มาเช็คกันดูว่า หากฉีควัคซีนยี่ห้อไหนครบโดส จะบินไปเที่ยวประเทศอะไรได้บ้าง?

วัคซีนชนิดล่าสุดที่กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย ได้ทำสัญญาซื้อขายกับทางบริษัทผู้ผลิต บริษัทไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัทไบออนเทค (BioNTech) วัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนชนิด mRNA ที่เหมาะฉีดให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยวัคซีนยี่ห้อนี้ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันถูกใช้เป็นวัคซีนยี่ห้อหลักในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและประเทศในโซนยุโรป และหากฉีดครบ 2 โดส จะป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้ถึง 90%

ประเทศที่เปิดรับผู้ฉีดวัคซีน Pfizer

สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน, ตุรกี, มัลดีฟส์, เนปาล, โครเอเชีย, มอลตา, เซอร์เบีย, กรีซ, โปแลนด์, สเปน, ปานามา, เลบานอน, โรมาเนีย, โมร็อคโค, เม็กซิโก, ดูไบ, ไอซ์แลนด์

สำหรับประเทศเรา ‘โมเดอน่า (Moderna)’ จัดว่าเป็นวัคซีนทางเลือก และเชื่อว่ากำลังดำเนินการนำเข้ามาประเทศไทยผ่านภาคเอกชน วัคซีนยี่ห้อนี้เป็นชนิด mRNA เช่นเดียวกัน ผลิตและคิดค้นโดยบริษัท ModernaTX, Inc ในประเทศอเมริกา เป็นวัคซีนที่องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) รับรองแล้ว วัคซีนโมเดอน่าเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และหากได้รับครบโดสจะมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อโควิด19 ได้เป็นอันดับต้นๆ โดยวัคซีนยี่ห้อนี้ถูกใช้เป็นวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม สิงคโปร์ บรูไน สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฯลฯ 

ประเทศที่เปิดรับผู้ฉีดวัคซีน Moderna

สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน, ตุรกี, มัลดีฟส์, เนปาล,โครเอเชีย, มอลตา, กรีซ, โปแลนด์,  สเปน ,ปานามา, เลบานอน,โรมาเนีย, โมร็อคโค, แม็กซิโก, ดูไบ, ไอซ์แลนด์

วัคซีนแอสตราเซเนกาคิดค้นโดย บริษัทแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ประเทศอังกฤษ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศไทย และผลิตวัคซีนโดย บริษัท สยาม ไบโอไซเอนซ์ จำกัด (SBS) ในตอนนี้ประเทศไทยกำลังเร่งกระจายวัคซีนแอสตราฯ ให้กับทุกคน โดยเรียงตามความเสี่ยงสูงเป็นหลัก คือ ให้ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีก่อน ตามด้วยผู้มีโรคประจำตัว และผู้มีอายุต่ำกว่า 60 ปี โดยวัคซีนชนิดนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) แล้วเช่นกัน

ประเทศที่เปิดรับผู้ฉีดวัคซีน AstraZeneca

ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้, ฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน, ตุรกี, โครเอเชีย, มอลตา, มัลดีฟส์, เนปาล, เซอร์เบีย, กรีซ, โปแลนด์,  สเปน, เลบานอน,โรมาเนีย, สโลวีเนีย, โมร็อคโค, ไอซ์แลนด์, แม็กซิโก, ดูไบ

วัคซีนป้องกันเชื้อโควิด19 ยี่ห้อแรกที่นำมาใช้ในประเทศไทย ผลิตโดย บริษัทซิโนแวคไบโอเทค เป็นวัคซีนนำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งมีการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เรียบร้อยแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจรณาจาก องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ทำให้สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปประเทศแถบยุโรป อาจยังบินไปเที่ยวไม่ได้ เพราะวัคซีนยังไม่เป็นที่ยอมรับ

ประเทศที่เปิดรับผู้ฉีดวัคซีน Sinovace

ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน, ตุรกี, โครเอเชีย, เลบานอน,โรมาเนีย, โมร็อคโค, ไอซ์แลนด์, แม็กซิโก, ดูไบ

วัคซีนตัวนี้ผลิตโดย บริษัท Johnson & Johnsan (J&J) ประเทศสหรัฐอเมริกา เหมาะสำหรับฉีดให้กับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีข้อดีคือฉีดเพียง 1 โดสเท่านั้น ต่างจากวัคซีนชนิดอื่นที่กำหนดไว้ 2 โดส สำหรับวัคซีน J&J จะเน้นใช้เป็นวัคซีนทางเลือกในสหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์ ฯลฯ แต่ก็ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้วัคซีนยี่ห้อจอห์นสันแอนด์จอห์นสันยังไม่มีกำหนดนำมาใช้ในประเทศไทย

ประเทศที่เปิดรับผู้ฉีดวัคซีน Johnson & Johnson

สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน, ตุรกี, เนปาล, โครเอเชีย, มอลตา, กรีซ, โปแลนด์, สเปน, ปานามา, เลบานอน, โรมาเนีย, โมร็อคโค, แม็กซิโก, ดูไบ, ไอซ์แลนด์

ทว่าคนไหนที่อยากเดินทางเสียตอนนี้ อาจต้องศึกษาข้อกำหนดให้ละเอียดก่อน เพราะอย่างประเทศยอดฮิตที่คนไทยนิยมในแถบเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน ประเทศเหล่านี้มีข้อจำกัดสำหรับนักเดินทางขาเข้า คือต้องเป็นบุคคลที่เดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัว หรือเดินทางมาเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจและการศึกษาเท่านั้น และต้องมีวีซ่าจากสถานทูตของประเทศนั้นๆ จากประเทศไทยด้วย

รวมถึงประเทศโซนยุโรปเช่นกัน ที่แม้ว่าจะฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่หากบินมาจากประเทศที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ ประเทศปลอดภัยตามที่กำหนด (White List) ก็ยังต้องกักตัวและทำตามมาตรการควบคุมโรคของประเทศนั้นๆ