[title]
ตอนนี้ Sushi KiShin ร้านซูชิโอมากาเสะ ย้ายจากโรงแรม Nikko Bangkok สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) มาอยู่ที่ชั้น 12 โรงแรม The St.Regis Bangkok ได้สักพักแล้ว วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนไปชิมซูชิพรีเมียมในบรรยากาศใหม่ๆ กัน
ร้านใหม่ของ Sushi KiShin ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น เน้นความเรียบง่ายและความเป็นธรรมชาติ แรงบันดาลใจในการตกแต่งร้านมาจากแนวคิด Wabi-Sabi ของญี่ปุ่น หรือ การมองเห็น ‘ความงดงามในความไม่สมบูรณ์แบบ’ ร้านจึงใช้วัสดุธรรมชาติทั้งหมดในการตกแต่งเพราะเป็นวัสดุที่สามารถสะท้อนแนวคิดดังกล่าวได้เป็นอย่างดี และยังทำให้ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาในร้านได้รู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ
ที่บอกว่าถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติก็เพราะผนังร้านที่มีการทำร่องเป็นลวดลายนั้น ทำจากทรายธรรมชาติที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ทาทับด้วยสีที่สกัดจากลูกพลับ ไม่ใช้สีสังเคราะห์ ไม่ใช้กาวและพลาสติกในการก่อสร้างเลย ส่วนเก้าอี้ทุกตัวในร้านก็ทำมาจากเส้นใยสับปะรด
และมื้อนี้เราอยู่กับเชฟ Satoshi Tsuru เชฟชาวญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์ในการทำซูชิมานานถึง 13 ปี เคยทำงานและใช้ชีวิตที่นิวยอร์กและเคยเปิดร้านซูชิของตัวเองในย่านกินซะ โตเกียว ทำให้เชฟมีความเข้าใจในวัฒนธรรมทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกเป็นอย่างดี
จากชื่อร้าน Ki หมายถึง ความมหัศจรรย์ (Miracle or something wonderful) ส่วน Shin หมายถึง สิ่งใหม่ ความหมายรวมๆ ของชื่อร้านก็คือ ‘ความมหัศจรรย์ใหม่ๆ’ ซึ่งเป็นชื่อที่สะท้อนสิ่งที่เชฟได้พบเจอในระหว่างที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ (แอบบอกตรงนี้ว่าเชฟไม่ได้ถนัดแค่เรื่องทำซูชิ แต่ยังสนใจเรื่องดนตรีด้วย ดังนั้น บางวันถ้าเห็นเชฟไปรับบทดีเจที่ Bar Glind บาร์สไตล์ญี่ปุ่นที่อยู่ข้างๆ กันก็ไม่ต้องแปลกใจ)
เข้าเรื่องอาหาร มื้อนี้เราเลือกเป็นคอร์ส Hasu เสิร์ฟ 13 คำ ราคา 6,500++ บาท เต็มอิ่มกับวัตถุดิบพรีเมียมสดใหม่ในทุกๆ คำ ไม่ว่าจะเป็น ปลาหมึกหิ่งห้อย ปลาโฮโบะหรือปลาบินญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นวัตถุดิบที่หายาก เนื้อหนึบแน่น รสชาติหวานฉ่ำ ปลาทูน่าส่วนเนื้อแดงไม่มีไขมัน ปลาหางเหลือง หอยตลับญี่ปุ่น ฯลฯ
และยังมีของทอดเป็น เทมปุระปลามังก์ฟิชเสิร์ฟคู่กับซอสที่ทำจากตับปลามังก์ฟิชวัตถุดิบที่ได้ชื่อว่าเป็นฟัวกราส์แห่งห้องทะเล ตามด้วยเนื้อวากิว A5 จากจังหวัดอิบารากิ เสิร์ฟพร้อมไข่แดงสด ก่อนจบด้วยของหวานที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน 3 อย่างคือเค้กไข่ ไอศกรีมยูสุ และมัทฉะมูส
จริงๆ อร่อยทุกอย่าง แต่ที่เราประทับใจเป็นพิเศษก็คือคำที่ 2 ที่เสิร์ฟเป็นชิโระเอบิ (กุ้งขาวญี่ปุ่น) คู่กับซอสอูนิที่ทำจากอูนิพันธุ์บาฟุนหนามสั้น หนึ่งในสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมสูงสุด รสชาติออกหวาน เนื้อสัมผัสค่อนข้างแน่น ท็อปด้วยคาร์เวียร์และใบคิโนะเมะ (ใบพริกไทยญี่ปุ่น) วิธีกินคำนี้ให้ได้ลิ้มรสความสดใหม่ของวัตถุดิบคุณภาพเต็มๆ คำคือตักซอสอูนิราดบนตัวกุ้งแล้วกินทุกอย่างพร้อมกัน
Sushi KiShin อยู่ที่ชั้น 12 โรงแรม The St.Regis Bangkok ร้านเปิดทุกวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 17.00 - 23.00 น. สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดคอร์สอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Sushi KiShin