DTF หรือ Down To Food ซึ่งร้านตั้งชื่อให้พ้องกับคำในภาษาจีนว่า Dao Tu Fook (เด๋า ตู๋ ฟุค) ที่แต่ละคำมีความหมายว่า ‘มีด ศิลปะ และ การประยุกต์’ ตรงกับความตั้งใจในการทำอาหารของร้านพอดี โดยเจ้าของร้านคือ คุณวู้ดดี้ - วุฒิ สมบูรณ์กุลวุฒิ ผู้ริเริ่มตลาดนัดรวมของสไตล์วินเทจ Made by Legacy ร่วมกับหุ้นส่วนอีกคนหนึ่ง ช่วยกันชุบชีวิตตึกเก่าคูหานี้ให้มีชีวิตขึ้นมา
ร้านเน้นเสิร์ฟอาหารจีนแบบฟิวชั่น ภายใต้บรรยากาศบ้านเก่าที่มีอายุกว่า 60 ปี ใครที่ชอบร้านอาหารสไตล์วินเทจย้อนสมัยต้องชอบการตกแต่งของร้านนี้แน่นอน โดยเฉพาะรถยนต์รุ่น Morris Ten สีครีมที่จอดอยู่มุมหนึ่งในร้าน หรือของตกแต่งย้อนสมัยที่นำมาจากสิ่งที่หลงเหลืออยู่จากบ้านหลังนี้ ซึ่งเชื่อว่ามุมโปรดของหลายคนต้องเป็นโต๊ะกลมที่ตั้งอยู่หน้าชั้นวางของ เพราะชวนให้นึกถึงบรรยากาศตอนนั่งรับประทานอาหารที่บ้านพร้อมหน้ากับครอบครัวไม่น้อยเลย
นั่นก็เพราะคอนเซ็ปต์ของร้านคือ Family Hungry Place ที่ต้องการเปลี่ยนบ้านหลังนี้ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความสุขสำหรับครอบครัว จึงจัดให้มีทั้งโต๊ะใหญ่สำหรับนั่งกินหลายๆ คน หรือโต๊ะขนาดเล็กลงมาสำหรับ 2-4 ที่
สูตรอาหารของร้านได้มาจากสูตรของครอบครัวเอง หรือจากประสบการณ์เดินทางชิมอาหารตามที่ต่างๆ ก่อนนำมาผสมผสานจนเกิดเป็นเมนู อาหารที่ร้านจึงมีความหลากหลายทั้งสไตล์และรสชาติ ทำให้ไม่ว่าวัยไหนมากินก็ต้องเจอเมนูที่อยากลอง โดยเมนูห้ามพลาดก็มี เป็ดย่างโอ่งมังกร (320 บาท) จานซิกเนเจอร์ที่ร้านใช้โอ่งมังกรในการอบ ก่อนเสิร์ฟพร้อมซอสพะโล้ ยำหูหมู (220 บาท) ที่ได้ความกรุบกรอบจากหูหมูและเห็ดหูหนูที่เข้ากันกับรสยำ หรืออีกเมนูที่ไม่อยากให้พลาด สตูว์เนื้อซิโน (280 บาท) ใช้เนื้อน่องลายที่ผ่านการตุ๋นจนนุ่ม และฉ่ำด้วยน้ำซอสรสกลมกล่อม
ต่อด้วยเมนูไฮไลท์ DFC ที่ประกอบไปด้วย 3 เมนูของทอดประจำร้าน ได้แก่ แมคนักเป็ด (120 บาท) นักเก็ตเป็ดที่กัดแล้วสัมผัสได้ถึงความกรอบและเนื้อเต็มคำ เป็ดทอดดีเอฟซี (220 บาท) ร้านใช้น่องและสะโพกเป็ดชุบแป้งทอดจนกรอบ เสิร์ฟพร้อมโคสลอว์ม่วง และ มะเขือยาวทอด (120 บาท) ที่เราหยุดกินไม่ได้เลย แล้วอย่าลืมจิ้มกับซอสพริกศรีราชาที่เจ้าของร้านตั้งใจหารสชาติที่แตกต่างมาเสิร์ฟคู่กันด้วย
ส่วนเครื่องดื่ม ที่ร้านจะมีทั้งค็อกเทล ม็อกเทล ไวน์ กาแฟ และชา เมนูแนะนำก็มี น้ำมะยมดอง (120 บาท) สำหรับคนชอบรสชาติเรียกความสดชื่น หรือหากใครอยากลองค็อกเทลรสเข้ม แนะนำให้สั่ง Dry Martini (320 บาท) ผสมด้วยวอดก้าหรือจิน และดรายเวอร์มุธ ซึ่งร้านใส่มะกอกจีนลงไปด้วย ทำให้รสชาติที่ได้แตกต่างจากร้านอื่นที่ใช้มะกอกฝรั่ง หรือใครอยากลองจิบไวน์ดีๆ คู่อาหารมื้อเย็น ก็สามารถสั่งเป็นแก้วได้ ราคาเริ่มต้นที่ 120 บาทเท่านั้น