[title]
กาแฟที่นอกจากจะทำหน้าที่เป็นตัวปลุกพลังพวกเราทุกคนในทุกวันแล้ว ถ้าศึกษาดีๆ หรือแค่เริ่มเอะใจ เวลาไปยืนหน้าเคาท์เตอร์ร้านกาแฟ แล้วเห็นเขาเขียนว่าตัวนี้คั่วอ่อน คั่วเข้ม มาจากดอยในไทย หรือกลางป่าแถบอเมริกาใต้ ก็พอจะทำให้จุดประกายได้ว่าจริงๆ แล้วกาแฟแก้วมีเรื่องราวและรสชาติที่ซ่อนอยู่มากมาย แต่เราเข้าใจดีว่าแค่การจะหาทางเข้าก็ดูเหมือนยากเหลือเกินไม่รู้จะจับจุดตรงไหน
พื้นที่ Guida Drip Bar บาร์กาแฟเล็กๆ บริเวณชั้น 2 ของ The Racquet Club ในซอยสุขุมวิท 49 แห่งนี้ ที่มีคุณต้น-ศีลภัทร ตั้งสุขนิรันดร ยืนประจำหลังบาร์กาแฟ ที่เขาไมได้จะมาชงกาแฟให้คุณ แต่จะรับหน้าที่เป็นไกด์นำทางพาทัวร์โลกของกาแฟ เพื่อค้นหารสกาแฟที่ใช่และตรงจริตการดื่มเรามากที่สุดด้วยเวิร์คช็อปกาแฟ แม้คุณต้นเขาออกตัวว่าถึงแม้ว่าเขาจะเนิร์ดกาแฟขนาดไหน แต่ทุกสิ่งที่เขาเล่ามานั้นเข้าใจง่าย ชนิดที่ว่ามือใหม่หัดดริปเช่นเรายังเข้าใจได้ไม่ยาก
สำหรับคุณต้นมีความสนใจในกาแฟมาเกือบ 10 ปี จริงๆ แล้วคุณต้นเองก็ถือว่าเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในแวดวงคอนเทนท์ ไม่แน่เราอาจจะเคยอ่านงานเขียนของเขามาบ้างแล้วก็ได้ แน่นอนว่ากาแฟก็เป็นสิ่งที่อยู่คู่เขามาตลอด จนวันหนึ่งที่ต้องเริ่มหากาแฟมาเป็นตัวช่วยในการใช้ชีวิต ที่ไม่ใช่แค่ให้ตื่นและมีพลัง แต่ยังต้องควบคุมน้ำหนักกินแล้วไม่อ้วน ง่ายๆ ว่าหาอะไรมาแก้เหงาปากในช่วงควบคุมอาหาร กาแฟ เลยกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ และหลังจากนั้นมาคุณต้นก็เริ่มจริงจังมากยิ่งขึ้น จากการศึกษาด้วยตัวเอง ไปตามเวิร์คช็อปต่างๆ จนได้ยืนบาร์ในคาเฟ่มาบ้าง ที่พัฒนากลายมาเป็นพื้นที่แห่งนี้
คุณต้นมองว่าในปัจจุบันเวิร์คช็อปกาแฟส่วนใหญ่ จะเป็นของมืออาชีพ มีพื้นฐานอยู่แล้ว เขาเลยมองเห็นช่องว่าง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยากเริ่มแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ต้องการเปลี่ยนจากกินธรรมดาเป็นศึกษาและเข้าใจสิ่งที่ตัวเองต้องจ่ายเงินในทุกๆ วัน
การเวิร์คช็อปที่นี่จะเริ่มต้นด้วยการทำแบบสอบถามถึงรสชาติกาแฟที่ชอบเป็นประจำ เช่นรสเปรี้ยว ผลไม้ หรือว่าออกแนวนัตตี้ ความเข้มอ่อน ดื่มแบบเย็นหรือร้อน หลังจากนั้นคุณต้นจะเลือกเมล็ดที่คิดว่าตรงจริตเรามากที่สุดมาหนึ่งตัว พร้อมกับอีกหนึ่งตัวในขั้วตรงข้ามที่ถ้าเป็นปกติเราคงไม่เลือกสั่งหรือไม่คิดว่าจะชอบ แต่คุณต้นจะหยิบสองตัวนี้มาให้เปรียบเทียบกัน เพราะหัวใจสำคัญของการหัดดื่มกาแฟแรกๆ ตามที่คุณต้นเล่าให้ฟังคือการทดลองหลายๆ ตัวเพื่อหารสที่ชอบมากที่สุด
ยกตัวอย่างของเราเองที่ชอบกินกาแฟคั่วเข้ม ติดกลิ่นนัตตี้ ไม่ชอบกาแฟเปรี้ยว คุณต้นเลยแนะนำเป็นเมล็ดกาแฟจากเอลซัลวาดอร์ ที่เป็นแนวสว่างแต่เอาไปบ่มเพิ่มเติมเพื่อความซับซ้อน ตัวนี้มาจากโรงคั่ว Apartment ที่สิงคโปร์ อีกตัวขั้วตรงข้ามคือกาแฟจากดอยสะเก็ด กาแฟไทยแต่เอาไปหมักกับยีสต์สไตล์กาแฟบราซิล จะมีความนัตตี้ นวลๆ ของลูกเกด เพิ่มเติมคือรสชาติของการหมักดอง โดย Roast Runner ทั้งสองเป็นกาแฟ New Wave ที่หมายถึงว่าเก็บมาแล้วไม่ได้คั่วเลยทันที แต่มีกระบวนการบ่มหรืออะไรต่างๆ เพิ่มเติมสำหรับสร้างคาแรคเตอร์ใหม่ๆ
แต่ละเมล็ดจะมีสูตรการชงที่คุณต้นลองผิดลองถูกให้เรียบร้อย เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด และคุณต้นเองก็จะพาดริปทีละขั้นตอน พร้อมเคล็ดลับต่างๆ และเรื่องราวในโลกของกาแฟตั้งแต่ต้นจนจบที่ไม่ต้องกลัวว่าจะยากเกิน ไม่ว่าจะมือใหม่ชีวิตนี้ไม่เคยจับกาดริปมาก่อน (เหมือนเรา) ก็ทำได้ เพราะบริเวณบาร์ตรงนี้ไม่มีถูกมีพูด ทุกอย่างสามารถลองได้หมด
ถ้าใครที่ไปลองดริปครั้งแรกอาจจะเปิดโลกเลยก็ได้ เพราะว่ากาแฟหนึ่งแก้วที่เราชินกับการดื่มแบบเร็วๆ นั้นมีเคล็บลับและวิธีที่ละเอียดอ่อนมาก ซึ่งคุณต้นเล่าให้ฟังแบบไม่มีกั๊ก หลักๆ ก็คือ 4 หลักประกอบกันคือ กาแฟ ปริมาณน้ำ อุณหภูมิน้ำ และการบดเมล็ดให้หยาบหรือละเอียดมากน้อยแค่ไหน ความสนุกของการดริปคือ ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับคาแรคเตอร์ของเมล็ดกาแฟที่เหมือนเป็นสารตั้งต้นแล้วที่เหลือจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ถ้าอยากรู้แบบละเอียดๆ แนะนำว่าไปนั่งเรียนกับคุณต้นเองจะสนุกกว่า อย่างเช่นตอนบดถ้าบดเกินไปหนึ่งสเต็ปอาจทำให้มีรสที่ไม่ชอบหลุดออกมาได้เลย
เสร็จเรียบร้อยก็จะถึงขั้นตอนการชิมกาแฟที่เราดริปเอง ถ้าไปกับเพื่อนก็อาจจะได้ชิมกาแฟที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นไปด้วย ถ้าให้เล่าในมุมมองของเรากาแฟตัวที่คุณต้นหยิบมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราคิดว่าเราน่าจะชอบในตอนแรก พอชิมแล้วกลับกลายเป็นว่าเราถูกจริตกับตัวที่เขาเลือกมาให้มากกว่าเสียอีก เลยคิดว่านี่แหละคือเสน่ห์ของการเวิร์คช็อปในบรรยากาศสบายๆ ไม่ต้องทำทรง ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตัดสินหรือออกอาการเกร็ง
การมาเวิร์คช็อประยะเวลาชั่วโมงนิดๆ ที่เรื่องราวของโลกกาแฟถูกอัดย่อลงมาแบบไม่ต้องตีความอีกรอบ เข้าใจถึงโครงสร้างกาแฟบนโลกนี้ได้แทบจะในทันที ที่น่าจะตอบโจทย์ของคุณต้นและนัดื่มกาแฟอย่างเราๆ ว่าขอแค่ให้เวลาไปเจอเมล็ดกาแฟที่วางขายในคาเฟ่ เราเองสามารถพอที่จะเดาหรือกะรสชาติที่คิดว่าน่าจะถูกปากของเราได้ นอกเหนือยจากตัว house blend ของร้าน หรือว่าเลือกกาแฟได้ตามมู้ดในแต่ละวัน ครั้งต่อไปจ่ายเงินซื้อกาแฟสักแก้วจะได้รสที่ถูกใจคุ้มราคาที่จ่ายไปจริงๆ
Guida Drip Bar เปิดให้บริการวันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ เวิร์คช็อปจะแบ่งออกเป็น 3 รอบต่อวัน 10.00 น. / 13.00 น. และ 15.00 น สำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้นที่ Line: @guidacoffee หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/guidadripbar