เช็กอิน Pippa รูฟท็อปบรรยากาศดีที่พัทยาอีกครั้งกับความใหม่ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น

เมื่อพูดถึงรูฟท็อปที่พัทยา Pippa (พิปป้า) จะเป็นร้านแรกๆ ที่เรานึกถึงเสมอ ไม่ว่าจะด้วยรสชาติอาหาร เครื่องดื่ม บริการชั้นดีและโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิวอ่าวพัทยาแบบพาโนรามาตอนพระอาทิตย์ตกที่ Sunset Bar

สำหรับคนที่ยังไม่เคยไป พิปป้าคือร้านอาหารและบาร์บนชั้น 19 ของโรงแรมมิตร์บีช พัทยา โซนพัทยาเหนือ สามารถมองเห็นวิวอ่าวพัทยาและวิวตัวเมืองได้แบบพาโนรามา ร้านแบ่งพื้นที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มเป็น 3 โซน มีทั้งโซนที่เหมาะกับการดินเนอร์เงียบๆ ชมวิวสวยๆ เน้นความเป็นส่วนตัว โซนกินดื่ม ฟังดนตรีสดจอยๆ และโซนสำหรับปาร์ตี้ครื้นเครงทั้งคืน

ไม่นานมานี้เรามีโอกาสกลับไปเยือนพิปป้าอีกครั้งหลังการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวและรอบนี้ทางร้านก็ได้ปรับปรุงหลายๆ อย่าง เราเลยอยากมาอัปเดตเผื่อใครกำลังหาร้านรูฟท็อปนั่งดูพระอาทิตย์ตกสวยๆ แถวพัทยา

เริ่มที่โซน Pippa House เป็นโซนกินดื่มที่มีดนตรีสด ตกแต่งให้มีกลิ่นอายป่าเขา ประดับด้วยพรรณไม้และหุ่นสัตว์จำลอง เสิร์ฟอาหารสไตล์เอเชี่ยน ทวิสต์ คือคงรสชาติของอาหารเอเชียดั้งเดิมเอาไว้แต่ผสานให้เข้ากับสไตล์ของยุโรป ปรุงจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีทั้งเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย ล็อบสเตอร์ภูเก็ต สแกลล็อป หอยนางรมฝรั่งเศส ปลาแซลมอน อูนิ

ไฮไลต์ของ Pippa House สเต็กเนื้อส่วนต่างๆ  นำเข้าจากออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็น ทีโบน เท็นเดอร์ลอย ริบอาย ที่ไม่ควรพลาดคือ Tomahawk Steak เป็นเนื้อสเต็กตัดจากซี่โครงท่อนที่ 4 ของวัว Australian Black Angus Beef Grain ที่เลี้ยงในคอกปิด 170 วัน จนได้เนื้อสีสวยและมีไลน์ไขมันแทรกเป็นริ้วๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำราดสูตรเฉพาะของร้านและผักเคียง

อาหารและเครื่องดื่มยังคงรักษามาตรฐานเดิมได้ดีแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปของโซนนี้คือเรื่องของเพลงและเครื่องดื่มซึ่งเมื่อก่อนจะมาจากความชอบของเจ้าของร้านเป็นหลักแต่ตอนนี้ถูกปรับตามฟีดแบ็กที่ได้รับจากลูกค้าทำให้เข้าถึงง่ายขึ้นแต่ยังคงเอกลักษณ์ของร้านอยู่ โดย Pippa House จะมีวงดนตรีสดทุกวันศุกร์และเสาร์ตั้งแต่สองทุ่มถึงเที่ยงคืน เล่นเพลงไทย-สากล ยุค 80’s 90’s

ถัดมาคือ Pippa Sunset เมื่อก่อนเป็นรูฟท็อปบาร์ 2 ชั้น เน้นบรรยากาศเอาต์ดอร์ รับลมทะเล 360 องศา บรรยากาศดีสุดๆ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นห้องอาหารที่เหมาะกับการดินเนอร์แบบเน้นความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพิ่มโซนห้องแอร์มากขึ้นทั้ง 2 ชั้น แต่ก็ยังมีพื้นที่ระเบียงให้ออกไปรับลมธรรมชาติหรือนั่งดูพระอาทิตย์ตกได้อยู่ ช่วงหกโมงเย็นจะมีเปียโนเล่นสดและต่อด้วยนักร้องเดี่ยวดีดกีต้าร์ร้องเพลงสากลชิลๆ ให้ฟัง เป็นโซนที่มีการปรับเปลี่ยนเยอะที่สุด ส่วนอีกโซนคือ Red Paradise เป็นโซนบาร์ที่เหมาะสำหรับสายแฮงเอาต์ที่อยากจัดปาร์ตี้แบบส่วนตัวกับเพื่อนๆ รองรับได้ประมาณ 10-30 คน จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลาประมาณสี่โมงเย็นจนถึงราวเที่ยงคืน