นอกจากการเสิร์ฟอาหารด้วยคอนเซ็ปต์ที่ไม่เหมือนใคร ‘อิกนีฟ (IGNIV)’ ก็ยังเป็นอีกร้านอาหารที่น่าสนใจด้วยดีกรีเชฟผู้เป็นเจ้าของ และรสชาติอาหารที่มีความเป็นตัวเองสูงมาก บ้านเกิดของร้านอาหารแห่งนี้อยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเป็นของ เชฟแอนเดรียส คามินาดา (Andreas Caminada) เจ้าของร้านอาหาร Schloss Schauenstein ดีกรี 3 ดาวมิชลินและมิชลิน Green Star เชฟแอนเดรียสตัดสินใจสร้าง อิกนีฟ ขึ้นเพราะอยากเสิร์ฟอาหารไฟน์ไดนิ่งในบรรยากาศที่ผ่อนคลายดูบ้าง
คำว่า Igniv เป็นคำหนึ่งในภาษาของชาวสวิสฯ ที่แปลว่า ‘รังนก’ บรรยากาศที่ร้านจึงเสมือนว่า เราเป็นลูกนกที่มานั่งกินอาหารอยู่ในรังที่อบอุ่น การตกแต่งจึงเน้นใช้สีและเฟอร์นิเจอร์ที่ทำให้เรารู้สึกสบาย ผสมดีเทลเล่าถึงชื่อร้าน อาทิ ลายพิมพ์รูปนกบนหมอนอิง หรือลายกิ่งไม้บนจาน ส่วนผู้ออกแบบอิกนีฟทั้ง 4 สาขาก็คือ Patricia Urquiola สถาปนิกชาวสเปน (สาขากรุงเทพฯ เป็นแห่งที่สี่)
อิกนีฟ เป็นร้านอาหารสัญชาติยุโรปก็จริง แต่ว่าเมนูจะพลิกแพลงไปตามวัตถุดิบของที่นั้นๆ โดยรสชาติจะเน้นความเป็นสากล ซึ่งสาขากรุงเทพฯ ได้ เชฟเดวิด ฮาร์ดวิก (David Hartwig) ผู้เคยทำงานที่ร้านอาหารมิชลิน 3 ดาวกับเชฟแอนเดรียส มาเป็นผู้ออกแบบและดูแลเมนู ร่วมกับ เชฟอาเน่ รีน (Arne Riehn) ที่เคยทำขนมในร้านอาหาร 3 ดาวและร่วมงานกับเชฟแอนเดียสมาแล้วเช่นกัน มาเป็นทั้งผู้ช่วยและเชฟขนมหวาน
หลายคนอาจสงสัยว่าไฟน์ไดนิ่งแชร์ริ่งเป็นอย่างไร ซึ่งความแตกต่างเดียวก็คือหลายเมนูเสิร์ฟมาในภาชนะเดียวกัน ทว่าปริมาณจะเสิร์ฟตามจำนวนคนเช่นปกติ อาทิ ครั้งนี้เราไปด้วยกัน 2 คน ของกินเล่นและจานเรียกน้ำย่อยจะเสิร์ฟมาอย่างละ 2 คำในจานเดียวกัน
แต่พอเริ่มเข้าเมนูหลักอย่าง Beef Tartare ทาร์ทาเนื้อที่เสิร์ฟมาให้แบ่งกินด้วยกัน เป็นจานที่เราประทับใจรสชาติมาก เพราะเสิร์ฟมาพร้อมแผ่นมันฝรั่งกรอบและ wazy egg ที่เป็นครีมไข่ เวลากินให้แบ่งทาร์ทาเนื้อวางบนแผ่นมันฝรั่ง ก่อนราดด้วย waxy egg กัดไปแล้วมีครบทั้งความกรอบ นุ่ม และรสชาติที่หลากหลาย
ส่วนจานที่ทำเราเซอร์ไพรส์ก็คือ Lettuce ผักกาดที่ยังคงมีรสสัมผัสตามธรรมชาติ เชฟเพียงแค่เติมซอสพริกและพริกลงไปก็ชูวัตถุดิบได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญกินแล้วมีรสชาติดีและไม่เผ็ดอย่างที่คิด แถมจัดแต่งมาเข้ากับธีมนกอีกด้วยนะ
และอีกความสนุกที่ อิกนีฟ ก็คือเราสามารถสั่งจาน surprise เพิ่มจากคอร์สปกติได้ เพราะถ้าวันไหนโชคดีก็อาจได้ลองเมนูเหมือนที่สาขาสวิสฯ ด้วย (แต่ละวันเมนูอาจไม่ซ้ำกัน) หรือหากใครอยากลองซิกเนเจอร์เมนูประจำอิกนีฟ อาทิ Chicken Nugget (400 บาท) ที่มาพร้อมซอสโฮมเมดหอมกลิ่นรมควัน ก็สามารถบอกพนักงานว่าขอเมนูเหล่านี้เพิ่มได้เลย
เราว่า อิกนีฟ เป็นร้านอาหารที่มอบทั้งประสบการณ์และรสชาติที่ไม่มีใครเหมือน เชฟเดวิดหยิบวัตถุดิบของไทยมาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ ส่วนเชฟอาเน่ก็โชว์ฝีมือไว้ทั้งจานของหวาน และสเตชั่น candy store ที่เตรียมขนมเกือบ 10 ชนิดไว้ให้ทุกคนที่แวะมาหยิบใส่กล่องกลับไปแบ่งคนรอบกายได้ เป็นไอเดียน่ารักๆ ตามสโลแกนร้านอิกนีฟที่ว่า 'We Love To Share' ซึ่งขนมเหล่านี้เชฟอาเน่บอกต้องเริ่มทำกันตั้งแต่เช้า เพื่อนำมาเตรียมไว้สร้างความทรงจำให้ทุกคน
สำหรับราคาต่อคน มื้อกลางวัน 3 คอร์ส (12 เมนู) 1,900++ บาท / มื้อเย็น 4 คอร์ส (15 เมนู) 3,800++ บาท ส่วนเมนูเซอร์ไพรส์ 600++ บาท และเมนูซิกเนเจอร์ 400-800++ บาท
อิกนีฟ (IGNIV) อยู่บนชั้น 1 โรงแรมเซนต์ รีจิสฯ (St.Regis Bangkok) เปิดบริการวันพุธ - อาทิตย์ เวลา 12.00 - 15.00 และ 18.00 - 23.00 น.