[title]
ภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่เปิดรับนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประเทศได้อย่างมหาศาลในช่วงเวลาปกติ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรู้จักภูเก็ตในฐานะเกาะที่มีชายหาดและสถานที่เที่ยวทางทะเลที่สวยงามระดับโลก ทว่าแท้จริงแล้วภูเก็ตยังมีมุมอื่นที่น่าสนใจอีกมาก และทุกคนไม่จำเป็นต้องเที่ยวติดริมชายหาดเสมอไป

สิ่งที่เราสัมผัสได้ว่าทำให้ ภูเก็ต มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร อย่างแรกคือเรื่องวัฒนธรรมเปอรานากันที่ผสมผสานกันทั้งไทย จีน และมลายู ซึ่งมีให้เห็นกันชัดๆ ตั้งแต่วิถีชีวิต อาหาร ภาษา รวมถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมอันมีเอกลักษณ์ ที่ชาวภูเก็ตร่วมมือกันเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี และเราเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ เช่น ‘หง่อก่ากี่ หรือ หงอคาขี่’ ช่องทางเดินหน้าบ้านตึกแถวแต่ละหลังที่ตั้งใจทำไว้เพื่อให้ทุกคนสามารถเดินสัญจรหากันได้แบบไม่ต้องตากแดดตากฝน ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเอื้อเฟื้อต่อกันของชาวภูเก็ตได้อย่างชัดเจน

ส่วนเรื่องอาหารการกิน ภูเก็ตก็ไม่ได้มีแต่อาหารทะเลหรือแกงใต้รสจัดอีกเช่นกัน ถ้าใครอยากสัมผัสวัฒนธรรมอาหารเมืองถลาง (ชื่อเดิมของจังหวัดภูเก็ต) เราแนะนำให้ลองแวะร้านท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารและขนมพื้นเมืองให้ชิมแบบครบชุด โดยเฉพาะ ‘โอ้เอ๋ว’ เมนูคลายร้อนของชาวภูเก็ต เป็นวุ้นใสๆ ทำมาจากเมล็ดโอ๊ะเอ๋วผสมเมือกกล้วย กินกับน้ำแข็งและน้ำเชื่อม


แต่เมนูที่เราอยากให้ทุกคนลองตามหากินให้ได้ก็คือ ‘ขนมพริกไทย’ เป็นคุกกี้แผ่นแบนกรอบ มีรสชาติเผ็ดนิดๆ และมีลายเป็นเส้นวนที่ประณีต ชาวภูเก็ตนิยมกินเป็นของว่าง หากอยากลองกินแบบครบชุดก็สามารถตามหาชุดขนมยามบ่าย ที่จัดขนมเมืองใต้สไตล์ภูเก็ตมาให้กินจนอิ่ม


อีกเทศกาลทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นเรียกว่าแทบจะที่สุดของชาวภูเก็ตที่นี่ ก็คือ ‘เทศกาลถือศีลกินผัก’ ที่จัดขึ้นทั่วเมืองภูเก็ต ประวัติของเทศกาลถือศีลกินผักนี้ เล่าต่อๆ กันมาว่าเริ่มจากการถือศีลงดเนื้อสัตว์ของนักแสดงงิ้วจากเมืองจีนเพื่อแก้เคล็ดโรคระบาด ก่อนจะแพร่หลายกลายเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฏิทินการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปัจจุบัน โดยศาลเจ้าที่คณะงิ้วเริ่มเข้ามาอาศัยอยู่ที่ศาลเจ้ากระทู้ หรือ อ๊ามกระทู้ ในภาษาท้องถิ่น หนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะ
โดยภาพจำของเทศกาลนี้ที่เราอาจจะคุ้นเคยกัน ก็คือภาพของขบวนแห่ขนาดใหญ่ ที่มีคนทรง (เรียกว่า ม้าทรง ในภาษาท้องถิ่น) มีเหล็กแหลมแทงทะลุกระพุ้งแก้ม และบริวารเดินแห่ไปทั่วทั้งเมืองตลอดเทศกาล ในขณะที่แต่ละ อ๊ามจะมีพิธีกรรมของตัวเองด้วย ส่วนผู้ที่มีความเชื่อก็จะเดินทางไปกราบไหว้อ๊ามต่างๆ ในช่วงเทศกาลนี้เพื่อความเป็นศิริมงคล โดยแต่ละแห่งจะขึ้นชื่อเรื่องที่กราบไหว้ขอพรต่างกันไป

อาคารที่คณะงิ้วจากประเทศจีนเคยอาศัยอยู่ สามารถเยี่ยมชมได้ที่อ๊ามกระทู้

เสน่ห์อันน่าค้นหาของเมืองภูเก็ตเหล่านี้ที่เรายังเล่าให้ฟังไม่หมด คงจะดีไม่น้อยเลยถ้ามีหลายคนเริ่มสนใจและอยากรู้จักเมืองนี้มากขึ้น จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ในปีหน้า จังหวัดภูเก็ต จะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน TBEX Asia 2021 (Travel Blogger Exchange 2021) ที่รวมทั้งนักเดินทางและบล็อกเกอร์จากทั่วทุกแห่งให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยมีจังหวัดภูเก็ตเป็นหมุดหมายหลัก และเน้นให้นักเดินทางสัมผัสวัฒนธรรมผ่านชุมชนหรือคนท้องถิ่น


การได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อปี 2558 ซึ่งกรุงเทพฯ เป็นเมืองเจ้าภาพ ในครั้งนี้องค์กร สสปน. หรือ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) และ ททท. หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TAT) ได้ร่วมมือกันผลักดันภูเก็ตด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า Diversity of South รวมความหลากหลายทั้งด้านศิลปะ อาหาร วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ ให้ทุกคนเดินทางมาสัมผัสได้ตามสถานที่ที่แนะนำ


แต่นับว่าเป็นโชคดีของพวกเราที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันงาน เพราะทุกคนสามารถเดินทางเที่ยวในประเทศกันได้แล้ว ไม่ว่าจะด้วยรถยนต์หรือเครื่องบิน ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาโลเคชั่นใหม่ในการเดินทาง เราเชื่อว่าเมืองภูเก็ตจะไม่ทำให้หลายคนผิดหวังแน่นอน
และสำหรับใครที่อยากเที่ยวกลางคืนแบบชิลๆ เราก็มี 5 บาร์บรรยากาศดีในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ให้ตามไปฮอปปิงกันได้อีกด้วย