11 ร้านติ่มซำที่เด็ดที่สุดในกรุงเทพฯ

ร้านเกี๊ยวไซส์จิ๋วด้านหน้าทางเข้าท่าเรือสี่พระยา ติดกับโรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน มีจุดเด่นขออยู่ที่เกี๊ยวจับจีบสี่มุมเปิดหน้าให้เห็นไส้หมูแน่นๆ ที่มาพร้อมตัวเลือกรสชาติ และท็อปปิ้งเสริมหลายหลายในราคาย่อมเยา ซึ่งเป็นไอเดียของหมู-จุไรรัตน์ พรหมพญากุล อดีตฝ่ายการตลาดของโรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน  เกี๊ยวเฟิงจูมีด้วยกัน 5 รสชาติ ไม่ว่าจะเป็น รสดั้งเดิม รสสามก๊ก (หมู ผัก รากผักชี กระเทียม และพริกไทย) รสเห็ดห้าอย่าง รสหมาล่า และรสแกงฮังเลแห้ง ราคาชิ้นละ 5 บาท ยกเว้นรสเห็ดฯ ที่ 15 บาท ส่วนท็อปปิ้งที่มีให้เลือกมิกซ์แอนด์แมชเพิ่มก็ได้แก่ ชีส (4 บาท) ไข่กุ้ง (4 บาท) ไข่แดงเค็ม (5 บาท) และต้นหอมญี่ปุ่นซอย (3 บาท) ซึ่งถ้าถามเราว่าจับคู่อะไรกับอะไรจะอร่อยที่สุดล่ะก็ เราขอยกให้ หมาล่ากับต้นหอมญี่ปุ่นนะ เพราะรสชาติหมาล่านั้นเผ็ดกำลังดี คนไม่กินเผ็ดก็น่าจะกินได้สบาย พอได้ความฝาดเล็กๆ ของต้นหอมเข้ามาตัดก็รู้สึกว่ามันลงตัวมากๆ แทบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้านเลย

ถ้าหากการไปต่อคิวเพื่อรอเข้าร้านดังอย่าง ตวง ติ่มซำ เป็นอะไรที่คุณเบื่อหน่าย (หรือบางทีคุณอาจจะไปช้าของเลยหมดก่อน) ลองมาชิมติ่มซำร้านใหม่นี้ดูก็ได้ Little Dragon อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสิน แค่ลงจากสถานีแล้วเดินเรียบถนนเจริญกรุงมาทาง TCDC ก็ถึงแล้ว โดยร้านนี้อยู่เลยซอยเจริญกรุง 44 มานิดหน่อย Little Dragon มีติ่มซำให้เลือกทั้งหมด 14 อย่าง สนนราคาอยู่ที่ 40 บาทต่อเมนู เราลองฮะเก๋า, ไข่เค็มจักรพรรดิ,ขนมจีบกุ้งและฟองเต้าหู้ทอด โดยรวมแล้วก็ถือว่าอร่อยใช้ได้ โดยเฉพาะไข่เค็มจักรพรรดิที่เรายกให้เป็นเมนูที่เด่นที่สุดในเซ็ตนี้

3 เพื่อนซี้นักออกแบบภายใน และฟู้ดสไตลิสต์ ลงมือเปิดร้านคาเฟ่ที่มีไฮไลต์เป็นกาแฟต่างๆ และติ่มซำอร่อยๆ โดยมีเมนูแนะนำอย่างซาลาเปาลาวาไส้ครีมคัสตาร์ด และซาลาเปาไส้หมูอันจิ๋ว รวมไปถึงเซ็ตข้าวต้มเสิร์ฟมาพร้อมกับกับข้าว 8 อย่างที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน อีกไฮไลต์ของร้านก็คือการตกแต่งที่ต่อเติมที่นั่งชั้น 2 ด้วยการใช้โครงเหล็ก ใครไม่กลัวความสูงก็ปีนไปถ่ายรูปและกินอาหารร้อนๆ กันบนนั้นได้เลย

ถึงแม้เมืองไทยจะมีคนเชื้อสายจีนอยู่มากมาย แต่ร้านอาหารจีนเปิดใหม่กลับมาน้อยมากจนน่าใจหาย โดยเฉพาอย่างยิ่งร้านอาหารจีนสุดหรูแบบไฟน์ไดนิ่งยิ่งมีน้อยเข้าไปใหญ่ ดังนั้นการเปิดตัวของ Yao Restaurant (ร้านอาหารเย่า) ที่โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ จึงทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ร้านอาหารเย่าตั้งอยู่บนชั้น 32 ของโรงแรมจึงทำให้เห็นวิวของกรุงเทพฯ และแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างกินอาหาร ในส่วนของการตกแต่งนั้นก็ใช้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมเซี่ยงไฮ้ เน้นสีสันที่ดูเย้ายวน และนอกจากนี้ยังใช้ของประดับแบบจีน และรูปปั้นทองเหลืองซึ่งสะท้อนชื่อห้อง "เย่า" ที่แปลว่า "รุ่งเรือง" ในภาษาแมนดารินได้เป็นอย่างดี โดยภายในยังมีห้องส่วนตัวอีก 5 ห้อง (ห้องใหญ่สุดสามารถรองรับได้ถึง 20 คน) อีกด้วย ร้านอาหารเย่ายังเป็นเพียงร้านอาหารจีนไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯ ที่เสิร์ฟอาหารจีนสไตล์เซี่ยงไฮ้ ผสมผสานกับอาหารจีนแบบกวางตุ้ง โดยมื้อกลางวันจะเน้นไปที่ติ่มซำขนาดพอดีคำไม่ว่าจะเป็นฮะเก๋า ขนมจีบ เรื่อยไปจนถึงเซี่ยวหลงเปาที่มีทั้งสไตล์นึ่งแบบดั้งเดิม และแบบทอดซึ่งเป็นสไตล์เซี่ยงไฮ้ที่หากินได้ยาก  ในส่วนของมื้อเย็น เมนูจะมีความหรูหรามากยิ่งขึ้น เริ่มจากแพลตเตอร์ขนมสไตล์จีน (488 บาท) ก่อนจะเริ่มกินอาหารจานหลักไม่ว่าจะเป็นจานง่ายๆ อย่างถั่วแขกผัดเต้าหู้แบบแห้ว (328 บาท) ไปจนถึงจานหรูอย่างกุ้งล็อปสเตอร์ผัดซอสเอ็กซ์โอ และกุ้งแม่น้ำผัดในซอาชาอู่หลง (1,588 บาท) นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนูเส้น ซึ่งเชฟจำโชว์นวดแป้งให้คุณชมถึงที่ ก่อนนำไปปรุุงและเสิร์ฟกับน้ำซอสรสเผ็ด (458 บาท) ส่วนใครที่กินอาหารจีนแล้วกลัวเลี่ยน ก็สามารถจับคู่อาหารกับชา และปิดท้ายด้วยของหวานสไตล์จีนเป็นอันเสร็จพิธี  ถึงแม้ร้านอาหารเย่าจะเสิร์ฟอาหารจานสวย แต่ขอบอ

ห้องอาหารจีนในโรงแรม สวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด จัดบุฟเฟ่ต์ติ่มซำสุดคุ้มในราคาเพียง 790 บาทเท่านั้น แถมยังมีไส้หรูๆ แบบติ่มซำกุ้งผสมกับหมึกปลาหมึกตกแต่งด้วยทอง หรือแม้กระทั่งติ่มซำหอยเชลล์เสิร์ฟกับไข่และรังนกก็ยังมีให้ลองกินเช่นกัน

Hong Bao อยู่ภายใต้การดูแลของ Water Library ซึ่งที่นี่เป็นร้านอาหารจีนที่มีชื่อเสียง และเสิร์ฟอาหารอย่าง เป็ดปักกิ่ง รวมไปถึงติ่มซำที่ใช้วัตถุดิบอย่างดีในการปรุง บอกเลยว่า ถ้ามาต้องไม่พลาดเสี่ยวหลงเปาและซาลาเปาลาวาอย่างเด็ดขาด