[title]
ถ้าพูดถึงร้านราเมนที่ทุกคนพยายามแย่งชิงเพื่อให้ได้ครอบครองที่นั่งมากที่สุดในตอนนี้ แน่นอนว่าต้องเป็น ร้านราเมนไร้ชื่อ หรือ ‘No Name Noodle’ ในซอยสุขุมวิท 26 เพราะว่าเขาเปิดขายเพียงวันละ 39 ชาม (จากเริ่มแรกขายเพียง 30 ชาม และขยับมาเป็น 35 ชาม) แล้วไม่พอเท่านี้ ร้านจะเสิร์ฟราเมนเพียง 5 รอบต่อวันเท่านั้นอีกด้วย
ผู้อยู่เบื้องหลังราเมนสุดพิถีพิถันแต่ละชามคือ “เชฟชินจิ อิโนะอุเอะ” เรียกสั้นๆ ว่า เชฟชิน โดยเขาเคยทำราเมนอยู่ที่ร้านเทนโช ก่อนจะออกมาโชว์ฝีมือของตัวเองอย่างจริงจังที่ร้าน Rockmen ในซอยทองหล่อ ซึ่งร้านนั้นก็ขายจำกัดชามต่อวันเช่นกัน คือ 69 ชาม และแน่นอนว่าช่วงแรกๆ หากใครอยากลิ้มลองก็ต้องไปแย่งชิงคิวหน้าร้านมาให้ได้ ส่วนตอนนี้ได้ยินว่าจองไม่ยากเท่าแต่ก่อนแล้ว
ช่วงที่โควิด-19เริ่มระบาด เชฟชินก็ตัดสินใจบินกลับไปญี่ปุ่นและใช้โอกาสนั้นเดินทางศึกษาเกี่ยวกับราเมนอย่างจริงจัง ก่อนจะบินกลับมาไทยอีกครั้งเพื่อเปิดร้านราเมนสุดคราฟต์ ในชื่อ No Name Noodle ด้วยหน้าร้านแบบญี่ปุ่นและไม่มีตัวอักษรสลักบนป้ายชื่อเลย ส่วนที่นั่งด้านในจะเป็นเคาน์เตอร์บาร์ที่ใช้เสิร์ฟราเมนที่เชฟชินคิดค้นองค์ประกอบมาแล้วอย่างดี ซึ่งพวกเราจะได้นั่งชมแต่ละขั้นตอนอย่างใกล้ชิด ก่อนเชฟชินจะเป็นคนยกมาเสิร์ฟให้เองกับมือเลย
เมนูราเมนที่ร้านจะมีเพียง 2 อย่างเท่านั้น ซึ่งแต่ละชามใช้วัตถุดิบมากถึง 30 อย่าง และส่วนใหญ่ก็เป็นวัตถุดิบจากญี่ปุ่น เมนูได้แก่ “Tokusei Shio Soba (450 บาท)” เป็นราเมนซุปเกลือที่มีส่วนผสมของหอยอาซาริและโฮตาเตะ ชามนี้เป็นราเมนน้ำ เสิร์ฟมาให้กินพร้อมหมูชาชูซูวีด ไก่ชาชูซูวีด ไข่ต้มดาชิ หน่อไม้ เห็ดดุซเซล และยูซุ
ส่วนอีกเมนูเป็น “Tokusei Kombusui Tsuke Soba (470 บาท)” ราเมนแห้งเสิร์ฟคู่กับซุปโชยุ 4 ชนิด โดยตัวเส้นเมนูนี้เชฟจะลวกแล้วนำไปช็อกน้ำเย็น ก่อนราดด้วยน้ำคอมบุดาชิ เสิร์ฟมาในชามพร้อมหมูชาชูซูวีด ไก่ชาชูซูวีด ไข่ต้มดาชิ และหน่อไม้ เราชอบเมนูนี้ที่มีลูกเล่นเป็นเครื่องปรุงหลายอย่าง ซึ่งร้านจะแนะนำให้กินเฉพาะเส้นก่อน หลังจากนั้นลองโรยเกลือลงไปเล็กน้อยแล้วชิม พอกินไปเรื่อยๆ ค่อยลองใส่น้ำส้มสายชูบ๊วยลงไปที่เส้น แล้วชิมอีกครั้ง คำนี้จะมีรสเปรี้ยวตัดขึ้นมาให้หายเลี่ยน
ยังไม่จบ พอกินจนใกล้หมดแล้วหากใครอยากซดน้ำซุป ให้เหลือเส้นไว้นิดหน่อยแล้วค่อยเทซุปโชยุลงในชาม พร้อมกับใส่น้ำมันพริกไทยญี่ปุ่น จุดนี้รสชาติจะเปลี่ยนอีกครั้งจนรู้ตัวอีกทีอาจยกจนหมดชามไปแล้ว
และถ้าใครกำลังคิดว่าจะสั่งเพิ่มล่ะก็ เราขอแสดงความเสียใจด้วยนะ เพราะร้านมีกฎว่าสามารถสั่งได้คนละชามเท่านั้น แต่หากใครไม่อิ่มจริงๆ เชฟก็มีเมนูข้าว “WAFU BUTA MESHI (180 บาท)” ให้สั่งมากินด้วยได้ เป็นข้าวหน้าหมูชาชูสไลซ์บางๆ กินกับข้าวญี่ปุ่น และซอสโฮมเมด ถ้าสั่งพร้อมเป็นชุดคู่กับราเมนเลยจะคุ้มกว่ากันนิดหน่อย
พูดถึงวิธีจองหลายคนน่าจะรู้กันแล้ว แต่เราขอบอกอีกครั้งสำหรับคนยังไม่เคยได้ยินความเร่าร้อนของการโทรจองคิวที่ร้านนี้แล้วกัน
ร้านจะเปิดรับสายตอน 9 โมงเช้าของทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) และจะปิดโทรศัพท์เมื่อมีคนจองครบจำนวนต่อวันแล้ว โดยการจอง 1 ครั้งจะได้แค่ 3 ที่นั่งเท่านั้น สำหรับรอบเวลามีดังนี้ 11:00 / 11:45 / 12:30 / 13:15 / 14:00
ส่วนเบอร์โทรก็คือ 082 059 5417 และหากใครอยากสอบถามอะไรก็สามารถทักไปใช้ทางเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมของร้าน
No Name Noodle ซอยสุขุมวิท 26 ชั้น 1 อาคารร้าน S&P เปิดทุกวันอังคาร - อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์)