[title]
เมื่อไม่นานมานี้แวดวงธุรกิจมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ นั่นคือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ ‘บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)’ หรือ โออาร์ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหน่วยธุรกิจในกลุ่ม ปตท. ก่อนจะถูกแยกออกมาหลังจากกลุ่ม ปตท. ปรับโครงสร้างองค์กรไปเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
โออาร์ ถูกวางให้เป็นบริษัทเรือธง (Flagship) ของกลุ่ม ปตท. ด้านการดำเนินธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีวิสัยทัศน์ในการเป็นแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ
![เปิดตัวโออาร์](https://media.timeout.com/images/105549287/image.jpg)
![](https://media.timeout.com/images/105549285/image.jpg)
ธุรกิจหลักของโออาร์ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ในกลุ่มนี้ก็จะมีธุรกิจที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง สถานีบริการน้ำมัน PTT Station, ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบรนด์ PTT Lubricants ต่อมาคือกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-Oil) ก็จะมี Café Amazon, ร้าน Jiffy ชานมไข่มุก Pearly Tea, Texas Chicken, ฮั่วเซ่งฮง ติ่มซำ ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto และบัตร PTT Blue Card
ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ เป็นการนำรูปแบบทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในประเทศทั้ง PTT Station, ร้าน Café Amazon, ร้าน Jiffy และ ศูนย์ FIT Auto ไปต่อยอดโดยปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะกับผู้บริโภคในแต่ละประเทศทั้ง ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเมียนมา สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และโอมาน
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของโออาร์จะนำความต้องการของลูกค้ามาเป็นศูนย์กลาง (Customer Focus) และใช้แนวคิด โซเชียล อินคลูซีฟเนส (Social Inclusiveness) เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มโดยเฉพาะสังคมชุมชนและเอสเอ็มอีไทย นก่ยนหมดเลยอน เพราะใน มมอเพียง ไม่ขาดแคลนได้มีส่วนร่วมในการออกแบบรูปแบบธุรกิจ รวมถึงได้ส่งมอบธุรกิจให้เอสเอ็มอีได้เป็นเจ้าของ แล้วกว่า 3,800 ราย โออาร์ และต่อจากนี้โออาร์ก็จะเติบโตร่วมกับสังคมชุมชนไทยและเอสเอ็มอีไทย พร้อมนำเอสเอ็มอีไทยสร้างการเติบโตร่วมกันในเวทีโลกเพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลกที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ