ข่าว

สรุปไฮไลต์ iPhone 13 ทุกรุ่น ที่พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย เริ่มต้น 25,900 บ. ขายในไทย 8 ต.ค.

Suriyan Panomai
เขียนโดย
Suriyan Panomai
Senior Writer, Time Out Bangkok
iPhone 13 และ iPhone 13 Mini
Apple | iPhone 13 และ iPhone 13 Mini
การโฆษณา

สาวก Apple ได้เวลาอัปเกรดของใหม่กันอีกครั้ง หลังจากแอปเปิลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ใน Apple Event เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฮไลต์ของงานและมีคนรอเป็นเจ้าของมากที่สุดเหมือนทุกครั้งก็คือ iPhone 13 ที่เราได้สรุปข้อมูลสำคัญมาให้แล้ว

ดีไซน์

ภาพรวมของ iPhone 13 ใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกัน 4 รุ่น คือ ได้แก่ iPhone 13, iPhone 13 Mini, iPhone Pro และ iPhone Pro Max มีความแตกต่างจากตระกูล iPhone 12 เล็กน้อย โดยทุกรุ่นยังมาในดีไซน์ขอบแบนเหมือนเดิมและขนาดหน้าจอเดิม

ดีไซน์ที่ต่างจากตระกูล iPhone 12 หลักๆ อยู่ที่กล้อง โดย iPhone 13 และ 13 Mini จัดวางกล้องคู่ด้านหลังจากเดิมที่เป็นแนวตรงมาเป็นแนวทแยง ส่วนชุดกล้องทั้ง 3 ตัวในรุ่น Pro และ Pro Max ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมแต่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามขนาดเซ็นเซอร์ใหม่ และทั้ง 4 รุ่นมีพื้นที่กล้องหน้า (ที่หลายคนเรียกติ่งหน้าจอ) เล็กลง 20% ข้อดีก็คือหน้าจอจะมีพื้นที่แสดงผลมากขึ้น

iPhone 13 และ iPhone 13 Mini
AppleiPhone 13 และ iPhone 13 Mini
iPhone 13  Pro และ iPhone 13 Pro Max
Apple

กล้อง

กล้อง iPhone 13 ทุกรุ่นมาพร้อมเซ็นเซอร์และรูรับแสงที่ใหญ่ขึ้น ช่วยลดนอยซ์ เพิ่มความไวชัตเตอร์ และถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และเป็นครั้งแรกของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ที่กล้องอัลตร้าไวด์มาพร้อมระบบออโต้โฟกัส ซึ่งทำงานในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น 92% ทำให้ภาพสว่างและคมชัดยิ่งขึ้น ส่วนกล้องเทเลโฟโต้ 77 มม. สามารถซูมแบบออปติคัลได้ 3 เท่า และเมื่อรวมทั้งระบบกล้องแล้วทำให้มีช่วงซูมแบบออปติคัลถึง 6 เท่า

iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
Appleกล้อง iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max

นอกจากนี้ กล้องของทั้ง 4 รุ่นยังมีระบบ OIS ที่ช่วยลดความสั่นไหวด้วยการปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์แทนที่จะเป็นเลนส์เพื่อให้ภาพและวิดีโอนิ่งยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เปิดตัวไปใน iPhone 12 Pro Max

ฟีเจอร์น่าสนใจของกล้อง iPhone 13 ใหม่ คือ การถ่ายภาพมาโคร ซึ่งช่วยให้เราเก็บภาพวัตถุได้ใกล้สุด 2 เซนติเมตรแบบคมชัด และ โหมดภาพยนตร์ ที่สามารถเปลี่ยนโฟกัสได้โดยอัตโนมัติในขณะถ่ายวิดีโอและยังสามารถเปลี่ยนโฟกัสได้หลังถ่ายเสร็จ

จอภาพ

iPhone 13 และ 13 Mini จอภาพเป็น Super Retina XDR แบบ OLED ที่แสดงสีดำได้ดำสนิทและมีความสว่างสูงสุดขณะอยู่กลางแจ้งเพิ่มขึ้น 28% ส่วนรุ่น Pro และ Pro Max มีความสว่างกลางแจ้งสูงสุดเพิ่มขึ้น 25% แสดงผลละเอียดขึ้น สีสันและคอนทราสต์คมชัดขึ้น พร้อม ProMotion ที่ตอบสนองคำสั่งนิ้วไวขึ้น

iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
Apple

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ในทุกรุ่นสามารถใช้งานได้นานขึ้นในหนึ่งวันเมื่อเทียบกับตระกูล iPhone 12 ซึ่งเป็นผลจากชิป A15 Bionic แบตเตอรี่ที่ขนาดใหญ่ขึ้น และการจัดสรรพลังงานอย่างลงตัวจากฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

  • iPhone 13 ใช้งานได้นานขึ้นสูงสุด 2.5 ชั่วโมง
  • iPhone 13 mini ใช้งานได้นานขึ้นสูงสุด 1.5 ชั่วโมง
  • iPhone 13 Pro ใช้งานได้นานขึ้นสูงสุด 1.5 ชั่วโมง
  • iPhone 13 Pro Max ใช้งานได้นานขึ้นสูงสุด 2.5 ชั่วโมง

ราคาและการวางจำหน่าย

iPhone 13 และ iPhone 13 mini มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน, มิดไนท์, สตาร์ไลท์, แดง (Product) Red และสีชมพูพาสเทล ความจุเริ่มต้น 128GB

ราคาเริ่มต้น: 

  • iPhone 13 Mini 25,900 บาท
  • iPhone 13 29,900 บาท
iPhone 13  และ iPhone 13 Mini
Apple

iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มีทั้งหมด 4 สี คือ สีกราไฟต์, ทอง, เงิน และสีใหม่ เซียร์ร่าบลู ความจุเริ่มต้น 128GB และเพิ่มความจุ 1TB มาเป็นครั้งแรก

ราคาเริ่มต้น:

  • iPhone 13 Pro 38,900 บาท
  • iPhone 13 Pro Max 42,900 บาท
iPhone 13  Pro และ iPhone 13 Pro Max
Apple

ในไทยจะเปิดให้จอง 1 ตุลาคม 2564 และวางขาย 8 ตุลาคม 2564

บทความล่าสุด
    การโฆษณา