พรีวิวงานไฟและดิจิทัลอาร์ต Light to Night Singapore 2024

ตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้เป็นต้นไป สิงคโปร์จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะสัปดาห์ศิลปะสิงคโปร์ หรือ Singapore Art Week กำลังจะกลับมาอีกครั้ง และจะจัดยาวๆ ไปถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์โน่นเลย 

หนึ่งในอีเวนต์หลักของ Singapore Art Week ของทุกปีก็คืองานLight to Night เทศกาลไฟและดิจิทัลอาร์ตที่หลากหลายศิลปินจะสร้างสรรค์ประติมากรรมจัดวางและ projection mapping ฉายลงบนตึกอาคารประวัติศาสตร์ จัดแสดงในย่าน Civic District ของสิงคโปร์ — ก็คือฟีลเดียวกับ Awakening Bangkok นั่นเอง

Light to Night 2024 ชวนศิลปินมาร่วมกันในธีม “Reimagine” ใช้ไฟและดิจิทัลอาร์ตเล่าเรื่องราววัฒนธรรมสิงคโปร์และความเป็นเอเชีย กับการดำรงอยู่ในโลกยุคปัจจุบัน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มผลงาน คือ (1) งาน projection mapping ที่ในงานนี้เรียกว่า Art Skins และ (2) งานประติมากรรม

ในส่วนของสถานที่และพื้นที่จัดแสดงนั้น Light to Night 2024 จัดแสดง 14 ผลงาน ณ 4 อาคารหลักในย่าน Civic District ได้แก่

1. National Gallery Singapore

หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์ที่ปรับปรุงมาจากอาคารศาลฏีกาเก่าและศาลาว่าการเก่า อายุกว่าร้อยปี กลายเป็นพื้นที่แสดงศิลปะ ขนาดใหญ่ยักษ์ 64,000 ตารางเมตร

หอศิลป์นี้เป็นแคนวาสของงานหลักชิ้นใหญ่ที่สุดของปีนี้ คือ projection mapping ขนาดยักษ์ 2 งานฉายวนลูปกัน คือ ”Living the Life“ โดย Teo Eng Seng x Milosh Luczynski และ Temple of Love โดย Arahmainmi x Wayang Merdeka x Milosh Luczynski

ส่วนภายในนั้น เพดานใต้โดมของห้องสมุด Rotunda Library เป็นพื้นที่ฉายภาพงาน projection mapping 360 องศาที่ชื่อว่า “Symphony of Order” ที่ได้แรงบันดาลใจจากพฤติกรรมการกินข้าวบนโต๊ะกลมของวัฒนธรรมจีนที่เหมือนมีจังหวะที่มองไม่เห็นควบคุมอยู่  

 

2. The Arts House

ตึกโคโลเนียลอดีตรัฐสภาแห่งชาติสิงคโปร์แห่งแรก ฉายงาน “Winter Sonata, Summer Mookata” ของกลุ่มศิลปิน Knuckles & Notch ที่ได้แรงบันดาลใจชื่อจากร้านหมูกระทะแถวสตูดิโอ

 

3. Asian Civilisations Musuem

พิพิธภัณฑ์อารยธรรมเอเชีย เป็นที่ตั้งของงาน “Passage” ที่น้องๆ นักเรียนจาก SOTA ได้แรงบันดาลใจจากลายจานกระเบื้องแบบจีนดั้งเดิม และงานเกี้ยว “Party Pavilion” ของศิลปิน Howie Kim

 

4. Victoria Theatre & Victoria Concert Hall

โรงละครแห่งแรกของสิงคโปร์ มีงาน “Embroidered Landscapes” โดย SISTRUM พร้อมๆ กับด้านหน้าตึกมีงานที่จำลองโรงงิ้ว อีกหนึ่งวัฒนธรรมที่กำลังสูญหายไปจากสิงคโปร์และเอเชีย

นอกจากนั้น ในและรอบๆ ทั้ง 4 อาคารยังมีประติมากรรมจัดวางและโชว์เคสอีก 8 ผลงาน จัดแสดงไปยาวๆ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 มกราคม ถึง 8 กุมภาพันธ์นี้ ใครยังไม่มีโปรแกรมช่วงนี้ บินจากกรุงเทพฯ มาแป๊ปเดียวเท่านั้น