บติดกับซิ่น ห่มปักลายไทยแบบจักรพรรดิ เหมาะกับงานเต็มยศหรือโอกาสพิเศษ โดยเฉพาะวันที่อากาศเย็นๆ 8.ชุดไทยจักรพรรดิ    Photograph: Thairoyalfamily ใช้ซิ่นไหมหรือยกทอง จีบหน้า จีบเอว มีชายพก ห่มแพรจีบแบบไทยก่อน แล้วค่อยสไบปักแบบสตรีบรรณาศักดิ์ทับอีกชั้น คาดเข็มขัดไทย เหมาะกับงานพิเศษที่ต้องแต่งเต็มยศ ใส่แล้วสายตาทุกคนต้องเหลียว ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เพศไหน หรือจะอยู่เจนไหน ก็สามารถใส่ชุดไทยได้อย่างสง่างามในแบบของตัวเอง และผ้าไทยไม่ใช่แค่ชุดใช้สำหรับงานพิธีอีกต่อไป แต่คือแฟชั่นไทยที่ทุกคนสามารถปรับให้ทันสมัย เป็นเทรนด์ตามสไตล์ของตัวเองได้  

เทศกาลฮาโลวีนได้คลืบคลานเข้ามาเต็มที และทั้งเมืองก็พร้อมหลอนไปกับกิจกรรมตามซอยใหญ่ๆ ทั่วทั้งกรุงเทพฯ แต่ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมแวมไพร์หรือหมวกแม่มด ลองเปลี่ยนมุมมองกับไอเดียคอสตูมสำหรับปีนี้กันดูไหม จะเป็นอย่างไรถ้าคุณลอง ‘แต่งเป็นกรุงเทพฯ’ เองไปเลย ไม่ว่าจะแต่งเป็นคนที่เราคุ้นหน้าในเมืองนี้ ฮีโร่ในชีวิตประจำวัน หรือไอคอนที่คนไทยทั้งรักทั้งเอ็นดู กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจน แม้แต่หัวมุมถนนยังมีเอกลักษณ์มากกว่าย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองอื่นๆ เสียอีก เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสัน ความเซอร์ไพรส์ และความเป็นไอคอนิกขั้นสุด เพราะฉะนั้นปีนี้ลองเอาพลังนั้นมาสวมใส่บนตัวคุณไปเลย เป็นคนนั้นในปาร์ตี้ที่ ‘คิดนอกกรอบ’ หรือในกรณีนี้คือ ‘ชุดที่ไม่ได้มาจากตลาดนัดจตุจักร’ ลองดูไอเดียเหล่านี้ไว้เป็นแรงบันดาลใจได้เลย ชุดตุ๊กตุ๊ก Photograph: TAT เริ่มด้วยไอคอนประจำชาติอย่าง ‘รถตุ๊กตุ๊ก’ เป็นชุดที่ DIY เองได้ง่ายมาก แค่ใช้กล่องกระดาษใบใหญ่ ระบายสีเป็นสีน้ำเงิน แดงตามแบบ แล้วผูกไว้รอบเอว ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ถ้าสีซีดๆ ก็จะเนียนหน่อย สามารถสวมเสื้อกั๊กทับเพื่อเพิ่มฟีลแบบใส่แจ็กเก็ตมอเตอร์ไซค์ก็ได้ กางเกงทำงานสีคากีหรือกรมท่าจะช่วยให้ดูสมจริงมากขึ้น พกแผนที่กรุงเทพฯ พับๆ ไว้ในกระเป๋า ใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะ และอย่าลืมผ้าขนหนูพาดคอ ให้เหมือนเพิ่งขับรถร้อนๆ มาทั้งวัน ของที่ต้องมี: กล่องกระดาษ, สีฟ้าและแดง, เสื้อเชิ้ตแขนสั้น, เสื้อกั๊ก, กางเกงคากีหรือกรมท่า, แผนที่กรุงเทพฯ, ผ้าขนหนูผืนเล็ก ถ้าตอนนั้นประเทศไทยเคยคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมใน Miss Universe 2015 ด้วยชุดประจำชาติอย่างตุ๊กตุ๊กมาแล้ว เรามั่นใจเลยว่าคุณก็มีสิทธิ์คว้ารางวัลคอสตูมยอดเยี่ยมในปาร์ตี้ปีนี้ชัวร์ แนนโนะ จาก เด็กใหม่ Photograph: Girl from Nowhere จากเด็กสาวมัธยมผู้กลายเป็นไอคอนสยองขวัญระดับโลก แนนโนะ สาวลึกลับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ หลายคนบอกว่าลุคของเธอชวนให้นึกถึง ‘โทมิเยะ’ ของจุนจิ อิโต้ สั้นๆ เลย คือสวย หลอกเก่ง และอมตะ ชุดนี้แต่งง่ายแต่เท่สุดๆ แค่เสื้อเชิ้ตสีขาว ใส่ในกระโปรงจีบสั้นสีกรมท่าหรือดำ ทำผมหน้าม้าเต่อเรียบตรง (หรือใช้วิกถ้ายังไม่กล้าตัด) ถุงเท้ายาวสีขาว รองเท้าคัชชูดำ เพิ่มโบว์เล็กๆ ที่คอถ้าอยากให้ดูเหมือนชุดนักเรียนไทยเป๊ะๆ ของที่ต้องมี: เสื้อเชิ้ตขาว, กระโปรงจีบสั้นสีกรมหรือดำ, วิกผมบ๊อบหน้าม้าเต่อ, ถุงเท้ายาวสีขาว, รองเท้าคัชชูดำ, โบว์เล็ก เคล็ดลับ: จ้องตาคนแบบเลือดเย็น ยืนนิ่ง ๆ ในขณะที่ทุกคนเดินไปเดินมา แล้วพูดเบา ๆ ว่า “สวัสดี ฉันแนนโนะ เพิ่งย้ายมาใหม่ ฝากตัวด้วยนะคะ” รับรองทั้งห้องอึ้ง นักมวยไทย   Photograph: MU Thailand คอสตูมนี้คลาสสิกแต่ยังฮอตอยู่เสมอ จะทำให้เซ็กซี่ หลอน หรือเท่ก็ได้ตามสไตล์ แค่พันมือด้วยผ้าพันมือสีขาว ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านกีฬา ใส่กางเกงมวยไทยผ้าซาตินสีแดง น้ำเงิน หรือทอง คาดมงคลที่หัว (ทำเองจากเชือกหรือผ้าก็ได้) จะเปลือยอกหรือใส่เสื้อกล้ามเล็กๆ หรือสปอร์ตบราก็แล้วแต่ เติมเลือดปลอมที่มือหรือปาก และแต่งแผลจางๆ ใต้ตาเพื่อให้ได้ฟีลแบบพึ่งชกมาสดๆ ใส่ผ้าพันข้อเท้าให้ครบลุค ของที่ต้องมี: ผ้าพันมือ, มงคล (ซื้อหรือทำเอง), กางเกงมวยไทย, เสื้อกล้ามหรือสปอร์ตบรา, เลือดปลอม, เครื่องสำอาง, ผ้าพันข้อเท้า Fun fact: ไทยเคยใช้คอนเซ็ปต์ ‘มวยไทย’ เป็นชุดประจำชาติใน Miss Universe 2021 และถือว่าชุดระดับโลกเลยทีเดียว ลิซ่า the rockstar ชุดนี้เรารีครีเอทและได้แรงบันดาลใจจากมิวสิกวิดีโอของลิซ่า BLACKPINK ‘Rockstar’ ที่ถ่ายทำใจกลางเยาวราช พร้อมท่อนฮิตอย่าง “BKK so pretty!” ลุคนี้จัดเต็มไปด้วยความกล้าและความแวววาว กางเกงยีนส์เอวต่ำหรือทรงตรง เสื้อคู่กับบราทรงดาวหรือเสื้อครอปเมทัลลิก ที่สามารถทำเองได้ด้วยผ้ากลิตเตอร์หรือดาวติดรีด มัดหางม้าแบบเปียกด้วยเจลจัดทรงเยอะๆ ของที่ต้องมี: กางเกงยีนส์เอวต่ำหรือทรงตรง, เสื้อบราทรงดาวหรือเมทัลลิก, เจลจัดทรง, เครื่องประดับเงิน, อายไลเนอร์ดำจัด, ลิปกลอส, รองเท้าบูทหรือสนีกเกอร์หนา เติมเครื่องเงินให้สุด วิบวับเท่าที่จะใส่ได้ แล้วพกเอเนอร์จี้แบบ Rockstar ไปทั้งคืน ยาดมหงษ์ไทย View this post on Instagram A post shared by Time Out กรุงเทพฯ (@timeoutbangkok_th) เราทุกคนรู้จักมันและรักมันสุดๆ ยาดม ไอเท็มเล็กๆ ที่ช่วยได้ทุกอย่างตั้งแต่ปวดหัวยันปวดใจ ถ้าปีนี้อยากลองแต่งเป็นยาดม ลองใช้หลอดกระดาษยาวๆ (จากกระดาษห่อของหรือหลอดโปสเตอร์) ระบายสีเขียวแล้วแต้มด้วยสีเหลือง เขียนคำว่า ‘หงษ์ไทย’ ตัวโต ๆ ด้วยปากกาเมจิก ถ้าอยากแต่งเรียบๆ ก็ใส่ชุดสีเขียวทั้งตัว (เดรส, จั๊มสูท หรือชุดเซต) คาดเข็มขัดหรือผ้าคาดเอวสีเหลือง ถือยาดมของจริงไว้ในมือหรือคล้องเป็นสร้อย ของที่ต้องมี: หลอดกระดาษ, สีเขียว–เหลือง, ปากกาเมจิก, ชุดสีเขียว, เข็มขัดหรือผ้าคาดเอวสีเหลือง, ยาดมจริง เคล็ดลับ: เดินไปรอบปาร์ตี้แล้วพูดว่า ‘อยากหายใจโล่ง ๆ มั้ย?’ รับรองทุกคนเก็ต หมูเด้ง ฮิปโปแคระขวัญใจชาวไทย   Photograph: SNL คารวะให้กับไอดอลตัวน้อยแห่งยุค ‘หมูเด้ง’ ฮิปโปแคระสุดน่ารักจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว DIY ง่ายๆ ใส่ชุดสีเทาตั้งแต่หัวจรดเท้า (สเวตเชิ้ตหรือฮู้ดดี้กับกางเกงวอร์ม), ปัดบลัชสีชมพูเข้มที่แก้มเยอะๆ เพิ่มหูเล็กๆ ทำจากผ้าสักหลาดติดบนหมวกหรือฮู้ด ของที่ต้องมี: เสื้อ–กางเกงสีเทา, หมวกหรือฮู้ดสีเทา, บลัชออนสีชมพูเข้ม, สีเพนต์หน้าสีเทา (ออปชันเสริม), หูจากผ้าสักหลาด ตอนนี้มีเมอร์ชหมูเด้งขายจริงจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ทั้งเสื้อยืด ชุดนอน หมวก และสติกเกอร์ รายได้ส่วนหนึ่งนำไปช่วยดูแลสัตว์ในสวนอีกด้วย เปรมิกา จาก เปรมิกาป่าราบ   Photograph: Killer Karaoke ลุคนี้อาจเฉพาะกลุ่มหน่อย แต่แต่งแล้วเก๋ไปอีกแบบ โดยเฉพาะสายคาราโอเกะ ผีเปรมิกามาในลุคชุดนักเรียน เสื้อเชิ้ตขาว กระโปรงสั้นสีกรม ถุงเท้ายาว รองเท้าเมรีเจนส์สีดำ ไฮไลท์คือต้องมีคือ วิกผมสีแดงสด ทรงหน้าม้าเต่อ และไมโครโฟนปลอมที่มีความเปื้อนเลือดเล็กน้อย ของที่ต้องมี: เสื้อเชิ้ตขาว, กระโปรงสั้นสีกรมหรือดำ, ถุงเท้ายาวสีขาว, รองเท้าคัชชูดำ, วิกผมแดง, ไมค์ของเล่น, เลือดปลอม, เครื่องสำอาง เรื่องราวว่าด้วย ‘เปรมิกา’ เด็กสาวที่เสียชีวิตในชุดนักเรียน ก่อนวิญญาณของเธอจะไปสิงอยู่ในเครื่องคาราโอเกะเก่า ๆ หลายปีต่อมา เมื่อมีคนเผลอเปิดเครื่องนั้นขึ้นอีกครั้ง เธอตื่นจากความตายพร้อมแรงอาฆาต และเริ่มทดสอบเสียงร้องของทุกคนที่จับไมค์ ใครร้องเพี้ยน หรือได้คะแนนต่ำกว่า 80… มีสิทธิ์โดนฆ่าทิ้ง! ทั้งหลอน ทั้งจิต เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในค่ายเพลงผีที่ไม่มีวันได้กลับออกมาเลยทีเดียว แก๊งสามหนุ่มจาก The Hangover Part II   Photograph: The Hangover Part II เหมาะมากสำหรับกลุ่มเพื่อนที่มากันเป็นทีมสามคน แต่งเป็นแก๊งเพื่อนที่สูญเสียทุกอย่างในกรุงเทพฯ แต่ยังรอดกลับมาได้อย่างปาฏิหาริย์ คนแรก สวมเป้อุ้มเด็กพร้อมตุ๊กตาลิงอยู่ข้างใน ใส่เสื้อฮาวายหรือเชิ้ตลายสบาย ๆ กางเกงคาร์โก้ขาสั้น แว่นกันแดด และเซทผมยุ่ง ๆ เหมือนผ่านศึกมาแล้วทั้งคืน คนที่สอง ใส่เสื้อโปโลลายทาง (ยับๆ จะยิ่งสมจริง) กางเกงขาสั้นสีคากี พร้อมกับหน้าตาที่ดูสับสนสุดขีด และถ้าจะเล่นให้สุด แนะนำให้ถอดรองเท้าออกข้างหนึ่ง คนที่สาม ใส่เสื้อกล้ามหรือเสื้อยืดขาด ๆ รอยสักปลอมข้างแก้ม (ใช้สติ๊กเกอร์แทททูหรืออายไลเนอร์วาดเองก็ได้) ผมยุ่งๆ สวมแว่นกันแดด และทำหน้าเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันร้าย ของที่ต้องมี (รวมทั้งหมด): เป้อุ้มเด็ก, ตุ๊กตาลิง, เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อโปโล, กางเกงคาร์โก้, แว่นกันแดด, อุปกรณ์ทำรอยสักปลอม/สีแต่งหน้า, ขวดสเปรย์น้ำ (ทำเหงื่อปลอมกับคราบฝุ่น) และสีหน้าแบบงงขั้นสุด ไปถึงงานปาร์ตี้แล้วเพิ่มอินเนอร์แบบ ‘เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นวะ?’ แล้วเดินถามคนในงานแบบงง ๆ ว่า “เห็นดั๊กมั้ย?” รับรองสนุกสุด ๆ

เริ่มแพลนฉลองงานฮาโลวีนปีนี้กันแล้วรึยัง? สุดสัปดาห์นี้ก็จะหมดเดือนตุลาคม และแน่นอนว่าวันฮาโลวีนก็ใกล้เข้ามาถึงเราเต็มที ตอนนี้บรรยากาศในเมืองก็เริ่มคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายของความหลอน บวกกับลมเย็นๆ ที่เริ่มพัดผ่าน แสงไฟยามค่ำเริ่มประดับไปด้วยสีส้ม ดำ เผลอแป๊บเดียวเทศกาลความหลอนแห่งปีก็มาเคาะประตูให้ทุกคนได้ออกจากบ้าน ถึงแม้ไทยเราอาจไม่ได้อินกับผีฝรั่งมากเท่าไหร่ แต่เรื่องปาร์ตี้ บอกเลย กรุงเทพฯ ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ได้เวลาวางแผนคืนแห่งความป่วนของคุณแล้ว เหล่าแม่มดถึงเวลาชุมนุมไปออกล่าในมุมมืดของเมืองหลวง ไม่ว่าคุณจะเป็นสายสยองขวัญ สายแฟ สายแปลก หรือแค่ชอบความบ้าบอแบบฮาๆ Time Out กรุงเทพฯ มีลิสต์ให้ครบ! ถึงเราจะไม่ได้ควงปืนจับผีแบบในหนัง แต่เรารู้ว่าที่ไหนหลอนจนขนหัวลุก ที่ไหนน่าไป และที่ไหนมีความปั่นระดับตำนาน ตั้งแต่บาร์ผีสิง ปาร์ตี้บนรูฟท็อป ไปจนถึงตลาดที่เต็มไปด้วยความสยองขวัญ ปีนี้กิจกรรมฮาโลวีนทั่วกรุงยังคงจัดกันเหมือนเดิม เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนบางส่วนให้เข้ากับบรรยากาศและช่วงเวลานี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธีมการตกแต่งสุดครีเอทีฟ เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่ออกแบบมาเฉพาะเทศกาล หรือกิจกรรมที่เน้นความชิลล์และแฟชั่นสุดไอคอนนิคมากกว่าความสยอง รับรองว่าทุกที่ยังคงมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้คุณอยากออกไปเพลิดเพลินกับเทศกาลนี้ เมื่อถึงเวลาที่โคมไฟดวงสุดท้ายดับลง และเหล่าก๊วนผีชาวเมืองได้แอบย่องไปซ่อนตัวในมุมมืด คุณก็จะรู้ว่างานฮาโลวีนที่นี่ไม่ได้จบลงแค่วันเดียว แต่มันคือเทศกาลของความซน แฟชั่น และความหลอนแบบพอดิบพอดี ที่ทำให้คุณจดจำไปชั่วนิรันดร์ 

ใกล้ฮาโลวีนเข้ามาทุกที หากพูดถึงวงการเพลงไทย บ้านเรามีศิลปินหลายรุ่นที่มักหยิบเอาเรื่องเล่าสุดหลอนมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าสุดหลอน ประสบการณ์ลี้ลับ หรือเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์สยองขวัญ ทำให้เพลงไทยหลายเพลงมีเสน่ห์และมู้ดชวนขนลุกไม่แพ้กับการดูหนังผี หากย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน เพลงที่เล่าเรื่องผีหรือความลึกลับมักจะมีความคลาสสิกเฉพาะตัว แต่ช่วงหลังมานี้ ศิลปินรุ่นใหม่ก็ได้มีการผสมผสานสไตล์ดนตรีสมัยใหม่เข้ากับเรื่องราวหลอน ชวนขนหัวลุก ทำให้เกิดเพลงใหม่ๆ ที่ทั้งฟังเพลินและสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ฟังได้ทุกวัย ถึงเวลาส่งท้ายเดือนตุลาคม เดือนแห่งความหลอนที่หลายคนรอคอยในทุกปี และเพื่อให้บรรยากาศในฤดูกาลนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น Time Out ขอแชร์เพลย์ลิสต์ ‘เพลงผีบอก’ ที่รวบรวมบทเพลงไทยที่ทั้งหลอน มันส์ เท่ และชวนขนหัวลุก เซฟเก็บไว้เป็นยันต์กันผี ฮาโลวีนนี้ผีไม่หลอกแน่นอน

ปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน และถือว่าเป็นจังหวะทองของปี เพราะคืนนั้นจะมี ซูเปอร์ฟูลมูน หรือพระจันทร์เต็มดวงที่ใหญ่และสว่างที่สุดในรอบปี 2568 พอดิบพอดี พระจันทร์จะอยู่ห่างจากโลกแค่ราวๆ 356,800 กิโลเมตรเท่านั้น  ใกล้จนเห็นดวงกลมโตเต็มตาโดยไม่ต้องพึ่งเลนส์ซูม นักดาราศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า เพริจี (Perigee) ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงจันทร์โคจรมาใกล้โลกที่สุดในรอบเดือน ขนาดของมันจะใหญ่กว่าปกติราว 14 เปอร์เซ็นต์ และสว่างขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ คืนนี้เรียกได้ว่าแสงดีสุดๆ ถ่ายรูปยังไงก็ออกมาปังแน่นอน ส่วนฝั่งกทม. ก็เตรียมพร้อมกันสุดๆ เพราะปีนี้มีการเปิดสวนสาธารณะ 33 แห่งให้ประชาชนได้ลอยกระทงกันยาวถึงเที่ยงคืน จะไปสวนใหญ่ๆ อย่างสวนลุมพินีหรือสวนเบญจกิติก็ครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คน หรือถ้าใครอยากหลีกหนีความวุ่นวาย ก็มีสวนเล็กๆ หลายแห่งให้ได้นั่งดูพระจันทร์แบบสงบๆ เหมือนกัน ลอยกระทงไม่ได้มีแค่ความสวยงามของแสงไฟที่ลอยบนผิวน้ำ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่เราได้ ‘ปล่อยวาง’ เรื่องที่ค้างคาใจ ไม่ว่าจะเป็นความน้อยใจ ความเสียใจ หรือความคิดที่ยังวนอยู่ในหัวตอนตีสอง คืนนี้อาจเป็นจังหวะดีที่จะปล่อยมันไปพร้อมกับแสงเทียนบนกระทง และอย่าลืมอีกเรื่องที่สำคัญนั่นคือการช่วยกันใช้ ‘กระทงรักษ์โลก’ แม่น้ำเจ้าพระยาและแหล่งน้ำสายอื่นเหนื่อยมามากพอแล้วกับเศษโฟมที่ลอยอยู่ทุกปี ถึงเวลาที่เราควรใส่ใจสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่ต้องเผชิญกับของเสียเหล่านั้นแทน คืนวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่คืนที่กรุงเทพฯ ชะลอจังหวะลง ให้ทุกคนได้เงยหน้ามองท้องฟ้าไปพร้อมกัน ท่ามกลางซูเปอร์มูนที่ใหญ่และสว่างที่สุดของปี กับบรรยากาศอบอุ่นของเทศกาลที่ผสมความสนุกเข้ากับความตั้งใจดีต่อธรรมชาติได้อย่างลงตัว ลอยกระทงปีนี้ อย่าพลาดเลยจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะได้เห็นพระจันทร์ลูกโตขนาดนี้อีก และในเมืองที่หมุนเร็วตลอดเวลาค่ำคืนที่ทุกคนหยุดมองท้องฟ้าพร้อมกันอาจเป็นของขวัญเล็กๆ ที่เราทุกคนสมควรจะได้รับ  

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคตอย่างสงบเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ขณะมีพระชนมพรรษา 93 พรรษา ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตามประกาศของสำนักพระราชวัง พระองค์ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยและทรงทิ้งไว้ซึ่งพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่าอย่างหาที่สุดมิได้ พระบรมวงวงศานุวงศ์จะทรงไว้ทุกข์เป็นระยะเวลา 1 ปี ขณะที่รัฐบาลขอความร่วมมือให้ประชาชนชาวไทยแต่งกายด้วยชุดสีดำหรือชุดสีสุภาพเป็นเวลา 90 วัน เพื่อแสดงความอาลัยแด่พระองค์ สำหรับปวงชนชาวไทย ท่านทรงเป็นมากกว่าพระบรมราชินี พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาและห่วงใยประชาชนอย่างแท้จริง ตลอดพระชนม์ชีพท่านทรงทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในชนบท สนับสนุนบทบาทสตรี และทรงอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมไทยให้คงอยู่สืบไป พระองค์ทรงเป็นดั่งแม่ของแผ่นดินในหัวใจของคนไทยทุกคน พระราชกรณียกิจด้านศิลปวัฒนธรรมของพระองค์ยังคงปรากฏให้เห็นจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในงานหัตถกรรมและผ้าไทยที่พระองค์ทรงส่งเสริมและฟื้นฟู โครงการต่างๆ ที่พระองค์ทรงริเริ่มเพื่อช่วยเหลือชุมชนชนบท และส่งเสริมบทบาทสตรีได้สร้างแบบอย่างให้กับการทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ในประเทศไทยอย่างยั่งยืน ในช่วงเวลานี้ กรุงเทพมหานครยังคงมีการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วไปตามปกติโดยขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลให้ปิดสถานประกอบการหรือสถานบันเทิง อย่างไรก็ตาม ผู้จัดงานต่างๆ ได้รับคำแนะนำให้ปรับรูปแบบกิจกรรมให้เหมาะสมและสำรวมขึ้น อย่างไรก็ตาม บางกิจกรรมทั่วประเทศถูกยกเลิกเพื่อแสดงความเคารพ อีกทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เลื่อนการจัดแสดงแสงสีเสียง วิจิตรเจ้าพระยา 2568 ขณะที่ Skyline Film หยุดฉายภาพยนตร์ช่วงสุดสัปดาห์ และคอนเสิร์ต BamBam 'Hometown' 2025 ในกรุงเทพฯ ต้องเลื่อนการจำหน่ายบัตรออกไป บางกิจกรรม เช่น The Ultimate Food Festival ยังคงจัดต่อไป แต่มีการปรับเปลี่ยนบางส่วนเพื่อให้เหมาะสมกับบรรยากาศช่วงเวลานี้ กล่าวโดยสรุปคือ ร้านอาหาร บาร์ และกิจกรรมต่างๆ ในกรุงเทพฯ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่อาจมีการลดความครึกครื้นลงเพื่อให้สอดคล้องกับบรรยากาศแห่งการไว้อาลัย นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลกับสถานที่ก่อนไป เนื่องจากสถานที่บางแห่งอาจปรับเวลาเปิด ปิดหรือรูปแบบการให้บริการเล็กน้อย   สำหรับผู้ที่มาเยือนกรุงเทพฯในช่วงนี้ ขอให้ตระหนักถึงช่วงเวลาแห่งความสูญเสียนี้ การแต่งกายด้วยโทนสีดำหรือสีสุภาพไม่ใช่ข้อบังคับ แต่ถือเป็นการแสดงน้ำใจและความเคารพที่ชาวไทยจะชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง

อีกไม่กี่วันก็จะถึงฮาโลวีนที่หลายคนรอคอย! ช่วงนี้ทั่วทั้งกรุงเทพฯ เริ่มมีบรรยากาศของเทศกาลแห่งความหลอนตั้งแต่หัวมุมถนนไปจนถึงในห้าง แต่หนึ่งในจุดที่ต้องไปเช็กอินให้ได้ทุกปี คงหนีไม่พ้น อุโมงค์สามย่านมิตรทาวน์ ที่เชื่อมระหว่างห้างกับสถานี MRT สามย่าน แลนด์มาร์กของสายคอนเทนต์ที่กลับมาสร้างฟีลขนหัวลุกอีกครั้ง หลังจากปีก่อนๆ ที่เคยสร้างกระแสด้วยธีมสุดครีเอตอย่าง อุโมงค์เร้นลับกับต้นไม้กลายพันธุ์ และ อุโมงค์ร้างใต้ดิน ที่ให้ฟีลเหมือนหลุดเข้าไปในโลกอีกมิติ ปีนี้สามย่านมิตรทาวน์ กลับมาหลอนแบบขั้นกว่าในธีม อุโมงค์ป่าต้องคำสาป (Into The Woods) ที่จะพาเราเดินเข้าสู่เส้นทางป่าพิศวงสุดลึกลับ Photograph: Samyan Mitrtown Photograph: Samyan Mitrtown ตลอดอุโมงค์ถูกแต่งแต้มด้วยแสงไฟสีแดงสลัว สะท้อนบนกิ่งไม้รกร้างและผนังที่ดูเหมือนถูกปกคลุมด้วยหมอกควัน แทรกด้วยซาวนด์สุดหลอนที่ทำเอาขนลุกทุกก้าวที่เดิน ยิ่งเดินเข้าไปยิ่งเหมือนถูกดูดเข้าสู่โลกต้องคำสาปจริงๆ และยังมี ห้องปรุงยาร้าง ที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของอุโมงค์  ที่เต็มไปด้วยขวดน้ำยา ผงวิเศษ และข้าวของลึกลับของแม่มดที่หายตัวไป  ใครเป็นสายถ่ายรูปหรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์ บอกเลยว่ามุมนี้ถ่ายยังไงก็ออกมาสวยเกินจริง โดยเฉพาะเมื่อแสงไฟสีแดงสะท้อนกับโครงไม้บิดงอ เหมือนกับฉากในหนังสยองขวัญแบบแท้ทรู อุโมงค์ป่าต้องคำสาปนี้เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 20–31 ตุลาคม 2568 ที่อุโมงค์เชื่อม Samyan Mitrtown - MRT สามย่าน เตรียมชุดเก๋ๆ หรือแวะไปถ่ายรูประหว่างทาง แล้วสัมผัสพลังลึกลับในอุโมงค์นี้  ใครไปช้าระวังจะพลาดความหลอนแบบไม่รู้ตัว

ข่าวดีสำหรับสายกลางคืน ดูเหมือนว่าการสั่งปิดร้านตอนตีสองอาจกลายเป็นอดีต เพราะ นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล กำลังผลักดันนโยบายใหม่ในการยกเลิกระบบโซนจำกัดเวลาจำหน่ายแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ เป็นขยายเวลาปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 และยกเลิกข้อห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงบ่าย 2 โมงถึง 5 โมงเย็น โดยหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน การเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มใช้ในเดือนมกราคม ปี 2569 ปัจจุบัน มีเพียงบางพื้นที่เท่านั้นที่สามารถเปิดเกินตีสองได้ เช่น สีลม, RCA และ รัชดาภิเษก ในกรุงเทพฯ รวมถึง ภูเก็ต, เชียงใหม่, ชลบุรี และเกาะสมุย ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะต้องปิดเวลาตีสองแบบไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งระบบนี้ถูกประชาชนหลายคนวิจารณ์มานานว่าล้าสมัย และไม่ยุติธรรม ภายใต้แผนปฏิรูปใหม่นี้ รัฐบาลตั้งใจจะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันสำหรับทุกฝ่าย ทั้งร้านอาหาร บาร์ หรือสถานที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ต้องวิ่งเต้นขอใบอนุญาตสถานบันเทิงแบบเดิม แต่สามารถลงทะเบียนตรงกับกระทรวงมหาดไทยได้ในฐานะร้านจำหน่ายสุราภายใต้ระบบที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมามากขึ้น แน่นอนว่าแรงจูงใจของรัฐบาลไม่ได้มีแค่เรื่องความสะดวก แต่ยังรวมถึงเม็ดเงินด้วย เพราะการขยายเวลาเปิดและลดข้อจำกัดต่างๆ คาดว่าจะช่วยเพิ่มตัวเลขการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ภาษี หลายแสนล้านบาทต่อปี ตอนนี้ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข กำลังหารือกันถึงแนวทางปฏิบัติจริงว่าจะยกเลิกข้อบังคับโซนเหล่านี้ผ่านช่องทางกฎหมายใดได้บ้าง แม้ยังอยู่ในขั้นต้น แต่ถ้าครม. เห็นชอบจริง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสถานบันเทิงของไทย (รวมถึงทุกคนที่เคยหงุดหงิดกับกฎ ห้ามขายเหลาตอนบ่าย) อาจได้เฮกันในปีหน้า ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบาร์ที่มองเห็นโอกาสรายได้เพิ่ม หรือแค่คนที่คิดว่าการดื่มเบียร์ตอนบ่ายสามไม่ควรถูกนับเป็นของผิดกฎหมาย นี่อาจเป็นการปฏิรูปที่สายดื่มในไทยรอคอยมานาน อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายฝ่ายแสดงความกังวลต่อผลกระทบด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่อง เมาแล้วขับ หลายเสียงเรียกร้องให้เพิ่มบทลงโทษให้เข้มงวดขึ้น เช่น เพิกถอนใบขับขี่ตลอดชีวิต หรือ บังคับตรวจระดับแอลกอฮอล์ในเลือดทันทีโดยไม่ต้องขออนุมัติ แนวคิดคือทั้งสองด้านต้องเดินไปคู่กัน ทั้งเปิดทางเศรษฐกิจและเก็บภาษีมากขึ้น แต่ก็ต้องดูแลความปลอดภัยของคนที่ไม่ได้อยู่ในวงปาร์ตี้ด้วยเช่นกัน

สาวๆ BLACKPINK กลับมาทำให้กรุงเทพฯ ลุกเป็นไฟอีกครั้งกับคอนเสิร์ตระดับโลก BLACKPINK WORLD TOUR ที่เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่แล้ววันนี้ที่ ราชมงคลกีฬาสถาน นี่ถือเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ในไทยครั้งที่สามของพวกเธอ หลังจากสร้างความประทับใจจนบัตร sold out ทุกที่นั่งใน ‘Born Pink World Tour’ เมื่อปี 2566 ละครั้งนี้เรียกว่าใหญ่กว่าเดิมทุกด้าน ทั้งโปรดักชัน แสง สี เสียง และโชว์ที่แฟนๆ รอคอยกันมานาน เรียกได้ว่าพร้อมมาทวงบัลลังก์อีกครั้งอย่างสมศักดิ์ศรีควีนแห่ง K-pop! และแน่นอน การกลับมาครั้งนี้พิเศษยิ่งกว่า เพราะ ลิซ่า  ลลิษา มโนบาล ลูกสาวแห่งชาติของเราเพิได้รับตำแหน่ง Brand Ambassador ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT) ไปหมาดๆ งานนี้เรียกว่าเป็นโมเมนต์แห่งความภูมิใจของ BLINK ชาวไทยทั้งประเทศ แล้วใครละจะไม่ปลื้ม?  POP-UP STORE IN BANGKOK" data-caption="" data-credit="Photograph: Samyan Mitrtown" data-width-class="" data-image-id="106334592" /> Photograph: Samyan Mitrtown แต่ไม่ต้องเสียใจถ้ายังไม่มีบัตรคอนเสิร์ต เพราะแฟนๆ ยังสามารถอินกับ Blackpink ได้อีกที่กับ BLACKPINK WORLD TOUR POP-UP STORE IN BANGKOK ที่ยกเอาโลกสีชมพูสุของ Blackpink  มาไว้กลางเมืองให้ได้ช้อปกันแบบจุกๆ ที่นี่มีทั้ง merch สุดลิมิเต็ด เสื้อผ้า แอ็กเซสซอรี ของสะสมสุดน่ารัก และมุมถ่ายรูปที่ตกแต่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็น BLACKPINK แบบเรียลๆ POP-UP STORE IN BANGKOK" data-caption="" data-credit="Photograph: Samyan Mitrtown" data-width-class="" data-image-id="106334593" /> Photograph: Samyan Mitrtown งานจัดที่ สามย่าน มิตรทาวน์ ชั้น G (ตรงข้าม MUJI) เปิดให้ช้อปเพียง วันนี้ ถึง 26 ตุลาคม เวลา 11.00–21.00 น. เท่านั้น ของมีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย! และสำหรับสายช้อปตัวจริง อย่าลืมลุ้นรับ โฟโต้การ์ดและโปสเตอร์รุ่นพิเศษ เมื่อมียอดซื้อตามที่กำหนดด้วยนะ แฟนตัวจริงบอกเลยว่าห้ามพลาด ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าตอนนี้คิวต่อแถวเข้าช็อปยาวสุดๆ