แนะนำ 7 ร้านไอศกรีมสำหรับคลายร้อนตลอดซัมเมอร์นี้

Sugar Plump! ชื่อร้านไอศกรีมเล็กๆ ที่เจ้าของ คุณอิงค์ เล่าว่าได้แรงบันดาลใจชื่อร้านมาจากตอนไปดูหนังเรื่อง Grinch แล้วเจ้าตัวการ์ตูนสีเขียวเกิดอุทานคำหนึ่งขึ้นมา ซึ่งคุณอิงค์ได้ยินเป็นคำว่า Sugar Plump แม้หลังจากนั้นจะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่คำนี้ ทว่าความหมายกลับตรงกับสิ่งที่กำลังตั้งใจจะทำ นั่นก็คือ การเปิดร้านไอศกรีมนั่นเอง

คุณอิงค์และคุณแพม ที่จริงแล้วทำงานด้านการออกแบบกันทั้งคู่ แต่ด้วยทั้งสองคนเป็นคู่รักที่ชื่นชอบการกินไอศกรีม จึงคิดอยากเปิดร้านไอศกรีมรสชาติอร่อยๆ แบบพรีเมียมขึ้นมาสักร้าน และอยากให้ทุกคนสามารถมากินได้ทุกวัน ตามคอนเซ็ปต์ Everyday Ice Cream ที่ติดอยู่ด้านหนึ่งของทางเข้า คุณอิงค์และคุณแพมจึงลงมือออกแบบทุกอย่างเอง ตั้งแต่การตกแต่งร้านด้วยสไตล์คอนเทมโพรารี ไปจนถึงรสชาติไอศกรีม ที่มีความหวานน้อย กินแล้วสนุก และกินได้ทุกวัน แถมราคาก็ตั้งใจเริ่มต้นที่ 59 บาทเท่านั้น

รสชาติไอศกรีมแนะนำก็คือ Sugar Plump ไอศกรีมรสเลมอนพาย มีรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม เพิ่มสัมผัสด้วยบัตเตอร์เค้ก อีกรสหนึ่งคือ Cheat Day ไอศกรีมที่มีความหอมมันและสัมผัสจาก salted caramel ผสมอยู่ด้วย เป็นอีกรสที่หลายคนถูกใจและสั่งกันบ่อย คุณอิงค์บอกอีกว่า แม้ที่ร้านจะมีเมนูเครื่องดื่มอยู่บ้าง แต่ก็ยังต้องการโชว์ความเป็นตัวเองเอาไว้ด้วย เครื่องดื่มของที่นี่เลยมีตัวเลือกสามารถทำเมนูโฟลตได้ ให้เราเลือกไอศกรีมรสที่ชอบท็อปลงไปบนเครื่องดื่มได้ทุกเมนู อย่างเช่น Tropical Island แตงโมผสมเสาวรสใส่โซดา จับคู่กับยูสุซอร์เบท์ ใครต้องการความสดชื่นต้องลองเมนูนี้เลย

ไอศกรีมที่โชว์ในตู้จะมีทั้งหมด 9 รส เปลี่ยนรสชาติบ้างตามสัปดาห์หรือตามฤดูกาล โดยคุณอิงค์เล่าว่า ส่วนตัวมีแพทเทิร์นในการออกแบบรสชาติไอศกรีมให้มีครบตั้งแต่รสชาติเบสิกที่ใครๆ ก็ชอบ รสชาติน่าลองไม่เหมือนใคร และรสชาติที่ให้ความเฮลตี้แบบสดชื่น

เรียกว่าเป็นร้านไอศกรีมที่มีความเฟรนด์ลี่กับทุกคนทุกวัยก็คงไม่ผิด อีกอย่างใครอยากยกความอร่อยไปไว้ถึงที่เป็นพิเศษ ลองติดต่อทางร้านดูได้นะ

ถ้วยถังไอติม คาเฟ่ไอศกรีม ปากซอยจุฬาฯ 12 ถนนบรรทัดทอง โดดเด่นด้วยการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในสไตล์จีน ตามความชอบส่วนตัวของเจ้าของร้าน เน้นโทนสีเขียวเข้มตัดกับสีขาวของผนัง และสีน้ำตาลของโต๊ะเก้าอี้ นอกจากจะสบายตาแล้วยังทำให้บรรยากาศในร้านดูอบอุ่นและเป็นกันเองมากขึ้น

เมื่อลูกค้าเปิดประตูเข้ามาในร้าน สิ่งแรกที่สะดุดตาก็คือ ‘ถังไอศกรีมสเตนเลส’ ที่วางเรียงกันอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า ถังพวกนี้ไม่ได้เอามาใช้งานจริงหรอกเพราะฟังก์ชันหลายๆ อย่างไม่ตอบโจทย์กับร้าน แต่เอามาตั้งเป็นกิมมิกน่ารักๆ ของร้าน และยังเป็นการบอกด้วยว่า ‘ไอศกรีม’ คือของดีของร้านนี้

เมนูขายดีเป็นไอศกรีมโฮมเมด มีให้เลือก 3 เซ็ต คือ ‘เซ็ตหมั่นโถวทอด’ (89 บาท) หมั่นโถวทอดกรอบนอกนุ่มใน หั่นครึ่งแล้วตักไอศกรีมวางตรงกลาง หน้าตาคล้ายๆ เบอร์เกอร์ รสชาติหวานๆ มันๆ เข้ากันดี เป็นเมนูที่ขายดีที่สุดในร้าน ‘เช็ตหมั่นโถวนึ่ง’ (79 บาท) เสิร์ฟหมั่นโถวนึ่งอุ่นๆ มาในเข่งไม้และมีกระดาษรองและมีไอศกรีมวางอยู่ข้างๆ และ ‘เซ็ตพุดดิ้งนม’ (79 บาท) เสิร์ฟพุดดิ้งนมนุ่มๆ คู่กับไอศกรีมและท็อปปิ้งตามสั่ง

แต่ละเซ็ตเราสามารถเลือกรสชาติไอศกรีมได้ตามใจชอบ แต่ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านก็คือรสเกาลัด และรสถั่วตัด ส่วนรสอื่นๆ ก็จะเน้นความแปลกใหม่ เช่น นมชมพูถั่วแดง น้ำเต้าหู้งาดำ ชานมไต้หวัน และไมโลโรงเรียน วันไหนอากาศร้อนๆ อยากหาที่นั่งชิล กินไอศกรีมดับร้อน เราแนะนำร้านนี้เลย

มิลก์เชกบาร์น้องใหม่ในตึกเดียวกับร้านล้างฟิล์มชื่อดังอย่าง Fotoclub ปากซอยเจริญกรุง 32 ที่มาในธีมการตกแต่งแบบออสเตรเลียนไดเนอร์ โทนสีแดง-ชมฟูสุดฟรุ้งฟริ้ง เต็มไปด้วยสิ่งของน่ารักๆ ตั้งแต่ชุดโต๊ะเก้าอี้สีชมพูหลายเฉด ไปจนถึงชั้นวางที่อัดแน่นไปด้วยขวดโหลลูกกวาดหลากสีสันและกล่องนมลายการ์ตูน

แถมมิลก์เชกทุกแก้วที่เสิร์ฟก็ได้รับการตกแต่งให้น่ารักสุดๆ อาทิ Jaffa Milkshake ที่ทำจากดาร์กช็อกโกแลต ส้ม และช็อกโกแลตชิป และตกแต่งด้วยบรรดาขนมอบหมุนเวียน อย่าง ซอฟต์คุกกี้  M&M บราวนี่ และเพรทเซล ที่ดูท่าทางจะเหมาะกับคนที่เป็นสายหวานตัวจริง

ไม่ไกลจากวัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส (ที่อาม่าพาไปไหว้ขอพรตอนตรุษจีนนั่นแหละ) มีคาเฟ่ไอศกรีมใหม่เอี่ยมดีงามที่เราอยากชวนให้ทุกไปลองซะเดี๋ยวนี้ แต่รสเด็ดที่เราว่าต้องโดน คือพวกไอศกรีมผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ไม่ว่าจะเป็น รสจินโทนิก รสคาลัวร์ผสมพีนัตบัตเตอร์ และรสรัมเรซิ่น

ร้านไอศกรีมออร์แกนิคที่เหมาะกับอากาศร้อนของเมืองไทยอย่างพอเหมาะพอเจาะ นอกจากจะปลอดสารพิษแล้ว ร้านนี้ยังมีไอศกรีมอร่อยๆ ให้เลอกอีกหลายรส รับรองว่าแวะไปกินกี่ทีก็ไม่น่าเบื่อ

คลายร้อนด้วยไอศครีมซอร์เบต์ผลไม้ไทยของร้านไอศครีมรินทาโร่ โดยที่ร้านมีไอศครีมให้เลือกทั้งหมด 18 รสชาติที่ทำสดใหม่ทุกวัน หวานหอมด้วยผลไม้สดคัดเกรดและน้ำผึ้งแท้โดยปราศจากการแต่งกลิ่นและเจือสีเพิ่มเติม

รสชาติน่าลองช่วงนี้ คือ ไอศกรีมรสมะเขือเทศบิจิน ซึ่งใช้มะเขือเทศสายพันธุ์บิจินญี่ปุ่นที่ปลูกในอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เป็นเจ้าแรกที่เลือกใช้มะเขือเทศมะเขือเทศเกรดพรีเมี่ยม เพราะรสชาติมะเขือเทศมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สีแดงสด กลิ่นหอม ไม่เหม็นเขียว รสชาติหวานมากๆ และปลูกในโรงเรือน

ที่ตั้ง : W District ถนนสุขุมวิท
วัน-เวลา เปิดบริการ : 12.00 - 22.00 น.