[title]
นับตั้งแต่ Nahm (น้ำ) เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลย้ายจากลอนดอนมาเปิดที่กรุงเทพฯ เมื่อเกือบสิบปีที่ผ่านมา เชฟชาวออสเตรเลียผู้ก่อตั้ง David Thompson ก็ยึดมั่นกับการบริการอาหารไทยรสดั้งเดิมมาอย่างต่อเนื่อง นำเสนอรสชาติที่หวนพาเราไปทำความรู้จักกับอาหารไทยตำรับโบราณในตำราที่แจกจ่ายกันแต่ในครอบครัว ความเคารพต่อความดีงามของอดีต การเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นชั้นเลิศ และการงดเว้นการตกแต่งจายวิลิศมาหราจนเกินคำว่าน่ามอง ทำให้ไม่แปลกที่ Nahm จะรั้งตำแหน่งหนึ่งใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 และยังได้รับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ในปี พ.ศ. 2561 อีกด้วย
การตกแต่งภายใน Nahm นั้นเป็นผลงานการออกแบบของ โคอิชิโร อิเคบูชิ มัณฑนากรชาวญี่ปุ่น ซึ่งตั้งใจจะสร้างบรรยากาศแบบห้องอาหารสมัยอยุธยา ด้วยการเรียงอิฐสีแดงให้คล้ายกับกำแพงอิฐ แสงสลัวๆ ภายใน สร้างความแตกต่างกับรสชาติอาหารที่จัดจ้านและเรื่องราวเบื้องหลังของอาหารแต่ละจานอย่างสิ้นเชิง
และตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2561 รสชาติของ Nahm ได้เปลี่ยนมาอยู่ภายใต้การดูแลของเชฟพิมพ์ เตชะมวลไววิทย์ เชฟเจ้าของร้าน Kin Khao ร้านอาหารไทยมิชลินสตาร์ 1 ดาว ในเมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โดยเชฟพิมพ์ยังคงคอนเซ็ปต์การใช้วัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพในการปรุงอาหาร แต่เพิ่มการมอบประสบการณ์การกินอาหารด้วยการเสิร์ฟอาหารแบบใหม่ ซึ่งรวมไปถึงการอธิบายที่ไปที่มาของวัตถุดิบโดยละเอียด
เมนูไฮไลต์ที่เชฟพิมพ์นำเสนอใหม่นั้นมีทั้ง งบทะเล (840 บาท) ที่อัดแน่นด้วยปู กุ้ง และปลาเก๋าในเครื่องแกง อีกจานคือเมี่ยงนพเก้า (500 บาท) เมี่ยงล็อบสเตอร์ ไก่ มะม่วงดิบ สละ และสมุนไพรต่างๆ เสิร์ฟขนาดพอดีคำ และเมนูใหม่แกะกล่อง กุ้งแม่น้ำผัดชะคราม (880 บาท) จานกุ้งขนาดใหญ่ผัดกับใบชะคราม กระเทียม หอม และถั่วลิสงจนเป็นซอสรสเข้มข้น
ในส่วนของขนมก็มีเมนูใหม่ถึบ 3 เซ็ต (375 บาท) ได้แก่ มะพร้าว ใบเตย และผลไม้ ที่เสิร์ฟให้นักกินได้เห็นความหลากหลายในการใช้วัตถุดิบแต่ละชนิดได้อย่างชัดเจน