เมื่อเราได้ยินว่า Julien Lavigne ผู้อยู่เบื้องหลังร้าน Oskar Bistro ในซอยสุขุมวิท 11 กำลังจะเปิดร้านใหม่ที่ตั้งชื่อเดียวกันกับภาพยนตร์สุดแปลกเรื่อง Kika ของผู้กำกับชาวสเปน Pedro Almodóvar ที่เคยฮิตสุดๆ ในช่วงยุค 90 เราก็ตั้งความหวังไว้เลยว่าร้านแห่งนี้จะต้องมีความแปลกใหม่และมีเอกลักษณ์อย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อไปถึงเราก็ไม่ผิดหวัง เพราะร้าน Kika เสิร์ฟอาหารสเปนที่ไม่เหมือนใคร แถมยังเป็นคอมฟอร์ทฟู้ดที่น่าจะถูกใจคนชอบกินอาหารอย่างแน่นอน
Kika ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ส่วนการตกแต่งจะเน้นไปที่การใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ และยังมีเคาเตอร์ที่เหล่าผู้มาทานอาหารจะมีโอกาสได้เห็นพ่อครัวจะเตรียมอาหารที่ไม่ต้องใช้ไฟในส่วนด้านหน้าร้านนี้ ส่วนชั้นสองจะเป็นบาร์ขนาดไม่ใหญ่นักที่จะให้ความเป็นส่วนตัวขึ้นมากขึ้นหน่อย
จากการเดินทางชิมอาหารทั้งในกรุงมาดริดและเมืองบาร์เซโลน่าทำให้เชฟได้สร้างสรรค์ทาปาสในแบบของ Kika ขึ้นมา ด้วยการผสมผสานอาหารเมดิเตอร์เรเนียน และเพิ่มรสชาติความเป็นไทยลงไปในแต่ละจาน ซึ่งที่นี่ได้เชฟชาวอาร์เจนติน่า Joel Bonino ที่เคยทำงานในครัวของร้านอาหารมิชลิน 1 ดาวอย่าง Pollen Street Social ในกรุงลอนดอนมาร่วมงาน โดยที่ร้านเชฟจำนำผักที่ปลูกโดยชาวบ้านจากเชียงใหม่ และอาหารทะเลจาก Pla Organic ฟาร์มที่ใช้วิธีการประมงแบบยั่งยืนแห่งเดียวของประเทศไทยมาใช้ปรุงอาหาร
เมนูของที่ร้านจึงเต็มไปด้วยรายการที่บอกส่วนประกอบของวัตถุดิบแต่ละชนิดและวัตถุดิบเด่นๆ ของแต่ละจาน รวมไปถึงแหล่งที่ได้วัตถุดิบมา และวิธีการปรุงอาหาร เมนูไฮไลต์ก็มีทั้ง boquerones (ปลาซาร์ดีนขาวพิคเกิล) เสิร์ฟคู่กับสตูว์ผักในสไตล์กาตาลัน (190 บาท) และ ปลา barracuda ที่นำมาทำเป็น pastrami ผสมกับเครื่องเทศ และสลัดถั่วลูกไก่กับมายองเนสผสมซอสศรีราชา (310 บาท) ส่วนเมนูพิเศษประจำวันจะถูกเขียนอยู่บนบอร์ดภายในร้าน ซึ่งถ้าวันนั้นโชคดีก็อาจจะได้ลอง เมนูท้องปลาทูน่าในน้ำมันมะกอกหอมๆ (590 บาท) ก็ได้เช่นกัน
ที่ร้านยังมีทั้งไวน์และค็อกเทลแบบคลาสสิคให้ได้เลือกจับคู่กับอาหาร แต่ถ้าอยากลองค็อกเทลสูตรพิเศษ ก็ต้องเป็นค็อกเทลสูตรของ Carson Quinn บาร์เทนเดอร์ผู้อยู่เบื้องหลังร้าน Quince ที่ได้สร้างสรรค์เมนู White Negroni อินฟิวส์กับสัปปะรด และไม้จันทน์ (270 บาท) รวมไปถึง Moscow Mule ในแบบฉบับของ Kika ที่ผสมวอดก้ากับบลูเบอร์รี (270 บาท) ลงไปในเครื่องดื่ม