หลังจากพาทุกคนไปตามรอยชิม 10 ร้านรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ ในจังหวัดอยุธยาแล้ว วันนี้เรามีทริปแวะเที่ยว แวะกินอาหารที่อยุธยามาแนะนำกันอีกรอบ เป็นร้านอาหารและคาเฟ่น่าสนใจที่หากใครแวะไปอยุธยาก็น่าดูเป็นตัวเลือกนะ เพราะแต่ละร้านบรรยากาศดี แถมมีเมนูสไตล์เมืองอยุธยาให้สั่งมาลองกันเยอะเลย
5 ร้านน่าสนใจที่เราแวะไปชิมแล้วอยากบอกต่อจะมีที่ไหนบ้าง มาลองดูกัน
1. บ้านป้อมเพชร
‘บ้านป้อมเพชร’ เป็นร้านอาหารไทยสูตรของครอบครัวที่เปิดอยู่ติดริมแม่น้ำในโซนเมืองเก่า ใกล้กับโบราณสถานป้อมเพชร เจ้าของเลยตั้งใจออกแบบร้านโดยใช้อิฐสีส้มตามอิฐมอญของป้อมเพชรเดิม แต่ผสมการออกแบบที่โมเดิร์นลงไปให้ดูทันสมัยขึ้น ซึ่งทุกคนจะต้องเดินผ่านมุมไฮไลต์ตรงนี้แน่นอน
ส่วนร้านอาหารจะอยู่ฝั่งขวามือ มีทั้งโซนริมน้ำและในร่ม เมนูต่างๆ จะเป็นสูตรตกทอดกันในครอบครัว จากรุ่นคุณยายและคุณแม่สู่เจ้าของร้านคนปัจจุบัน โดยเมนูแนะนำของร้าน เช่น ‘กุ้งแม่น้ำ (ตัวละ 470 บาท)’ เสิร์ฟกับน้ำจิ้ม 3 แบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นซิกเนเจอร์ คือ น้ำจิ้มสะเดาน้ำปลาหวาน
‘ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน (ราคาตามขนาด)’ เป็นเมนูที่เราก็อยากแนะนำ เพราะเครื่องแกงรสชาติดี เข้ากับเนื้อปลา ‘ผัดสายบัวปลาทู (180 บาท)’ น่าจะเป็นเมนูทำให้หลายคนคิดถึงวัยเด็ก สามารถมาลองชิมได้ที่นี่ ‘แกงคั่วเนื้อปู (480 บาท)’ ใช้เนื้อปูจากภาคใต้นำมาผสมกับแกงคั่วสูตรของร้าน และสุดท้าย ‘โอวเถ่าก้วย (4 ชิ้น 120 บาท)’ ขนมเผือกนึ่งจากร้านดังย่านพระราม 4 “ร้านขนมเผือกเจ๊อี่” ที่นำมาขายที่นี่ได้เจ้าของร้านบอกว่าเพราะเป็นแม่สามี
บ้านป้อมเพชร เปิดบริการทุกวัน เวลา 10:00 - 20:00 น.
สอบถามโทร 035 242 242
พิกัด: https://g.page/baanpomphet?share
2. The Summer House
คาเฟ่และร้านอาหารสุดชิลในบรรยากาศบ้านริมน้ำ เราชอบตรงที่เหมาะกับการแวะมานั่งจิบกาแฟ แต่ก็มีอาหารหน้าตาน่ากินเสิร์ฟให้ชิมด้วย แถมเมื่อทุกคนมาถึงจะเจอกับตึกเล็กๆ ด้านหน้าก่อน ซึ่งตรงนั้นเป็นโรงคั่วเมล็ดกาแฟและห้องอบขนมของร้านนั่นเอง
ที่นี่เสิร์ฟทั้งอาหารและขนมที่ทวิสต์ให้กินสนุก เมนูแนะนำจากร้าน เช่น เมี่ยงส้มโอแซลม่อนย่าง (250 บาท) ต้มยำกุ้งสปาเก็ตตี้ (370 บาท) สปาเก็ตตี้ครีมเนื้อปู (340 บาท) ก๋วยเตี๋ยวหลอกปู้ปู (285 บาท) และ เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ กาแฟดี ศรีอยุธยา (120 บาท) เป็นกาแฟท็อปด้วยสายไหมด้านบน
ส่วนเมนูกาแฟราคาเริ่มต้น เอสเพรสโซ่ (85 บาท) สามารถเลือกเมล็ดได้ แล้วอย่าลืมสั่งขนมเบเกอรี่มาชิมด้วยนะ แนะนำเมนู ไส้อั่วโรล (95 บาท) เป็นแป้งเพรสทรีอบกรอบพร้อมไส้อั่วด้านใน เข้ากันดีเชียวล่ะ
The Summer House เปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30 - 20:00 น. (ศุกร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ปิด 21:30 น.)
สอบถามโทร 094 224 2223
พิกัด: https://goo.gl/maps/jq53ZFNeBb85mXf18
3. The Wine Ayutthaya
ก่อนจะพูดถึงอาหารเราต้องมาชื่นชมการออกแบบของร้านนี้กันก่อน เพราะที่นี่ออกแบบได้แตกต่างจากร้านทั่วๆ ไปในจังหวัดอยุธยา ไม่หยิบความเก่ามาใช้ และเน้นการดีไซน์โชว์งานสถาปัตยกรรม ด้วยการสร้างร้านทรงกล่องสูงขึ้นจากไม้อัด ทุกด้านเป็นช่องโปร่งแสง และคลุมทั้งหมดด้วยม่านพีวีซีแทน มองเผินๆ ดูเหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งดีเหมือนกัน
ส่วนด้านในก็เป็นไฮไลต์ เพราะบันไดวนทำให้ดูเหมือนเขาวงกต ร้านตั้งใจให้เราใช้เดินขึ้นไปถึงโต๊ะอาหาร แต่ถ้าใครกลัวความสูงล่ะก็ มีโต๊ะด้านล่างให้เช่นกัน
เมนูอาหารของร้านจะเป็นเล่มเดียวกับร้านแกรนด์เจ้าพระญา (อยู่ในที่เดียวกัน) โดยเมนูแนะนำ เช่น กุ้งเผา (3 ตัว 2,100 บาท) ปลาเนื้ออ่อนราดพริกเหลือง (510 บาท) แกงขาวเนื้อ (290 บาท) กุ้งผัดหอมแดง (580 บาท) ยำถั่วพู (190 บาท)
The Wine Ayutthaya เปิดบริการทุกวัน เวลา 11:00 - 20:00 น.
สอบถามโทร 081 942 1666
พิกัด: https://goo.gl/maps/1WDmBgNieYuT9osM7
4. Busaba Cafe & Meal
คาเฟ่ที่ใครมาอยุธยาก็อยากแวะ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการนำของขึ้นชื่อในจังหวัด มานำเสนอใหม่ผ่านรูปแบบของหวานหน้าตาทันสมัย แถมบรรยากาศด้านในยังเต็มไปด้วยงานคราฟต์ งานดีไซน์ต่างๆ ที่มีกลิ่นอายสมัยใหม่ถูกใจวัยรุ่น
ร้านมีทั้งหมด 2 สาขา สำหรับที่นี่จะเน้นเสิร์ฟของหวานและอาหารสไตล์ “อยุธยาฟิวชั่น” ที่กินรองท้องแล้วอิ่ม เช่น โรตีกรอบซอสดิป (95 บาท) สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้งแม่น้ำเผา (690 บาท) หรือใครจะสั่งเมนู “ข้าวราดแกงสไตล์บุษบา (145 - 280 บาท)” เสิร์ฟข้าวและกับข้าวพร้อมซุปก็มีเช่นกัน
ส่วนของหวานที่ห้ามพลาด กรานิตต้าชาไทยทรงเครื่อง (115 บาท) ชาไทยแบบเกล็ดน้ำแข็ง เสิร์ฟพร้อมเฉาก๊วย ไอศกรีมชาไทย และสายไหม แล้วยังมีเซ็ตน้ำชา Tea Pot Set (เริ่มต้น 95 บาท) ให้ลองกันด้วยนะ ใครชอบจิบชาในบรรยากาศสบายๆ ห้ามพลาด แถมมีให้เลือกหลายรสชาติด้วย
Busaba Cafe & Meal เปิดบริการทุกวัน เวลา 9:00 - 19:00 น.
สอบถามโทร 084 026 2657
พิกัด: https://g.page/BusabaCafeMeal?share
5. บ้านฝรั่งคู่
ร้านนี้อาจต้องขับรถออกไปจากเกาะเมืองและลึกลับสักหน่อย เพราะเปิดอยู่ในบ้านส่วนตัวของเชฟเจ้าของร้าน แต่เมื่อมาถึงแล้วทุกคนจะรู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่งที่ล้อมไปด้วยต้นไม้ และของตกแต่งสไตล์แอนทีค
โดยชื่อ บ้านฝรั่งคู่ มีที่มาจากการแสดงรำฝรั่งคู่ของไทยในอดีต เป็นศิลปะไทยที่ได้รับอิทธิพลจากหลายเชื้อชาติ เจ้าของนำมาตั้งเป็นชื่อเพราะเข้ากับอาหารที่ตัวเองทำ ที่นี่จะเป็นทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ในบรรยากาศส่วนตัว เมนูแต่ละวันแต่ละช่วงจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ได้มา หรืออาหารที่เจ้าของอยากทำในช่วงนั้นๆ ซึ่งเมนูส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทย และขนมอบสไตล์ยุโรป
แต่หากใครอยากลองกินอาหารไทยสูตรดั้งเดิมในสไตล์คอร์สเมนู ร้านก็รับทำ private dining ให้นั่งกินในบรรยากาศสวนใต้ร่มเงาไม้ แต่ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น
บ้านฝรั่งคู่ เปิดบริการทุกวัน เวลา 10:00 - 20:00 น.
สอบถามโทร 080 974 4236