ยังไม่มีใครรู้ชัดว่าอนาคตของชุมชนหลังแนวเขตกำแพงพระนครเก่า “ป้อมมหากาฬ” จะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ วินาทีนี้ป้อมมหากาฬได้กลายเป็นอีกสปอร์ตไลต์ของการเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ที่ครบรส ทั้งในฐานะ 1 ใน 2 ป้อมปราการสุดท้ายที่หลงเหลือมาจากการรื้อป้อมรอบเมืองทั้งหมด 14 แห่งที่ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 รวมทั้งการทำหน้าที่เป็นโบราณสถานมีชีวิตที่ยังคงมีกลิ่นอายชุมชนชานพระนครแบบดั้งเดิมให้ได้เห็น
ชานพระนครนอกกำแพงเมืองแห่งนี้เคยเป็นท่าเรือสำคัญสำหรับขุนนางและเจ้านายที่ต้องเดินทางออกนอกเมืองทางคลองโอ่งอ่าง แสนแสบ และมหานาค แน่นอนว่าเมื่อการค้าในคลองคึกคัก ชุมชนจึงเกิดขึ้นพร้อมผลัดเปลี่ยนผู้อยู่อาศัยจากรุ่นสู่รุ่น จากผู้อาศัยเดิมสู่ผู้อยู่อาศัยใหม่หลังแนวกำแพงเมือง และป้อมสีขาวทรง 8 เหลี่ยมแห่งนี้
พิกัดของป้อมมหากาฬกินเนื้อที่ตั้งแต่หัวมุมถนนมหาไชย เชื่อมต่อถนนราชดำเนินกลาง สะพานผ่านฟ้าลีลาศ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และตรอกโรงไม้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามคลอง ด้านหลังป้อมคือชุมชนบ้านไม้เก่าแก่ที่บางหลังก็ตกทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3
นอกจากป้อมมหากาฬจะดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยตัวของป้อมเองแล้ว อีกหนึ่งความน่าสนใจในย่านนี้ก็คือการเป็นศูนย์รวมของวัดหลวง ตลอดงานช่างเก่าแก่ที่สามารถพบเจอได้สองฝั่งถนนมหาไชย เรื่อยไปยังประตูผีที่เปลี่ยนหน้าที่จากประตูขนศพออกนอกพระนคร มาเป็นย่านสตรีทฟูดสุดคึกครื้นในยามค่ำคืน ส่งให้มหากาฬเป็นย่านที่สามารถแวะมาหากันได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ