[title]
เชฟปูเป้-พนิดา แพถนอม ผู้ซึ่งเคยเป็นเชฟให้กับร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งอย่าง Tables ที่โรงแรม Grand Hyatt Erawan และ L'Atelier de Joël Robuchon Bangkok ได้หันมาเปิดธุรกิจเบอร์เกอร์เมื่อหลายปีมาก่อน จนตอนนี้มีโอกาสเปิดเป็นร้านของตัวเองที่เธอทั้งควบคุมและดูแลทุกอย่างเองอย่างจริงจัง เกิดเป็นร้าน Bad Burger ซึ่งชวนให้เราสงสัยแน่นอนว่าทำไมถึงได้ตั้งชื่อนี้ขึ้นมา?
ร้านแห่งนี้เป็นตึกเล็กๆ ที่เราต้องขึ้นบันไดเพื่อไปเจอกับตัวร้าน การตกแต่งภายในจะดูดิบๆ ให้อารมณ์แบบอินดัสเทรียล และมีความเป็นกันเองของทั้งบรรยากาศร้านและพนักงาน ขอบอกว่าเบอร์เกอร์ของที่นี่อร่อยและคุ้มค่ากับราคา เพราะทางร้านใช้แต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพอย่าง ขนมปังบริออชก็อบใหม่ทุกเช้าจากที่บ้านของเชฟ เนื้อจากออสเตรเลียจะไม่ถูกปรุงก่อนที่จะนำมาย่าง ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ผักดองและซอสบาร์บีคิวก็เป็นแบบโฮมเมดล้วนๆ
เมนูของร้านเต็มไปด้วยพวกฟรายส์และเบอร์เกอร์ที่ตั้งชื่อได้ไม่ธรรมดา รวมไปถึงซี่โครงที่มีให้เลือกหลายขนาด เราขอแนะนำ The Big Boss (399 บาท) เนื้อจากออสเตรเลียที่ปรุงแค่เกลือและพริกไทยเมื่ออยู่บนเตา จับคู่กับชีสและเบคอน ถ้าใครอยากลองซี่โครง ที่ร้านมีโปรโมชั่นเพิ่มเงินแค่ 150 บาท ก็จะได้เนื้อขนาด 1 ส่วน 4 ของซี่โครงราดซอสบาร์บีคิวแสนอร่อยมากินคู่กับเซ็ตเบอร์เกอร์ด้วย
อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เมนูวีแกนของที่ร้าน ซึ่งเราเชื่อว่าถ้ามาร้านเบอร์เกอร์ก็คงไม่มีใครอยากจะมากินอาหารที่ไม่มีเนื้อกันหรอก แต่ที่ร้านเอาใจใส่ทุกเมนูจนเกิดเป็นขนมปังแบบ Gluten-free รวมถึงชีส และมายองเนสแบบวีแกนที่ทางเชฟและน้องชายคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง ที่เราคิดว่าน่าจะถูกใจชาววีแกนแน่นอน