San เป็นร้านอาหารที่วางจุดขายตัวเองเป็นร้านอาหาร “New Original” ด้วยการผสมผสานรสชาติของอาหาร 3 ชาติ ได้แก่ ไทย จีน และอเมริกัน (ตามชื่อร้านซึ่งแปลว่า “สาม” ในภาษาจีน) ทุกเมนูผ่านการรังสรรค์อย่างน่าประทับใจ สามารถแข่งกับอาหารจากร้าน Fine-Dining สุดหรู ในกรุงเทพฯ ได้สบายๆ ในราคาที่สบายกระเป๋า
จุดเริ่มต้นของร้านมาจากการที่ เชฟนิก - กฤษดา จินตกานนนท์ และเชฟแนน - ศุภรา จินตกานนท์ ภรรยา คู่รักนักเดินทางและรักอาหารเป็นชีวิตจิตใจ ได้เดินทางไปเยือนมหานครนิวยอร์กเมื่อปี 2552 และได้พบกันโดยบังเอิญกับเชฟชาวอเมริกัน Jacob Bowser อดีตรองเชฟใหญ่จากสองร้านอาหารในนิวยอร์ก Telepan และร้านมิชลินสตาร์ อย่าง Public (ปัจจุบันปิดถาวรทั้งสองร้าน) จากนั้นสามเชฟก็ได้พบกันอีกครั้งเมื่อเชฟ Jacob เดินทางมาที่กรุงเทพฯ และถูกชักชวนให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครัวที่ร้าน White Shuffle ร้านอาหารอเมริกันสมัยใหม่ของเชฟนิกและภรรยา ก่อนจะเริ่มปูทางมาสู่การเปิดร้าน San ที่ซึ่งเชฟ Jacob ได้โชว์ความคล่องแคล่วในการลงแรงปรุงอาหารที่สะท้อนผ่านจานอาหารอันซับซ้อนและโดดเด่นด้วยอาหารสามประเภทที่แตกต่างกัน
มาทานมื้อเย็นเพื่อสัมผัสกับรสชาติเต็มรูปแบบจากฝีมือการปรุงของเชฟ Jacob ต้องเริ่มต้นด้วยเมนู Barked Beetroot (220 บาท) ที่ผ่านการหมักด้วยเครื่องเทศเพื่อลดความเป็นดินของพืชราก จับคู่กับมูสมะพร้าว ลิ้นจี่ แล้วโรยหน้าด้วยมะพร้าวแห้งและเม็ดมะม่วงหิมพานต์
เทคนิคการปรุงอาหารแบบไทยและอเมริกันแบบใหม่ รวมถึงเครื่องเทศไทยและจีนจะถูกรวมไว้ในเมนู Poached Scallop (320 บาท) ที่ราดด้วยน้ำกะทิและตกแต่งด้วยไข่ปลาแซลมอน เป็นการรวมกันที่ให้รสชาติเหมือนต้มข่าทะเลรสเข้มข้น Seared Duck (390 บาท) เมนูเป็ดย่างหนังกรอบเนื้อนุ่มที่ถูกยกระดับให้มีความชุ่มฉ่ำเต็มรสมากขึ้นด้วยมันม่วงรสอมเปรี้ยวและซอสหวานอินทผลัม
ส่วนการปรุงอาหารจีนแบบดั้งเดิมจะโดดเด่นในเมนู Dan Dan Noodles (250 บาท) เมนูบะหมี่หน้าตาน่าทาน ผัดกับเป็ดมัน ขิง กระเทียม และพริกเสฉวน และเมนู River Prawn Roll Noodles (350 บาท) เป็นการผสมผสานของอาหารจีนและอเมริกันโดยปรุงด้วยเหล้าจีนและเนย แล้วราดด้วยโฟมเม่นทะเลเข้มข้น นอกจากนี้ ก็ยังมีอาหารเช้าให้บริการทั้งวัน มีให้เลือกหลากหลายเซ็ต ขณะที่อาหารกลางวันจะเป็นอาหารง่ายๆ เช่น Beef Curry Noodles และ Fried Pork over Rice