คงแย่นะ ถ้าอยู่ๆ วันหนึ่งรู้สึกว่าไม่อยากตื่นไปทำงาน ประสิทธิภาพในการทำงานก็ลดลง ทั้งๆ ที่ เคยรักและสนุกกับงานนี้ แย่ที่สุดก็คืออาการแบบนี้อาจจะเป็นสัญญาณของ 'ภาวะหมดไฟ' หรือ Burnout Syndrome ก็ได้
ในทางกลับกัน ถ้าตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกที่อยากจะไปถึงที่ทำงานเร็วๆ งานอะไรก็ทำออกมาได้ดีหมด รู้สึกรักและสนุกกับงานที่ตัวเองทำ ชีวิตการทำงานก็คงจะดีไม่น้อยเลย และเพื่อให้พนักงานได้มีชีวิตการทำงานดีๆ จะได้มีแรงกายแรงใจในการทำงานที่มีประสิทธิภาพ หลายบริษัทจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรในหลายๆ ด้าน หนึ่งในนั้นคือสำนักงานที่เผลอๆ พนักงานหลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในนั้นมากกว่าอยู่ที่บ้านเสียอีก
วันนี้เราจะพาไปเยือน 3 ออฟฟิศ เปิดใหม่ที่ถูกออกแบบมาอย่างสวยหรูผิดหูผิดตาจากออฟฟิศเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย ถ้าเลื่อนลงไปดูรูปข้างล่างโดยไม่ได้อ่านข้อความ เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้แน่ๆ ว่าตัวเองกำลังนั่งดูรูปออฟฟิศอยู่
Chia Tai (เจียไต๋)
เป็นเวลากว่า 1 ศตวรรษที่บริษัท เจียไต๋ จำกัด ดำเนินธุรกิจในห้องแถวเล็ก ๆ บนถนนทรงสวัสดิ์ ย่านเยาวราช ก่อนที่กิจการจะเติบโตจนพื้นที่เก่าไม่เพียงพอที่จะรองรับพนักงาน ผู้บริหารจึงตัดสินใจพาพนักงานย้ายมาอยู่ที่ย่านบางจาก ในบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ทันสมัยขึ้น และเป็นออฟฟิศที่น่าทำงานที่สุดอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
บ้านหลังใหม่นี้เน้นการออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยเพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หน้าตาภายนอกมีความโมเดิร์น ร่วมสมัย และเรียบง่าย มีพื้นที่สีเขียวด้านหน้าอาคาร ใช้ปลูกพืชผักและดอกไม้ตามฤดูกาล เช่น ข้าว ผักสวนครัว สมกับที่เป็นธุรกิจด้านการเกษตร
ภายในออกแบบด้วยแนวคิด “Growing as One – เติบโตไปด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว” สะท้อนค่านิยมองค์กรที่ปลูกฝังให้ทุกคนทำงานร่วมกันเป็นทีมที่เรียกว่า One Chia Tai แทบทุกชั้นจะมี Co-Working Space ที่ตกแต่งอย่างสวยหรู ดูดี น่านั่งทำงาน ทำให้พนักงานต่างแผนกก็สามารถมาทำงานร่วมกัน มาทำความรู้จักกันได้ และจะมีบันไดกลางเชื่อมพื้นที่ในแต่ละชั้น ให้พนักงานเดินขึ้นลงได้โดยไม่ต้องใช้ลิฟต์ ทั้งสะดวก ประหยัดพลังงาน และได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย
นอกจากพื้นที่ทำงานแล้ว ยังมีพื้นที่ให้พนักงานได้ผ่อนคลาย เป็นการสร้าง Work – Life Balance ให้พนักงานมีความสุขและสนุกกับการทำงานในทุก ๆ วัน เช่น ห้อง Golf Simulator, ห้องออกกำลังกาย ที่มีเครื่องออกกำลังกายครบไม่ต่างจากยิม มีโค้ชประจำ และมีคลาสออกกำลังกาย เช่น คลาสโยคะ หรือเต้นซุมบ้า รวมทั้งมีห้องสมุด ห้องอาหาร และพื้นที่ Kid Room รองรับลูกหลานของพนักงานอีกด้วย
GET
ออฟฟิศของแอพลิเคชันสั่งอาหารและส่งของเจ้าใหม่ตั้งอยู่บนชั้น 19-21 ของอาคาร Chartered Square ย่านสาทร ออกแบบในแนว Street Smart ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถนนในกรุงเทพฯ ที่เป็นหัวใจหลักของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการจำลองลวดลายบนพื้นที่ถนนอย่างทางม้าลาย เส้นห้ามหยุดรถ เส้นแบ่งช่องทางเดินรถ หมวกกันน็อก เสื้อวิน และมอเตอร์ไซค์
แม้แต่โทนสีหลักที่ใช้ ซึ่งเป็นสีหลักของแบรนด์ ก็มีความเชื่อมโยงกับท้องถนนด้วย โดย สีเหลือง Safety Yellow เป็นสีที่สามารถสะท้อนแสงได้ดีเวลากลางคืน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ให้คนขับของ GET และสีเทา Street Grey ก็มาจากสีของพื้นถนนคอนกรีต
ความโดดเด่นของออฟฟิศแห่งนี้ คือการเป็น Flexible Workspace พนักงานสามารถนั่งทำงานได้ทุกมุมของออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นมุมโซฟา นั่งดูวิวเมือง หรือนั่งทำงานที่ canteen และมีห้องประชุม 8 ห้อง ที่สามารถต่อจอแบบไร้สายด้วยระบบ Zoom แต่ถ้าใครที่ต้องการคุยกันในบรรยากาศที่เป็นกันเองมากขึ้น ก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลาง และมุมโซฟาต่าง ๆ ได้
และแน่นอนว่าพนักงานจำนวนมากยังเคยชินและต้องการมีโต๊ะทำงานของตัวอยู่ GET จึงมีพื้นที่ทำงานส่วนตัวให้กับพนักงานทุกคน และเพิ่มพื้นที่เงียบ หรือ Quiet Corner สำหรับคนที่ต้องการทำงานที่ใช้สมาธิมาก และจัดห้องสำหรับคุยโทรศัพท์แยกต่างหากให้คนที่ต้องประชุมทางโทรศัพท์และไม่อยากรบกวนคนอื่น
ถ้าต้องการผ่อนคลายระหว่างการทำงานหรือหลังเลิกงาน ที่ GET ก็มีทั้งโต๊ะปิงปอง ห้องเกม และห้องนอน ที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช้เมื่อไรก็ได้ เพราะบริษัทฯ เข้าใจดีว่าการ Work & Play โดยไม่เครียดมากเกินไป จะช่วยผลักดันความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจในการทำงานได้ดีกว่า
Diageo Moët Hennessy (Thailand)
ออฟฟิศแห่งใหม่ของบริษัทนำเข้าจะจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชื่อดังตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,331 ตารางเมตร ในตึกออฟฟิศของสามย่านมิตรทาวน์ ออกแบบโดยให้ความสำคัญกับการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างพนักงานในบริษัทรวมถึงผู้มาเยือน ตามแนวคิดแบบ Dynamic Living Space
พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือ โซนออฟฟิศ ในสไตล์ Open Plan ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนรวมมากกว่าพื้นที่ส่วนตัว โดยที่ทำงานของแต่ละคนจะเป็น Hot Desk เปลี่ยนไปในแต่ละวัน สามารถนำโน้ตบุ๊กมาต่อกับจอมอนิเตอร์ได้ ตอบโจทย์การทำงานสมัยใหม่ และถ้าใครต้องการพื้นที่ส่วนตัวก็สามารถใช้พื้นที่ในห้องโทรศัพท์ที่จัดสรรไว้ได้
อีกหนึ่งโซนคือ โซน co-working space ขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ให้ทำงานและประชุมงานได้ตามสะดวก ตามแนวคิด Dynamic Living Space เน้นสร้างประสบการณ์ ออกแบบพื้นที่ให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ มีความยืดหยุ่น มีการผสมผสานระหว่างพื้นที่ทำงานกับพื้นที่นั่งเล่นเข้าด้วยกัน เพื่อให้พนักงานได้ทุ่มเทกับงานในบรรยากาศที่ผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้านหรือคาเฟ่
ไฮไลต์ของออฟฟิศนี้อยู่ที่ "สวัสดีบาร์" บาร์ขนาดใหญ่กลางออฟฟิศ ที่ในวันธรรมดาทุกคนสามารถใช้พื้นที่นี้เพื่อทำงานหรือคุยงานกันได้ ส่วนทุกวันศุกร์เย็นบาร์นี้ก็จะกลายเป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์ของพนักงานที่สามารถพาเพื่อนๆ ครอบครัว ลูกค้า หรือซัปพลายเออร์มาร่วมสังสรรค์กันได้ โดยมีบาร์เทนเดอร์มืออาชีพจากเวที DIAGEO Reserve World Class มารังสรรค์เครื่องดื่มหลากสไตล์ให้ถึงที่ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทและนำไปเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสิ่งใหม่ๆ