หลังจากประสบความสำเร็จกับการเปิดบริการแบบฟู้ดทรัค Pizza Massilia ก็ได้เลื่อนขั้นเป็นร้านอาหารแบบจริงจังอยู่ที่ซอยร่วมฤดี และนำรสชาติแบบอิตาเลียนมาผสมกับเอกลักษณ์ของฝรั่งเศสตอนใต้และประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างลงตัวโดยฝีมือของ 2 เชฟยักษ์ใหญ่ทั้ง Frederic Meyer เชฟผู้อยู่เบื้องหลัง Issaya Siamese Club และ Luca Apino เชฟจาก La Bottega di Luca
Pizza Massilia แห่งนี้แตกต่างจากร้านพิซซ่าร้านอื่นๆ ด้วยการตกแต่อย่างหรูหราสไตล์บาโร้ค ตัดกับผนังสีสันสดใสและพื้นปาเก้ที่ให้ความรู้สึกสบายๆ แถมที่นี่ยังมีเตาถ่านที่นำเข้าจากอิตาลี ซึ่งเราต่างก็รู้สรรพคุณของเตาแบบนี้ดีว่าช่วยทำให้พิซซ่าทั้งกรอบแต่ก็ยังเคี้ยวเพลินอีกด้วย
เมนูของร้านไม่ได้มีเยอะแยะมากมายนัก แต่ก็ครอบคลุมตั้งแต่ของว่าง พิซซ่า พาสต้า จนไปถึงของหวาน เริ่มด้วย Octopus Carpaccio (390 บาท) ปลาหมึกที่นำเข้าจากสเปน เสิร์ฟคู่กับพริกไทยดำสด น้ำมันมะกอก น้ำมะนาวและอัลมอนด์ และ Clam Spaghetti (420 บาท) สปาเก็ตตี้หอยลายที่ทำจากหอยสดๆ จากฮอกไกโด นำไปอบในเตาถ่านเช่นกัน
ส่วนไฮไลต์ของร้านที่เราไม่พูดถึงไม่ได้คือพิซซ่าที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมไปถึงหน้าขายดีอย่าง Burrata and Culatello (590 บาท) โดยนำส่วนขาของหมูที่ดีที่สุดมาทำเป็นแฮม เข้ากันได้ดีมากกับความนุ่มของชีสบูราต้า รวมไปถึงซอสมะเขือเทศนำเข้าจากต่างประเทศกับใบโหระพาอิตาเลียนก็ยังช่วยเพิ่มรสชาติให้กับพิซซ่าอีกด้วย
ของหวานก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เราขอแนะนำขนมที่หวานซ่อนเปรี้ยวอย่าง Citron Givre (290 บาท) ประกอบไปด้วยเลมอนเชื่อมจากโครงการหลวงกับเลมอนซอร์เบท ครัมเบิ้ลพิสตาชิโอและกรานิต้ารสส้มที่ให้รสสัมผัสหวานปนขมที่น่าสนใจไปอีกแบบ