Dick Hotdog

ในซอยสุขุมวิท 38 พื้นที่เดียวกันกับร้านอาหาร H Dining หลายคนอาจเห็นแล้วว่ามีร้านฮอตด็อกชื่อเด่นสะดุดหูอยู่ด้านหน้า Dick Hotdog มาพร้อมสโลแกนประจำร้านว่า 'Your Hotdog Friend' เพราะร้านตั้งใจอยากให้เมนูฮอตด็อกเป็นอาหารกินเล่นที่ใครก็สามารถมานั่งกินได้ทุกเมื่อ

แม้ฮอตด็อกจะเป็นเมนูง่ายๆ แต่ร้านตั้งใจคัดเลือกวัตถุดิบมาแล้วอย่างดี ตั้งแต่ชนิดไส้กรอกที่มีหลายแบบ ซึ่งตั้งใจเลือกมาจากผู้ผลิตท้องถิ่น เพื่อเป็นการช่วยอุดหนุนธุรกิจขนาดเล็ก ขนมปังก็เช่นกัน ร้านคำนวณเลือกขนาดที่เหมาะสมกับไส้กรอกมาแล้ว ทำให้กินแล้วมีสมดุล ไม่มีส่วนไหนมากหรือน้อยเกินไป

ส่วนไอเท็มเด็ดของที่นี่คือซอสสูตรพิเศษที่ร้านทำขึ้นมาเอง เป็นซอสเอโอลี และซอสเผ็ดที่ทำจากมะเขือเทศผสมพริกแกงเล็กน้อยเพื่อให้ได้รสถูกปากคนไทย นอกจากนี้ ผักดองที่กินคู่กับฮอตด็อกก็เป็นโฮมเมดเช่นกัน

เมนูเด่นประจำร้านคือ Thai Dick (175 บาท) ได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารไทยอย่างผัดกะเพรา แต่เปลี่ยนจากไส้กรอกธรรมดาทั่วไปเป็นไส้อั่ว ทำให้กินแล้วได้รสสมุนไพร และจัดจ้านกำลังดีด้วยซอสกะเพรา แถมมีไข่ดาวและกากหมูกรอบๆ ท็อปด้านบนมาด้วย เห็นแล้วอยากกัดทั้งหมดให้ครบในคำเดียว อีกเมนูคือ Yummy Munchie Dick (175 บาท) ฮอตด็อกกรอบนอกฉ่ำใน ทาด้วยซอสบาร์บีคิว กินคู่กับหอมใหญ่ที่นำไปผัดกับน้ำมันเจียวกากหมู โรยพาเมซานชีส เบค่อน และผักดอง แนะนำให้สั่งเครื่องดื่มที่ร้านทำเองมาดับกระหายคู่กัน Lemonade (75 บาท) รับรองว่าสดชื่น คลายร้อนได้ดีเลย

ส่วนใครที่แวะมานั่งกินอาหารว่างชิลๆ ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ (ศุกร์-อาทิตย์) ที่ร้าน Dick จะมีเมนูพิเศษคือ Chili Dick (250 บาท) ฮอตด็อกราดซอสเนื้อสไตล์ตะวันตก กับอีกเมนูที่เราไม่อยากให้พลาด Mojo Lotus (140 บาท) รากบัวทอดกรุบกรอบ เพิ่มรสชาติด้วยซอสเปรี้ยวสไตล์เม็กซิกัน และเมนู Chili Fries (220 บาท) เฟรนช์ฟรายส์ราดซอสเนื้อ จับคู่กับเครื่องดื่ม Strawberry Lemonade (85 บาท) ที่ร้านทำซอสสตรอว์เบอร์รีเองอีกเช่นกัน