[title]
สาวกพิซซ่าที่มีโอกาสได้ไปเยือนอเมริกาบ่อยๆ ย่อมติดใจในรสชาติที่โดดเด่นของพิซซ่าเตาฟืนแห่งร้าน Roberta’s แต่วันนี้ไม่ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงอีกซีกโลก เพราะสาขาแรกในไทยเปิดให้บริการแล้วที่ชั้น 3 Flavor Lab สยามดิสคัฟเวอรี่
![Roberta's Pizza](https://media.timeout.com/images/106123413/image.jpg)
Roberta’s เปิดตัวครั้งแรกในช่วงฤดูหนาว ปี 2007 ณ โกดังเก่าย่านบรู๊กลิน นครนิวยอร์ก ที่ไม่มีทั้งระบบความร้อน แก๊ส และไฟฟ้าใดๆ เลย ช่วงสองปีแรกของร้านพิซซ่าแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยความท้าทายมากมาย แต่เอกลักษณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่าเตาฟืนสไตล์เนเปิลส์แท้ๆ อัดแน่นด้วยวัตถุดิบโฮมเมดคุณภาพดี บวกกับบรรยากาศที่มีความฮิปสเตอร์ ก็พาร้านให้ก้าวไปสู่ความนิยมอย่างล้นหลามจนสามารถขยายสาขาไปได้กว่า 10 แห่ง ทั้งในอเมริกาอย่างลอสแอนเจลิส แนชวิลล์ และไมอามี่ อีกทั้งข้ามมายังฝั่งเอเชีย โดยเริ่มที่สิงคโปร์และล่าสุดในประเทศไทยที่กรุงเทพฯ นอกจากนั้นในเดือนเมษายนนี้เอง ร้านอาหารในเครือ Roberta’s ยังติดลิสต์ 100 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในนิวยอร์กซิตี้ประจำปี 2024 โดย New York Times ถึง 2 ร้าน ได้แก่ Roberta’s BLANCA ในอันดับที่ 2 และ Roberta’s Foul Witch ในอันดับที่ 53
![Roberta's Pizza](https://media.timeout.com/images/106123403/image.jpg)
ธรรมเนียมปฏิบัติทุกครั้งที่มีการเปิดสาขาใหม่ของ Roberta’s หนึ่งในผู้ก่อตั้งร้านและหัวหน้าเชฟอย่าง Carlo Mirarchi (คาร์โล มิราร์ชิ) จะเดินทางไปร่วมเปิดตัว ดูแลความเรียบร้อยของครัวในช่วงเริ่มต้น พร้อมพบปะลูกค้าของร้านแห่งใหม่เสมอ ที่กรุงเทพฯ ก็เช่นเดียวกัน เราเองก็มีโอกาสได้พูดคุยกับเชฟในวันที่ไปเยือนร้านที่สยามดิสคัฟเวอรี่เพื่อลิ้มลองอาหารเป็นครั้งแรกด้วย
![Roberta's Pizza](https://media.timeout.com/images/106123405/image.jpg)
“ที่นี่เป็นศูนย์การค้าที่มีชีวิตชีวาและมีกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา และมุมหนึ่งของร้านสามารถมองออกไปเห็นวิวเมืองได้ ผมเลยเลือกที่นี่เพราะเป็นโลเคชั่นที่ดี” คาร์โลเล่าถึงเหตุผลในการเปิดสาขาแรกของ Roberta’s ที่สยามดิสคัฟเวอรี่
![Roberta's Pizza](https://media.timeout.com/images/106123407/image.jpg)
คาร์โลสนใจและเรียนรู้การทำอาหารด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก จนปัจจุบันเป็นเชฟเจ้าของสองดาวมิชลินและมีฝีมือเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง เมื่อถามถึงเคล็ดลับความสำเร็จในการบริหารร้าน Roberta’s ที่เป็นที่รักของคนทุกกลุ่ม แม้กระทั่งคนดังอย่างบียอนเซ่ เจย์-ซี รวมถึงบิลและฮิลลารี คลินตันก็ยังติดใจ เขาตอบว่าหัวใจสำคัญอยู่ที่ ‘เมนูที่หลากหลาย’
“เราเป็นร้านพิซซ่าที่เสิร์ฟมากกว่าพิซซ่า เรามีพาสต้า ขนมปัง ชาร์กูเตอรี และอื่นๆ อีกมากมายให้ลูกค้าได้เลือกชิมด้วย นอกจากนี้เวลาไปเปิดสาขาใหม่ตามเมืองต่างๆ เราก็จะพยายามใช้วัตถุดิบ เทคนิคการทำอาหาร และรสชาติของท้องถิ่นนั้นๆ ผสมผสานลงไปในเมนูของร้านด้วย อย่างสาขาในไทย เราก็ใช้ทั้งผลไม้ เนื้อสัตว์ และสมุนไพรไทยมาประยุกต์ใช้”
แม้จะผสมผสานความเป็นไทยเข้าไปในเมนูต่างๆ ผ่านวัตถุดิบท้องถิ่น แต่รับรองได้ว่าพิซซ่ายังคงต้นตำรับดั้งเดิมอย่างแน่นอน เพราะ starter หรือยีสต์หัวเชื้อที่ใช้ทำแป้งพิซซ่านั้นเป็นตัวเดียวกันกับที่ใช้ในสาขาแรกที่บรู๊กลินเลย อบแบบสดใหม่หอมกรุ่นจากเตาฟืนจนได้พิซซ่าที่มีความบางนุ่ม ขอบมีความกรอบเกรียมนิดๆ เคี้ยวกรุบกำลังดี ส่วนรสชาติเราได้ลองชิม 3 แบบ ได้แก่ ‘Margherita’ หน้าพิซซ่าคลาสสิก ‘Bee Sting’ ที่ได้ความเผ็ดร้อนจากตัวไส้กรอกตัดด้วยรสชาติหอมหวานของน้ำผึ้งได้อย่างกลมกล่อม และหน้าสุดท้าย ‘King Thao Kong’ ซึ่งตั้งชื่อตาม Thao เจ้าของฟาร์มปลูกผักเชื้อสายม้งในลอสแอนเจลิส ที่ส่งวัตถุดิบต่างๆ ให้แก่ร้าน Roberta’s โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมและรสชาติของผักและสมุนไพร ที่โรยด้วยชีสบางๆ เคล็ดลับการกินให้อร่อยของเชฟคาร์โลก็คือเมื่อพิซซ่ามาเสิร์ฟที่โต๊ะแล้ว ต้องรีบกินทันทีในขณะที่ยังร้อนๆ และอย่าลืมใช้มือ ฟินกว่ากันเยอะ!
![Roberta's Pizza](https://media.timeout.com/images/106123410/image.jpg)
อย่างที่เชฟคาร์โลบอกไปว่า Roberta’s ไม่ได้มีแค่พิซซ่า เมนูอื่นๆ ก็มีให้เลือกมากมาย ที่เราได้ลองชิมก็มี ‘House Bread and Butter’ ขนมปังที่ใช้แป้งเดียวกันกับตัวพิซซ่า อบมาแบบกรอบนอกนุ่มใน ผิวด้านนอกมีความเกรียมนิดๆ ได้ลวดลายเป็นจุดคล้ายลายเสือดาว กินคู่กับสเตรเซียเทลล่าชีสผสมกับ Nduja ไส้กรอกหมูผสมพริกแห้งสไตล์อิตาลี วิธีกินคือฉีกขนมปังด้วยมือในขณะที่ยังร้อนๆ แล้วจุ่มลงไปในชีสแบบฉ่ำๆ ให้ติดเนื้อไส้กรอกด้วย จะได้รสชาติเผ็ดนิดๆ ตัดความมันของชีสกำลังดี
![Roberta's Pizza](https://media.timeout.com/images/106123412/image.jpg)
ตามด้วย ‘Mango and Lardo’ มะม่วงหวานๆ กินคู่กับลาร์โด้ เฟนเนล และน้ำมันมะกอกสเปน ‘Rigatoni Carbonara’ คาร์โบนาร่าแบบอิตาลีของแท้ที่ไม่ใส่ครีม มาพร้อมกับกวนชาเล่ (Guanciale) เบค่อนสไตล์อิตาลีที่ทำจากแก้มหมูหมัก ‘Braised Oxtails’ หางวัวตุ๋นนุ่มละลายในปาก ‘Grilled Pork Ribs’ ซี่โครงหมูย่างรสเยี่ยม และ ‘Chicken Tendon and Squid Ink’ ข้อไก่ทอดคลุกซอสหมึกดำที่ผสมสมุนไพร ได้ความเปรี้ยวและกลิ่นหอมสดชื่น
![Roberta's Pizza](https://media.timeout.com/images/106123404/image.jpg)
นอกจากอาหารที่อร่อยแล้ว Roberta’s สาขากรุงเทพฯ ยังโดดเด่นเรื่องการตกแต่งร้านด้วยผลงานสไตล์กราฟฟิตี้และเพ้นติ้งบนผนัง โดยหนึ่งในนั้นเป็นผลงานของสองศิลปินไทยอย่าง Artty Rock และ Anar ที่ผ่านการคัดเลือกจากการสัมภาษณ์ศิลปินไทยมากหน้าหลายตากว่า 100 คน ซึ่งเป็นความตั้งใจของทีมงานร้าน Roberta’s ที่ต้องการสนับสนุนศิลปินท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จัก โดยการให้ร้านเป็นเสมือนเวทีในการสร้างสรรค์และแสดงผลงาน และจะหมุนเวียนนำไปโชว์ที่สาขาลอสแอนเจลิสและนิวยอร์กต่อไปอีกด้วย
สัมผัสรสชาติพิซซ่าอิตาเลียนและอีกหลากหลายเมนูที่ผสานวัตถุดิบไทยได้อย่างลงตัว ท่ามกลางบรรยากาศฮิปสเตอร์แบบบรู๊กลินพร้อมวิวเมืองกรุงเทพฯ ได้แล้ววันนี้ที่ชั้น 3 Flavor Lab สยามดิสคัฟเวอรี่