พาชมบรรยากาศ ‘หมู่บ้านนักกีฬา’ ที่สร้างมาเพื่อต้อนรับนักกีฬา Tokyo Olympics 2020

หลังจากต้องเลื่อนการจัดงานมาปีเต็ม โตเกียว โอลิมปิก 2020 (Tokyo Olympics 2020) ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม - 8 สิงหาคมนี้ มาพร้อมการเปิดตัวกีฬาใหม่ 4 ประเภท คือ คาราเต้, สเก็ตบอร์ด, การปีนผา และการโต้คลื่น รวมถึงกีฬาที่หายไปจากโอลิมปิกตั้งแต่ปี 2008 อย่างเบสบอลและซอฟท์บอล ก็ถูกนำกลับมาแข่งขันในปีนี้เช่นกัน

แต่อีกเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจไม่แพ้พิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่ หรือการแข่งขันชิงเหรียญนัดสำคัญ นั่นก็คือ ‘หมู่บ้านนักกีฬา’ ที่กรุงโตเกียวสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อใช้เป็นที่พักสำหรับนักกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกในการแข่งขันปีนี้โดยเฉพาะ

และแน่นอนว่าการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ดีก็เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับนักกีฬาทุกคน ดังนั้น มาดูกันหน่อยว่าหมู่บ้านนักกีฬาแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็มขนาดไหน และนักกีฬากว่า 1 หมื่นคนที่จะลงแข่งโอลิมปิก พวกเขาต้องกินและนอนกันอย่างไร Time Out มีภาพบรรยากาศจากหมู่บ้านนักกีฬามาให้ทุกคนชมไปพร้อมๆ กัน

หมู่บ้านนักกีฬาในโตเกียวโอลิมปิก 2020 จะตั้งอยู่ในเมืองฮารุมิ เขตชูโอ ในแถบโตเกียวเบย์ พื้นที่หมู่บ้านมีทั้งหมด 440,000 ตร.ม. และคนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาได้ (ณ ตอนนี้) โดยนักกีฬาที่เข้าร่วมเกมโอลิมปิกมีทั้งหมดประมาณ 11,000 คน และเริ่มทยอยเข้าพักในหมู่บ้านมาตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหมู่บ้านนี้จะใช้เป็นที่พักสำหรับ “นักกีฬาพาราลิมปิก” ที่จะจัดการแข่งขันต่อจากกีฬาโอลิมปิกเช่นกัน

ในตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นยังคงอยู่ในสภาวะฉุกเฉินเนื่องจากไวรัสโคโรน่า ทำให้ในวันที่นักกีฬาไม่มีการซ้อมหรือการแข่งขัน พวกเขาต้องใช้เวลาอยู่ในหมู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ในหมู่บ้านแห่งนี้เลยเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เรียกได้ว่าครบครัน และมีบริเวณกว้างเหมาะสำหรับใช้เป็นสถานที่พักผ่อนของนักกีฬา โดยจะมีทั้งสวนสาธารณะ ร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่ ฟิตเนส และโรงอาหารเปิด 24 ชั่วโมง

ส่วนที่พักจะมีทั้งหมด 21 อาคาร แต่ละอาคารมี 14-18 ชั้น รวมห้องพักทั้งหมด 3,800 ห้อง ซึ่งในหนึ่งห้องจะมีห้องนอน 2 ขนาดคือ ห้องเดี่ยว 9 ตร.ม. และห้องเตียงคู่ 12 ตร.ม. โดยนักกีฬาต้องใช้ห้องอาบน้ำและห้องนั่งเล่นร่วมกัน

แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนแปลกใจ (หรือตื่นเต้น) ก็คือ เตียงสำหรับนักกีฬาที่ทำมาจากกระดาษ ทำให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้หลังจบการแข่งขัน และสามารถปรับความยาวของเตียงตามความสูงของนักกีฬาได้ด้วย ส่วนเรื่องความนอนสบายคงต้องรอฟังรีวิวจากปากนักกีฬาเองนะ

รองจากที่พักก็คงเป็นเรื่องการเตรียมความพร้อมของร่างกาย หมู่บ้านจะมีอาคารอเนกประสงค์ที่ด้านใน เริ่มจากชั้นแรก จะเป็นห้องบำบัดและรักษา มีการดูแลทั้งเรื่องกายภาพบำบัด จิตเวช ทันตกรรม ไปจนถึงโรคผิวหนังเลย 

ส่วนชั้นบนต่อมาก็จะเป็นศูนย์นันทนาการ คือมีทั้งเก้าอี้นวด โต๊ะปิงปอง จักรบานจำลอง รวมถึงห้องอาหารก็จะอยู่บนชั้นนี้เช่นกัน ซึ่งที่นี่จะเสิร์ฟอาหารให้นักกีฬาวันละ 3,000 มื้อ ส่วนเมนูก็จะเป็นสไตล์ญี่ปุ่น

และเมื่อขึ้นมาถึงชั้น 3 จะเป็นมีทั้งฟิตเนส ห้องเช็คสภาพร่างกาย โซนแอโรบิก โซนคาร์ดิโอ รวมถึงสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องอยากสัมผัสเมื่อมาถึงญี่ปุ่น นั่นก็คือ ห้องซาวน่า ที่นักยูโดและนักมวยจะใช้เพื่อรีดน้ำหนักก่อนถึงวันช่างน้ำหนักเพื่อแข่งขัน โดยฟิตเนสจะรองรับคนได้มากถึง 500 คน และมีกฏว่านักกีฬาต้องสวมแมสก์ตลอดเวลา ยกเว้นตอนอยู่ในห้องซาวน่า 

มาถึง Main Dining Hall หรือโรงอาหารหลักของหมู่บ้านนักกีฬาที่น่าจะเป็นงานหนักสำหรับคนครัวอยู่เหมือนกัน (เพราะพวกเขาต้องเสิร์ฟอาหารให้นักกีฬาผู้เหน็ดเหนื่อยถึง 1 หมื่นคนเลยนะ!) โดยที่แห่งนี้จะมีเก้าอี้ทั้งหมด 3,000 ที่นั่ง สามารถเสิร์ฟอาหารได้สูงสุด 45,000 มื้อต่อวัน และแต่ละเมนูก็มีทั้งสารอาหาร พลังงาน และส่วนผสมบอกไว้ด้วย

นอกจากนั้น โรงอาหารยังมีตัวเลือกอาหารให้มากถึง 700 ตัวเลือก เพื่อให้มั่นใจว่าจะตอบสนองนักกีฬาแต่ละประเภทให้ได้มากที่สุด แถมยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แล้วยังมีแอปฯ แสดงความหนาแน่นของโรงอาหารให้นักกีฬาเช็คก่อนมากินข้าวอีก

หลังจากเกมโอลิมปิกทั้งหมดจบลง หมู่บ้านแห่งนี้จะปิดตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม และจะเปิดอีกครั้งเมื่อถึงนักกีฬาพาราลิมปิกเดินทางมาถึง ในวันที่ 17 สิงหาคม (เกมพาราลิมปิก เริ่มแข่งวันที่ 24 สิงหาคม - 5 กันยายน 2564) และหลังจากการแข่งขันกีฬาทั้งหมดจบลงอย่างเป็นทางการ หมู่บ้านแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นที่พักอาศัย หรืออพาร์ทเมนต์สำหรับชาวโตเกียว

อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Olympics Tokyo 2020 ได้ที่นี่