Time Out Tables: The Lamiat ledu
Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok

Le Du เปิดเมนูสุดครีเอทีฟใหม่ จากร้านอาหารอันดับ 4 ของเอเชีย โดย เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร

Time Out Tables: The Lamiat Selection by Chang ณ ร้านอาหารฤดู (Le Du) จะพาทุกคนไปลิ้มลองเมนูสตรีตฟู้ดที่ เชฟต้น นำมาตีความใหม่ในสไตล์ของเขา

Kenika Ruaytanapanich
การโฆษณา

หากพูดถึงร้านอาหารไทยระดับไฟน์ไดนิ่งที่มีชื่อเสียงระดับเอเชีย ทุกคนต้องนึกถึง Le Du ร้านอาหารไทยของ เช ฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน เพราะร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องการนำอาหารไทยมานำเสนอใหม่อย่างทันสมัย และมีรางวัลการันตีมากมาย ทั้งได้รับมิชลิน 1 ดาว และเป็นร้านอาหารอันดับ 4 ของเอเชียจากการจัดอันดับ Asia’s 50 Best Restaurants ปีล่าสุด 

โดยคอร์สเมนูที่เชฟต้นรังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อร่วมเสิร์ฟในซีรีส์อีเวนต์ที่ Time Out กรุงเทพฯ ร่วมกับเครื่องดื่มช้าง จัดดินเนอร์อาหารไทยแพร์ริ่งเครื่องดื่มเบียร์ จะเป็นเมนูอาหารไทย 5 คอร์ส ที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูสตรีตฟู้ดที่พวกเราคุ้นเคย

Time Out Tables: The Lamiat ledu
Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok

เริ่มจากคอร์สแรก “เย็นตาโฟปลาหมึกรสจัด” ที่เลือกเสิร์ฟแบบเย็น โดยเชฟเปลี่ยนจากเส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นเนื้อปลาหมึกสัมผัสหนึบหนับ ก่อนให้เราคลุกเคล้ากินคู่กับซอสเย็นตาโฟ ชิลลี่เจล ผักบุ้ง และแผ่นข้าวทอดกรอบ เมื่อชิมแล้วไม่ว่าจะสี กลิ่น หรือรสชาติ ก็ชวนให้นึกถึงเย็นตาโฟที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาทำจานนี้

ต่อไปเป็นหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Le Du ที่ใครมาก็ต้องเรียกหา จนเชฟบอกว่าต้องเสิร์ฟประจำแทบทุกฤดูกาล นั่นก็คือ “ข้าวแช่” ที่เชฟต้นเปลี่ยนหน้าตาเสียใหม่ แต่รสชาติและองค์ประกอบสำคัญยังอยู่ครบ อาทิ ไอศกรีมดอกมะลิที่มาแทนน้ำลอยดอกมะลิ ลูกกะปิ ลูกชิ้นกุ้งผสมหมูทอด ไชโป๊ พริกขิง และหอมแดง เมื่อรับประทานแนะนำให้ละเมียดกินอย่างละนิดอย่างละหน่อย เพื่อให้รสชาติแต่ละอย่างสมดุลเหมือนได้กินข้าวแช่

Time Out Tables: The Lamiat ledu
Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok

หลังจากนั้นเป็นเมนูที่จะทำให้ทุกคนเซอร์ไพรส์ เพราะ “ปีกไก่ฤดู” ที่เสิร์ฟมาในกล่องให้กินร้อนๆ เห็นแบบนี้กลับซ่อนรสชาติของ ‘บ๊ะจ่าง’ เอาไว้ด้านใน แถมมีรสชาติเข้มข้นและแปลกใหม่น่าติดใจไม่เบา โดยเชฟจะเสิร์ฟมาให้กินคู่กับซอสเขียวหวาน กินทุกอย่างพร้อมกันแล้วจะสัมผัสได้ถึงความกรอบนอก นุ่มในจากข้าว รับรองแพร์ริ่งกับเครื่องดื่มแล้วเข้ากัน

เมื่อเข้าสู่จานหลัก “มัสมั่นโบราณกับเป็ดออร์แกนิก” ทุกคนจะถูกยั่วยวนด้วยกลิ่นหอมจากเครื่องแกงที่ร้านตำเอง และสีสันบนจานอาหารที่ชวนหิว โดยจานนี้ประกอบไปด้วย เป็ดเลี้ยงแบบธรรมชาติที่ร้านนำมาดรายเอจก่อนเสิร์ฟมากกว่าสัปดาห์ กินพร้อมกับซอสมัสมั่นรสเข้มข้น มันม่วงเพียวเร่ แตงกวา มันแกว และผักชีอิมัลชั่น  เมื่อชิมแล้วจะรู้สึกว่าเป็นจานมัสมั่นที่แปลกใหม่และทันสมัยมาก

Time Out Tables: The Lamiat ledu
Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok

สุดท้ายเป็นเมนู “ของหวานจากมะพร้าว” ที่เชฟต้นบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘ขนมครก’ แต่มันอาจถูกเขาใส่ความคิดสร้างสรรค์และพัฒนามาไกลจนกลายเป็นเมนูขนมสไตล์ Le Du อย่างที่ทุกคนจะได้ชิม โดยจานนี้มีองค์ประกอบหลายอย่าง ทว่าทั้งหมดกลับเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ ประกอบด้วย สปันจ์เค้ก เผือก มะพร้าว ข้าวโพด ข้าวทอด และซอร์เบต์มะพร้าวอ่อน เมื่อกินพร้อมกันแล้วชวนนึกถึงขนมครกเครื่องแน่นๆ ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ

Time Out Tables: The Lamiat ledu
Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok

นอกจากนี้ ระหว่างมื้ออาหารทุกคนจะได้รับเครื่องดื่มเอ็กคลูซีฟจากช้าง เสิร์ฟอย่างไม่จำกัดตลอดมื้อสำหรับแพร์ริ่งกับอาหารทุกคอร์ส แต่หากใครไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถรับเครื่องดื่มทั่วไปจากช้างได้เช่นเดียวกัน โดยการแพร์ริ่งสุดพิเศษนี้สามารถจองได้ผ่านทาง Time Out กรุงเทพฯ ในราคา 2,500 บาทสุทธิต่อท่าน

และดินเนอร์พิเศษ Time Out Tables: The Lamiat Selection by Chang ณ ร้านอาหาร Le Du จะเกิดขึ้นทุกวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์, 4, 11, 18 มีนาคม เท่านั้น

สอบถามหรือสำรองที่นั่งได้ผ่านทาง https://bit.ly/3gLFvF0 หรือโทร 081-984-2806 หรืออีเมล marketing@timeoutbangkok.com

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา