[title]
หลากหลายเวทีการแข่งขันบาร์เทนเดอร์ในประเทศไทย Diageo World Class Thailand คือหนึ่งในเวทีที่ทรงเกียรติ เป็นที่เฝ้ารอ และได้รับการยอมรับมากที่สุด และเป็นลมใต้ปีกคอยช่วยขับเคลื่อนและผลักดันวงการค็อกเทลไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และในการแข่งขันล่าสุดนั้น เอิร์ธ-ภาปุณณ์ บุญรักษาตระกูล บาร์เทนเดอร์แมนเจ้าของ Before Dawn บาร์ค็อกเทลจากย่านนิมมานเหมินทร์ เชียงใหม่ ก็ฝ่าฟันผู้สมัครกว่า 300 คน ขับเคี่ยวจนได้เป็น Diageo World Class Thailand 2023 Winner ซึ่งจะได้สิทธิ์ไปแข่งรอบไฟนอลกับผู้ชนะจากหลากหลายประเทศที่เซาเปาโล บราซิล ในระหว่างวันที่ 23-29 กันยายนที่จะถึงนี้
สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย เวที Diageo World Class Thailand เป็นเวทีระดับประเทศของ Diageo Moet Hennessy ที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นเวทีแข่งขัน แต่ยังอัดแน่นด้วยการเทรนนิ่งให้กับผู้สมัครจากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยผลักดันศักยภาพของแต่ละคนได้อย่างก้าวกระโดด เวทีนี้จัดต่อเนื่องมาหลายปี และแจ้งเกิดบาร์เทนเดอร์ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หนึ่ง-รณภร คณิวิชาภรณ์ แห่ง Manahiyom และ Nuss Bar และ ปาล์ม-ศุภวิชช์ มุททารัตน์ แห่ง Rabbit Hole Group เป็นต้น
Diageo World Class Thailand 2023 ที่ผ่านมานั้นเป็นการกลับมาจัดการแข่งขันเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกหลังโควิด ซึ่งทำให้มีผู้สมัครเข้ารอบกว่า 200 คนเลยทีเดียว ซึ่งต้องผ่านด่านข้อเขียนและสัมภาษณ์ ฝ่าฟันกันจนได้ผู้เข้ารอบ 40 คนสำหรับการแข่งขันรอบรองสุดท้ายที่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ซึ่งจะเป็นการแข่งขัน on-site และหลังจากขับเคี่ยวกันทั้งวัน ก็ได้ผู้เข้ารอบสุดท้าย (Thailand Final) ซึ่งความน่าสนใจในปีนี้คือมีผู้เข้ารอบจากต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจากเชียงใหม่
ผู้เข้ารอบสุดท้าย
- กันตฤทธิ์ ร่วมทองรัตน์ จาก Bar Scofflaws
- โกศิลป์ ขำจา จาก Firefly โรงแรม Sindhorn Kempinski
- ธณัช สุทธิรักษ์ จาก Bitter Truth เชียงใหม่
- ภาปุณณ์ บุญรักษาตระกูล จาก Before Dawn เชียงใหม่
- นภัทร บุญมาเมือง จาก Brit Bar เชียงใหม่
- ดนัยพงศ์ ทองแกมแก้ว จาก Salt Society โรงแรม Centara Reserve Samui
- ธนโชติ โลหะนิมิต จาก Find The Locker Room
- มณฑาทิพย์ ลิลิตสนอง จาก Find The Locker Room
- สุภัคกิติ์ ยวงทอง จาก Soho House
- ณัช ศิริจังสกุล จาก Asia Today
- จักรกฤษ์ พรหมชัยสิทธิ์ จาก Vesper Cocktail Bar
- Ben Jonson Hodges จาก Stella Bar โรงแรม Capella Bangkok
รอบสุดท้ายในวันที่ 3 พฤษภาคมนั้น ผู้สมัครจะต้องแข่งขันกัน 2 รอบ โดยรอบแรกจะมีโจทย์เป็นเครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจาก Ritual – พิธีกรรม โดยเบสด้วย Johnnie Walker Blue Label ส่วนรอบสองนั้นแข่งความเร็วรับออเดอร์จากกรรมการ
และหลังจากลุ้นกันทั้งกรรมการ ทั้งคนทำ ทั้งคนดู ผลปรากฏว่า เอิร์ธ-ภาปุญญ์ ได้เป็นผู้ชนะ Diageo World Class Thailand 2023 Winner ในปีนี้ เป็นผู้ชนะคนแรกที่มาจากจังหวัดที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ กับแก้ว “Herbal Blue Old Fashioned” ที่เอิร์ธ หยิบเอาการปรุงยาของคุณทวดที่เป็นหมอยาสมุนไพรของเขามาเป็นแรงบันดาลใจ เอาสมุนไพรของคุณทวด ซึ่งมี 5 ชนิด แทน 4 ธาตุในร่างกาย คือ ดิน น้ำลม และไฟ และอีก 1 ธาตุนอกร่างกายคือ อากาศ มาผสมกับน้ำผึ้งทำเป็น herbal honey syrup เอาไปผสมกับ Johhnie Walker Blue Label เป็น Old Fashioned ที่มีกลิ่นและรสเฉพาะตัว ส่วนกากสมุนไพรที่เหลือนั้นเขาเอาไปผสมในน้ำตาล Dalgona (แผ่นน้ำตาลใน Squid Game) ใช้แต่งแก้วและเติมรสชาติ
ส่วนบาร์เทนเดอร์ที่ได้อันดับรองลองมาคือ
- 1st Runner Up: กันตฤทธิ์ ร่วมทองรัตน์ จาก Bar Scofflaws กับ “Another Touch of Colour” ที่ได้แรงบันดาลใจจากการได้มาซึ่งสีจากธรรมชาติ และความหมายของสีในเชิงจิตวิทยา
- 2nd Runner Up: Ben Jonson Hodges จาก Stella Bar โรงแรมคาเพลลา กับ “Last Train to London” จากเพลงชื่อเดียวกันในความทรงจำวันเด็กของเบน สู่ค็อกเทลสีแดงที่ชวนให้เขานึกถึงผมสีแดงของนักร้องนำ และเพลงที่ทำให้เขาคิดถึงแม่
- 3rd Runner Up: ดนัยพงศ์ ทองแกมแก้ว ที่มาไกลจาก Salt Society บาร์ริมทะเลจาก Centara Reserve Samui กับ “Rice to Rise” ที่เขาได้แรงบันดาลใจจากพิธีกรรมเกี่ยวกับข้าว อาหารหลักของคนไทย
ตอนนี้เราก็ต้องเอาใจช่วย เอิร์ธ-ภาปุณณ์ ที่กำลังเตรียมตัวไปแข่ง Diageo World Class Global ที่เซาเปาโล บราซิล ในช่วงวันที่ 23-29 กันยายน 2566 ที่จะถึงนี้ และอ่านถึงตรงนี้ใครจะตามไปชิมแก้วต่างๆ และดื่มฝีมือของบาร์เทนเดอร์ทุกคนที่เข้ารอบ เราจะยินดีมาก