ร้านสตรีตฟู้ดอร่อยและราคาถูกในกรุงเทพฯ

ร้านนี้อร่อยมาแล้วกว่า 51 ปี ทีเด็ดอยู่ที่การหยิบเอาของกินที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง ‘ปาท่องโก๋’ มาเป็นวัตถุดิบหลักของร้านแล้วปรุงเป็นสารพัดเมนูคาวหวาน เช่น ปาท่องโก๋ย่างพริกเผาหมูเส้นกรอบ (60 บาท) ปาท่องโก๋ยำทรงเครื่องทะเล (60 บาท) 

เดอะ การะเกด ร้านดังในโลกออนไลน์ที่แจ้งเกิดจากเมนู ‘เค้กฝอยทอง’ ที่ขายดิบขายดี ออร์เดอร์ล้นแทบทำไม่ทัน จนตอนนี้มีหน้าร้านจริงจังพร้อมเมนูรสเด็ดทั้งคาวทั้งหวาน มีให้อุดหนุนทั้งหมด 2 สาขา คือสาขาสุขุมวิท 36 (ปากซอยนภาศัพท์ 5) และสาขาสยาม สแควร์ วัน 

เย็นตาโฟเจซีไม่ใช่แค่เย็นตาโฟธรรมดา แต่ปรุงรสให้แซ่บเสร็จสรรพ แต่จะชามมาเต็มทั้งซอสแดง กระเทียมเจียว ลูกชิ้นปลา และลูกชิ้นกุ้ง จานจะเล็กสักหน่อย แนะนำว่าให้สั่งเบิ้ลไปเลยทีเดียว

ร้านยำเปิดใหม่ย่านสยามสแควร์ของคนชอบกินยำที่ลุกขึ้นมาคิดสูตรน้ำยำเอง อร่อยแบบไม่ใส่ผงชูรส แต่ใส่ใจในการเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ สะอาด ทั้งน้ำมะนาวจากมะนาวสด ปลาร้าก็ใช้ปลาร้าต้มสุก และอาหารทะเลที่ทางร้านสั่งมาจากมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ทุกเมนูสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้และเลือกได้ว่าจะใส่หรือไม่ใส่ปลาร้า และอีกหนึ่งเรื่องที่เราประทับใจมากก็คือความรวดเร็วในการเสิร์ฟที่ทางร้านคอนเฟิร์มมาว่าแต่ละเมนูใช้เวลารอไม่เกิน 2 นาทีเท่านั้น

ร้านนี้ถ้าคิดไม่ออกว่าจะสั่งอะไร ให้นึกถึงชื่อร้านก่อนเลย ‘ต้มยำกุ้ง’ นั่นแหละเมนูเด็ดของเขา แบบธรรมดาชามละ 150 บาท ซดคำแรกก็รู้เลยว่าทำไมใครๆ ก็ติดใจ เพราะน้ำต้มยำเขาจี๊ดจ๊าดถึงเครื่องต้มยำมาก วัตถุดิบก็สดใหม่ นอกจากนี้ก็ยังเมนูอื่นๆ เช่น ยำหอยแครง 100 (บาท) ปลาหมึกผัดพริกเผา (150 บาท) ร้านตั้งอยู่บนฟุตปาธซอยไกรสีห์ หน้าอาคารจอดรถ กทม.

ร้านกุ้งอบสไตล์ฟู้ดทรัก เมนูขึ้นชื่อคือ กุ้งอบวุ้นเส้น (150 บาท) กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ อบกับวุ้นเส้นเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นกระเทียม พริกไทย รากผักชี จากเครื่องอบ เมนูอื่นๆ ก็ให้สั่งทั้ง หอยแครงลวก (100 บาท) กับน้ำจิ้ม 2 แบบ คือน้ำจิ้มซีฟู้ดกับน้ำจิ้มหวาน และยำแซลมอน (100 บาท)

ร้านเย็นตาโฟเก่าแก่ขวัญใจสาวคอนแวนต์ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาล BNH และเป็นญาติห่างๆกับร้านเย็นตาโฟวัดแขก เคล็ดลับความอร่อยของเย็นตาโฟคอนแวนต์อยู่ที่ซอสแดงที่ทำจากมะเขือเทศและมันหวาน

ใครชอบกินข้าวหมกเราไม่อยากให้พลาดร้านนี้ เพราะต้นตำรับความอร่อยของเขาได้รับการสืบทอดมาจากชาวมุสลิมชวาที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เมนูแนะนำก็คือ ข้าวหมกเนื้อ (65 บาท) ซุปหางวัว (80 บาท) สเต๊ะเนื้อ (ชุดละ 80 บาท) ข้าวหมกไก่ (60 บาท) และก๋วยเตี๋ยวเนื้อ (50 บาท) ร้านอยู่หลังตรอกเล็กๆ ริมถนนตานี 

หมูปลาร้าร้านดังที่ไม่กินไม่ได้ เมนูเด็ดของร้านก็คือ หมูปิ้ง ไม้ละ 15 บาท กับเนื้อปิ้ง ไม้ละ 20 บาท ทานคู่กับข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท และยังใจดีแถมชุดผักกับน้ำพริกปลาร้าให้ฟรีๆ หมูกับเนื้อปิ้งดูจะไม่ได้โดดเด่นกว่าที่อื่นมากนัก แต่สิ่งที่มัดใจลูกค้าได้จำนวนมากก็คือน้ำพริกปลาร้าสูตรเด็ดของทางร้านที่เจ้าของร้านชาวอุบลราชธานีได้รับการสืบทอดมาจากคุณพ่อ ร้านเปิด 20.00 - 03.00 น.

แวะมากินก๋วยจั๊บรสเด็ดของนายอ้วน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล้ไม่ไกลจากโรงหนังไชน่าทาวน์รามา ก๋วยจั๊บ (50 บาท) แต่ละจานเสิร์ฟเส้นอวบๆ พร้อมน้ำซุปใสหอมๆ โดยมาพร้อมกับหมูสามชั้นกรอบๆ และเครื่องในที่ให้อย่างจุใจ  

เชฟยิปเชฟชาวฮ่องกงผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของห้องอาหาร Shang Palace ในโรงแรมแชงกรีล่า กรุงเทพฯ และเนื่องจากร้านนี้มีเมนูอร่อยหลายอย่าง ถ้าให้เลือกจริงๆ เราขอแนะนำ ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง (50 บาท) และฮะเก๋า (50 บาท) เพราะพลาดไม่ได้จริงๆ

หากพูดถึงก๋วยเตี๋ยวเนื้อหรือแพะตุ๋นสไตล์จีนแท้ๆ ร้านวัฒนาพานิช ที่เปิดมานานกว่า 50 ปี ต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่บรรดานักชิมคิดถึง ในปัจจุบันร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ยังคงความอร่อยของเนื้อน่องและเนื้อติดมันที่นุ่มละลายในปาก