Blind taste test: บราวนี่เดลิเวอรี่จาก 9 ร้านดัง แล้วร้านไหนจะถูกใจเรามากที่สุด?

เราเชื่อว่าบราวนี่จาก Sarnies ซึ่งเป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหารในย่านเจริญกรุง เป็นบราวนี่เนื้อแน่นที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา A F**cking Good Brownie (140 บาท) มาเป็นชิ้นใหญ่ๆ หนักๆ กัดแล้วเนื้อแน่นได้รสช็อกโกแลตเข้มข้นชัดเจน แถมไม่หวานเกินไป มีรสเค็มจากเกลือตัดนิดๆ และโรยผงโกโก้เพิ่มความเข้มของรสชาติด้านบนอีกที

Time Out พูดว่า: ชิ้นนี้ถูกใจคนชอบรสชาติเข้มๆ แน่นอน ทีมงานหลายคนชอบรสเค็มจากเกลือและความเข้มของโกโก้ด้านบน เพราะทำให้กินแล้วรสชาติน่าสนใจขึ้นมา

สั่งผ่านทาง GET

ร้านอาหารวีแกน Vistro มีบราวนี่ ที่ไร้ส่วนผสมของนมและไข่ ในราคา 90 บาท แต่ไม่น่าเชื่อว่ากินแล้วเนื้อสัมผัสไม่แห้งหรือร่วนอย่างที่เจอตามร้านวีแกนอื่นๆ บราวนี่ชิ้นนี้ใช้โกโก้ยี่ห้อ Valrhona ของฝรั่งเศส และมีส่วนผสมจากถั่วหลายชนิด ซึ่งทำให้บราวนี่มีความกรุบกรอบ และเกาะตัวกันแน่นกำลังดี

Time Out พูดว่า: เนื้อสัมผัสน่าสนใจ และทำให้อยากกินต่อไปเรื่อยๆ

สั่งผ่านทาง Grabfood หรือ Food Panda

ร้านกาแฟยอดนิยมก็เข้าชิงด้วยเหมือนกัน กับบราวนี่เมนู Espresso ChocChip Brownie (85 บาท) ซึ่งให้รสกาแฟค่อนข้างชัดเจน เนื้อค่อนข้างหนึบและเข้มข้น แต่พอกัดเจอชิ้นช็อกโกแลตด้านบนแล้วกลายเป็นว่า ทำให้คำนั้นหวานไปหน่อย

Time Out พูดว่า: รสชาติดีกว่าบราวนี่ทั่วไป

สั่งผ่านทาง Grabfood

นอกจากร้าน Chu จะขึ้นชื่อเรื่องเมนูบรันช์แล้ว ก็ยังมีเมนูขนมอย่าง บราวนี่ ให้เลือกลองกันด้วย โดยเราสั่ง Fudge Chocolate Brownie (75 บาท) กัดไปแล้วสัมผัสได้ถึงความกรอบที่ผิวด้านนอกบางๆ ก่อนเจอเนื้อด้านในที่หนึบแน่น ตามฉบับบราวนี่ที่ดี อีกทั้งได้รสช็อกโกแลตหวานอมขมนิดๆ มีรสเค็มตัดให้รู้สึกรสชาติเข้มขึ้นด้วย

Time Out พูดว่า: บราวนี่ชิ้นนี้ได้ใจทีม Time Out ไปมากที่สุด เพราะมีเนื้อสัมผัสที่แน่นกำลังดี ได้รสหวานอมขมจากช็อกโกแลตที่ชัดเจน

สั่งผ่านทาง Grabfood, Food Panda หรือ รับเองที่หน้าร้านพร้อมส่วนลด 20%

Brainwakes ร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่มีเมนูบราวนี่ ในราคา 55 บาท เนื้อสัมผัสไม่หนึบมาก แต่เกาะตัวกันแน่นกำลังดี ทำให้กัดแล้วเนื้อไม่แตกร่วน แถมได้ความฉ่ำของรสช็อกโกแลตที่เข้มข้น ไม่บางเบา และไม่หวานเกินไปด้วย

Time Out says: กินแล้วอยากกินอีก

สั่งผ่านทาง Grabfood

น่าเสียดายที่ต้องบอกว่า Fudge Brownie (85 บาท) ชิ้นนี้ทำพวกเราผิดหวัง ตั้งแต่เนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างเหมือนเนื้อเค้กมากกว่า ไม่ฟัดจ์เหมือนกับชื่อ แถมรสชาติแม้จะได้รสช็อกโกแลต แต่โดยรวมก็ยังหวานเกินไปมาก

Time Out พูดว่า: บราวนี่ชิ้นนี้เหมาะสั่งกินคู่กับกาแฟสักแก้ว อย่างเช่น อเมริกาโน่

สั่งผ่านทาง Grabfood

Extra Dark Brownie (75 บาท) เมนูบราวนี่จากร้าน Veganerie ที่ไม่มีส่วนผสมของนม เนย หรือไข่ จึงให้เนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างแห้ง ร่วนทราย และรสชาติไม่เข้มข้นมากนัก แต่หากคิดว่าเป็นขนมวีแกนเพื่อสุขภาพแล้วก็ทำให้เข้าใจได้

Time Out พูดว่า: เราว่าเป็นรสชาติค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม สายขนมอาจไม่โดนใจนัก

สั่งผ่านทาง Grab, GET, Food Panda หรือ Line Man

ร้านขนมชื่อดังที่ห้างฯ ดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเมนูบราวนี่ไม่น้อย ทว่าเมื่อเราได้ชิมแล้ว กลับต้องบอกว่า My Valrhona Brownie (95 บาท) ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้เราได้จริงๆ แม้ร้านจะใช้ส่วนผสมโกโก้จากแบรนด์ดังอย่าง Valrhona แต่เนื้อสัมผัสและรสชาติอื่นๆ กลับไม่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นความหวานที่มากไป หรือเนื้อสัมผัสที่คล้ายเค้กธรรมดาๆ เสียมากกว่า

Time Out พูดว่า: รสชาติที่เหมือนไม่ได้มาจากฝีมือผู้เชี่ยวชาญ

สั่งผ่านทาง Line Man

ร้านช็อกโกแลตสัญชาติเบลเยี่ยม มาพร้อมเมนู Chocolate Fudge Brownie (75 บาท) ที่เนื้อสัมผัสไม่แน่นอย่างชื่อ กัดแล้วรู้สึกเป็นเนื้อเค้กธรรมดามากกว่า แถมรสชาติยังหวานเกินไปมาก ไม่ได้รสช็อกโกแลตอย่างที่ควร เอาเป็นว่าพวกเราเองก็เซอร์ไพรส์กับรสชาตินี้อยู่เหมือนกัน

Time Out พูดว่า: น่าเสียดายที่ชิ้นนี้คือ บราวนี่ที่พวกเราประทับใจน้อยที่สุด

สั่งผ่านทาง GET หรือ Grabfood