[title]
ไม่ว่าจะเรียกว่า ‘โอโจ’ ตามตัวหนังสือ, ‘โอโฮ’ ตามการออกเสียงจริงๆ ในภาษาสแปนิช, หรือจะ ‘โอ้โหหหหห’ ตามที่พนักงาน The Standard ชอบพูดติดตลกกันก็แล้วแต่ — แต่ที่ทุกคนพูดตรงกันก็คือ Ojo ร้านอาหารใหม่เอี่ยมบนชั้น 76 ของตึกมหานครนั้นสวยจริงอะไรจริง และน่าจะเป็นหนึ่งในร้านใหม่ที่สวยและแฮพเพนนิ่งที่สุดในปีนี้เลยก็ได้
ความสวยของ Ojo นั้นป็นส่วนผสมที่ลงตัวของรายละเอียดการตกแต่งภายในสีทองอร่าม ตื่นตาตั้งแต่ foyer ทางเดินที่ราวกับมีตาสีทองนับร้อยๆ คู่จ้องมอง เฟอร์นิเจอร์สีทองที่มีกลิ่นเดโคเบาๆ และสเปซสูงพร้อมกระจกใสเปิดรับวิวมุมสูงของกรุงเทพฯ ซึ่งถ้ายิ่งคุณไปถึงร้านก่อนพระอาทิตย์ตก คุณจะทันช่วงเวลา magic hour ที่แสงบ่ายค่อยๆ ไล้ไปตามเสาและเก้าอี้สีทอง สะท้อนแสงล้อเล่นกับแสงสุดท้ายของวัน สวยจับตาสมชื่อร้าน ที่แปลว่า ‘ดวงตา’ ในภาษาสแปนิช
Ojo นั้นไม่ได้เป็น Ojo ตั้งแต่แรก แต่ปรับมาจาก Mahanakhon SkyBar ที่หลายคนอาจจะเคยไปมาก่อน แต่เรายอมรับว่าการปรับภาพลักษณ์ครั้งนี้ทำได้ดีแบบลืมภาพไปเลย ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับทีมดีไซน์ของ The Standard Hotels ที่นิวยอร์ก และทีมพี่อู้ นพปฏล พหลโยธิน ของทางแสนสิริ เจ้าของแบรนด์ The Standard Hotels
แน่นอนว่าภาพลักษณ์ใหม่มาพร้อมคอนเซ็ปต์อาหารใหม่ นั่นคือ อาหารเม็กซิกัน ที่ถึงชื่อจะดูไกล แต่รสชาติจัดจ้านแบบอเมริกาใต้นั้นเราเชื่อว่าเราคนไทยจะชอบได้ไม่ยาก โดยครัวของ Ojo นั้นนำโดยเชฟ Francisco “Paco” Ruano เชฟเจ้าของเร้าน Restaurante Alcalde ในเม็กซิโก ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับที่ 14 บนลิสต์ Latin America’s 50 Best Restaurants 2022
เชฟปาโก้นั้นหยิบเอาคอนเซ็ปต์ rainbow of flavors มาเพื่อจะนำเสนอรสชาติที่หลากหลายของอาหารเม็กซิกัน ให้เราลืมภาพของอาหารที่คุ้นตาอย่าง ทาโก้
และ เบอริโต้ ผ่านอาหารหน้าตาสวยงามเสิร์ฟเป็นจานแชร์ — ซึ่งสำหรับเราคนไทย การเสิร์ฟอาหารแบบแชร์นี้ดูจะเป็นเรื่องปกติ แต่กำลังเป็นเทรนด์ฮิตในซีกโลกตะวันตกเลยทีเดียว
เราไปวันแรกๆ ก่อนเปิดตัว ทันได้เห็นจานเรียกน้ำย่อยก็เช่น Tuna Crudo (B690) สลัดปลาทูน่าดิบที่มาพร้อมกับมะกอกดำบด อะโวคาโด พริกสด และมะนาวฝาน เป็นจานสดชื่นเปิดลิ้นสำหรับจานต่อๆ ไป และ Mushroom Tetela (B390) แผ่นแป้งข้าวโพดห่อเป็นสามเหลี่ยม สอดไส้เห็ดหูหนู เสิร์ฟมาบนซอส Mole แบบเม็กซิกัน
จานหลักของ Ojo นั้นก็สนใจ เช่น Pescado Zarandeado (1,100 บาท) ปลากะพงขาวย่างกับพริกและผักชี เสิร์ฟพร้อมสลัดตัดรส จานนี้เราว่ารสจัดจ้าน หอมสมุนไพร แต่อาจจะไม่ถูกใจคนที่ไม่ชอบเค็ม และอีกจานแนะนำคือ Pollo & Pipian ไก่อบกับซอส Pipian (ซอสแบบเม็กซิกันที่ทำจากผักและสมุนไพรหลายชนิดผสมกับเมล็ดฟักทองบด) ที่น่าสนใจไปอีกคือนอกจากอาหารจะเสิร์ฟมาพร้อมแผ่นแป้งแล้ว ยังมีข้าวเหนียวแบบไทยๆ เสิร์ฟมาคู่กันด้วย นัยว่าเชฟคิดว่าข้าวเหนียวไทยกับอาหารรสชาติจัดจ้านแบบเม็กซิกันนั้นเข้ากันดี — ซึ่งก็จริงอย่างว่า
ถ้าไม่อยากกินมากมาย Ojo ยังมีส่วนของบาร์ให้เราแวะไปแค่จิบเครื่องดื่มด้วย โดยสามารถเลือกที่นั่งได้ทั้งด้านใน และด้านนอกบริเวณระเบียง ราคค็อกเทลเริ่มที่ประมาณ 380 บาท
คำถามสำคัญที่หลายคนอาจจะถามคือ Ojo แพงไหม? เราขอตอบกลมๆ ว่า ราคาก็สูงตามชั้นที่ร้านอยู่นั่นแหละ คิดเสียว่ากินพร้อมวิว เพราะจานเรียกน้ำย่อยเริ่มที่ประมาณ 390 บาท ในขณะที่จานหลักคือเกิน 1000 บาทขึ้นไปทั้งหมด
Ojo นั้นเป็นห้องอาหารแรกในหลากหลายห้องของโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon ที่กำลังจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปีนี้ – โดยเราได้มีโอกาสไปแอบชะโงกหน้าดูแล้ว เชื่อว่าทุกร้านน่าจะแฮพเพนนิ่งแน่นอนเมื่อเปิดให้บริการครบ โดยเฉพาะ Mott 32 ร้านอาหารจีนชื่อดังจากฮ่องกงที่หลายคนกำลังรออยู่
Ojo ตั้งอยู่บนชั้น 76 ตึกคิงพาวเวอร์มหานคร เปิดทุกวัน 11:30-14:30 สำหรับมื้อเที่ยง และ 17:30 เป็นต้นไปสำหรับมื้อเย็น โทร 02 085 8888