Peace – Oriental Teahouse

ร้านชาบนถนนเอกมัยที่เกิดจากความชื่นชอบของนักดื่มชา ธี-ธีรชัย ลิมป์ไพฑูรย์ เน้นที่ชาจีนและชาญี่ปุ่น ประเทศที่มีวัฒนธรรมการดื่มชามานานนับหลายพันปี โดยมีเป้าหมายในการสร้างวัฒนธรรมการดื่มชา ส่วนตัวร้านนั้นเน้นที่ความโล่งกว้าง จึงใช้สีขาวตัดกับไม้แบบกลมมนไม่มีขอบทิ่ม ให้บรรยากาศสบายๆ เหมาะแก่การดื่มชา

วัฒนธรรมการดื่มชาแบบญี่ปุ่นจะให้ความรู้สึกที่จริงจังและมีการประดิษฐ์ชาตามธรรมชาติ เช่น การคลุมต้นชาเพื่อให้รับแสงได้น้อยลงและมีใบสีเขียวเข้มมากขึ้น ซึ่งต่างกับวัฒนธรรมการดื่มชาจีนที่เน้นชาธรรมชาติจากภูเขาลูกเก่าแก่ วัฒนธรรมชาญี่ปุ่นเติบโตมาพร้อมกับศาสนา การยกหรือการเช็ดชามถือเป็นพิธีกรรมที่สร้างความกลมกลืนกับธรรมชาติและสร้างสมาธิ จึงเน้นไปที่ความสวยงามและรสชาติแบบอูมามิ ในขณะที่วัฒนธรรมชาจีนพัฒนาควบคู่กับศิลปินและนักปราชญ์ จึงเน้นที่ศิลปะและประโยชน์ของชาที่ดีต่อสุขภาพ

เมนูเด็ดของร้านมีทั้ง Gyokuro (Matcha ได้มาจากส่วนที่ดีที่สุดของ Gyokuro) ชาเสิร์ฟเสิร์ฟ 3 แบบ เริ่มจากจิบน้อยๆ ให้เคลือบลิ้นก่อนกลืนให้ความหวานไหลลงคอ รสที่ได้จึงเป็นรสอูมามิ ให้ความรู้สึกเป็นรสกลมๆ อยู่ในปาก จากนั้นถ้วยที่ 2 ชงด้วยน้ำร้อน รส สี และกลิ่นที่ได้จะแตกต่างออกไป ก่อนปิดท้ายด้วยการกินใบชาผสมด้วยซอสยูซุที่ให้รสเปรี้ยว อีกแก้วคือ Jinjunmei เป็นชาแดงของจีนที่ให้รสชาติแต่ละอุณหภูมิแตกต่างกัน โดยถ้วยแรกจะใช้น้ำแร่อุณหภูมิ 55-60 องศาเซลเซียส จนได้ออกมาเป็นกลิ่นลิ้นจี่และน้ำผึ้งที่หอมหวาน ถ้วยต่อมาเปลี่ยนมาชงด้วยน้ำอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส รสที่ได้ออกเป็นกลิ่นมอลต์และดาร์กช็อกโกแลตที่แปลกไปอีกแบบ

ส่วนคนรักชาเขีนวต้องลอง Green Espresso Matcha Latte ของที่ร้านนั้นเข้มข้นถึงใจเพราะใช้มัทฉะคุณภาพดีผสมน้ำตาลและนมเพียงเล็กน้อย และยังเสิร์ฟในชามแช่เย็น แทนที่จะใส่น้ำแข็งให้เสียความเข้มข้นอีกต่างหาก ก่อนปิดท้ายกับของหวานด้วย Koicha Cream เป็นไอศกรีมนมทำเองเสิร์ฟบนโคอิชะ หรือการตีมัทฉะแบบข้นโดยใช้น้ำน้อย และมีเครื่องเคียงเป็นเกาลัดเชื่อม วิธีการกินนั้นจะใช้ตะเกียบเพื่อคีบไอศกรีมปาดมัทฉะปริมาณตามใจชอบ ส่วนไอศกรีมที่ละลายผสมกับมัทฉะด้านล่างก็สามารถดื่มต่อเป็น Matcha Latte ได้เลยทันที อิ่มอร่อยกันแบบ 2 ต่อ