[title]
แล้วเทศกาลที่หลายคนรอคอยก็กลับมาอีกครั้ง ในงาน Bangkok Design Week 2022 หรือ เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ที่จะพาทุกคนไปเดินเล่นและสำรวจย่านสร้างสรรค์ต่างๆ ในเมืองหลวง ด้วยการนำชิ้นงานดีไซน์โดยศิลปิน นักออกแบบ และกิจกรรมชุมชน มาร่วมจัดแสดงเป็นโปรแกรมน่าสนใจต่างๆ ให้พวกเราเข้าร่วมและชมได้ใน 5 ย่านหลัก ตลอด 9 วันเต็ม
โดยงานปีนี้ ก็กลับมาพร้อมไอเดียที่ว่า “เพราะเรา ‘ต้องรอด’ ” ทำให้เกิดเป็นธีมงานหลัก Co with Creation (คิด สร้าง ทางรอด) ที่เน้นการออกแบบและไอเดียสร้างสรรค์ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกับโรคระบาด และใช้วิถีชีวิตใหม่ในอนาคตได้อย่างมีสีสันมากขึ้น แล้วนอกจากย่านสร้างสรรค์ที่พวกเราคุ้นเคย #BKKDW2022 ปีนี้ก็มีการขยายสถานที่จัดแสดง ด้วยการเพิ่มย่านใหม่อย่าง ‘พระนคร’ เข้ามาด้วย ทำให้เทศกาลปีนี้มีสถานที่น่าตื่นเต้นอย่าง ‘ห้างนิวเวิลด์’ แห่งย่านบางลำพู และ ‘โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ’ ที่เป็นโรงพิมพ์แห่งแรกในประเทศ มาร่วมงานและเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้
และเพื่อให้เพื่อนๆ ไม่พลาดจุดไฮไลท์สำคัญ Time Out กรุงเทพฯ เลยไปเดินเก็บภาพชิ้นงานบางส่วนมาให้ชมกันแล้ว ส่วนจะมีที่ไหนที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาดบ้าง รีบมาดูกันเลย
เริ่มจากย่านแรก เจริญกรุง-ตลาดน้อย ซึ่งเป็นย่านหลักของทุกปี ถ้าทุกคนเริ่มเดินตั้งแต่หน้าอาคารไปรษณีย์กลาง จะได้เห็นงานชิ้นใหญ่สีแดง ‘SIT/VID/ME − นั่งด้วยกัน’ เป็นผลงานคอมมูนิตี้สเปซที่ให้ทุกคนมาเดินเล่นนั่งเล่นด้วยกันได้แบบน่าสนุก และใกล้ๆ กันจะมีงานที่ทุกคนต้องชอบ ‘CO with Garden’ เป็นเหมือนสวนสาธารณะเล็กๆ ที่เป็นผลงานร่วมกันของ CEA และ Karnel Design เราอยากให้ทุกคนลงไปเดินเล่นบนพื้นนุ่มๆ ที่ปูด้วยเศษไม้ และทำความรู้จักกับพืชหลากหลายพันธุ์ดู ซึ่งชิ้นงานนี้จะรวมถึงตลาดนัดขายสินค้ารอบๆ ด้วย
หลังจากนั้น เชิญพบกับคอมมูนิตี้แห่งใหม่ ‘เจริญกรุง 43’ จะบอกว่าเป็นพื้นที่ลับที่หลายคนยังไม่รู้จักก็น่าจะถูก เพราะซอยนี้จะซ่อนอยู่ด้านหลังคาเฟ่ Madi และร้านจักรยาน Bicycle’s Boy ทุกคนจะเดินทะลุจากร้านมาก็ได้ หรือเลยมาหน่อยจะมีซอยข้างๆ ตึกสีเทา (ซึ่งในอนาคตจะเป็นร้านไฟน์ไดนิ่ง) และเมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับร้านต่างๆ อีกมากมายที่ซ่อนอยู่ อย่างเช่น ร้านขายแผ่นเสียง ร้านเบเกอรี่ ร้านเสื้อผ้า และบาร์นั่งชิล ซึ่งด้านในร้านเหล่านี้จะมีชิ้นงาน #BKKDW2022 จัดแสดงอยู่ด้วย
เริ่มเดินกันต่อ เราจะพาไปที่ศูนยก์การค้า River City Bangkok ซึ่งระหว่างทางจะมีงาน ‘Into the Film by TASSHA’ ในบ้านเลขที่ 1 ให้แฟนหนังได้แวะถ่ายรูปกันด้วย เพราะเป็นนิทรรศการที่นำเสื้อผ้าและโปสเตอร์หนังทั้งในและต่างประเทศมาจัดแสดงให้ชม และเมื่อมาถึงแหล่งรวมนิทรรศการและงานศิลปะ ด้านในริเวอร์ซิตี้ฯ จะมีงานที่จัดขึ้นมาเพื่อ #BKKDW2022 โดยเฉพาะอยู่ 3 ชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ‘Mental-verse − จักวาลใจ’ ของทีม Eyedropper Fill เป็นสารคดีสั้นเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าที่ทำขึ้นมาเพื่อให้คนที่อยากเข้าใจ หรือรู้วิธีรับมือกับผู้ป่วยโรคนี้ได้ทำความเข้าใจคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น
และหากใครอยากเข้าชม ทีมงานก็มีคำแนะนำหรือตัวอย่างให้ดูก่อนด้านหน้า ถ้าใครติดว่าตัวเองไม่พร้อมหรืออ่อนไหวง่าย ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าชมก็ได้ไม่ว่ากัน
ย่านต่อมาที่เราจะพาไปเดินเล่นก็คือ พระนคร เป็นย่านใหม่ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้เป็นครั้งแรก มีสถานที่ไฮไลท์ที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาด (และเชื่อว่าไม่มีใครอยากพลาดเช่นกัน) คือ โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ เป็นอาคารโรงพิมพ์แห่งแรกของประเทศ อยู่แถวเสาชิงช้า โดยตึกนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และตอนนี้ก็ได้รับการฟื้นฟูเพื่อนำมาจัดแสดงนิทรรศการชั่วคราวในเทศกาลนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนิทรรศการด้านในมีชื่อว่า ‘Future Paradise’ เป็นของกลุ่มนักออกแบบ D&O ที่สร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ ขึ้นมาจากคำถามที่ว่า “ในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า ผลงานของพวกเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร?”
นอกจากนั้น หากใครมาช่วงเย็นจะได้ชมการฉาย projection mapping ที่ตึกนี้ด้วย แถมข้างๆ จะมีคาเฟ่ป็อปอัพ Craftman Roastery ที่จะมาเปิดเพียง 8 เดือนเท่านั้น ให้นั่งพักดื่มน้ำกันแล้วค่อยไปต่อ
มาถึงสถานที่สุดท้ายที่เป็นไฮไลท์และทุกคนรอคอย กับงาน ‘New World x Old Town’ ในห้างนิวเวิลด์ย่านบางลำพู ซึ่งในครั้งนี้ก็ยังเป็นผลงานของทีม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เช่นเคย พวกเขากลับมาเป็นครั้งที่ 2 พร้อมกลุ่มดีไซน์เนอร์ไฟแรงที่เข้ามาช่วยออกแบบงานทั้ง 9 ชิ้น ที่ใช้แสงและเสียงเป็นตัวแทนเล่าถึงย่านบางลำพูให้คนทั่วไปได้สัมผัส
โดยผลงานทั้งหมดร่วมกับ HUI Team Design, Saturate Designs และคณะดุริยางค์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และภาคีนักออกแบบอิสระสไตล์ Installation Art
โดยงานนี้จะมีกลุ่ม เกสรบางลำพู เป็นคนรุ่นใหม่ในพื้นที่คอยพูดคุยและเล่าเรื่องบางลำพูให้ทุกคนฟังด้วย ก่อนจะพาชมชิ้นงานทั้งหมดที่จัดแสดงอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งพลาดไม่ได้เลยกับชิ้นงานฟินนาเล่ที่จะเปลี่ยนห้างนิวเวิลด์ที่เคยขึ้นชื่อว่า วังมัจฉา ให้กลายเป็น วังหิ่งห้อย (ต้องลองไปชมด้วยตัวเองแล้วล่ะ)
และสถานที่ท้ายสุดที่เราแวะไปชมในค่ำคืนก็คือ อาคารชัยพัฒนศิลป์ อันเป็นที่ตั้งของลายสเก็ตในร่ม Jump Master Skate Haus ซึ่งด้านในตึกจะมีผลงานจัดแสดงอยู่ 2 แห่ง คือ ชั้นแรก ‘Shadow Theatre’ เป็นของทีมสปานิกโรงแรม The Standard Bangkok Mahanakhon ร่วมกับดีไซเนอร์ ไฮเม่ ฮายอน โดยงานชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังตะลุง
และขึ้นไปบนชั้น 3 ซึ่งเป็นลายสเก็ต ด้านหน้าจะมีผลงานของหลายศิลปินจัดแสดงอยู่รอบๆ อย่างเช่น ‘วัตถุ+ดิบ’ โดย Collector Project เป็นชิ้นงานทำจากเหล็กดัดต่างๆ หรือ ‘มือ-บอน’ ที่นำต้นบอนสีมาสร้างสรรค์ใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงผลงานคร่าวๆ ใน 2 ย่านที่เราได้ไปลองเดินชมบรรยากาศมาเท่านั้น แต่ในเทศกาลนี้ยังมีอีกหลายย่านน่าสนใจที่เราเองก็อยากรีบไปเดินชม ไม่ว่าจะเป็น สามย่าน, อารีย์-ประดิพัทธ์ หรือ ทองหล่อ-เอกมัย
ดังนั้น หากใครพร้อมออกไปเดินเล่นชมงานสร้างสรรค์แล้ว จะเริ่มจากย่านใกล้บ้านหรือย่านที่คุ้นเคยก่อนก็ได้ โดยเทศกาลนี้จัดระหว่างวันที่ 5 - 13 กุมภาพันธ์เท่านั้น สามารถดูโปรแกรมหรือสถานที่จัดงานทั้งหมดได้ที่ www.bangkokdesignweek.com/bkkdw2022
อ้อ! เราขอแถมโปรเจ็กต์น่ารักๆ ที่อยากให้ทุกคนตามไปชิมด้วยแล้วกัน เป็นงานช่วยสนับสนุนร้านอาหารเด็ดในย่านนี้ ชื่อว่า ‘Sound of Charoenkrung’ ทุกคนจะได้ฟังเสียงอร่อยๆ (สไตล์ ASMR) ก็ต่อเมื่อสั่งอาหารเดลิเวอรี่จาก 20 ร้านสตรีตฟู้ดเจ้าเด็ด แล้วบนถุงที่ได้รับจะมี qr code ให้สแกนเปิดฟังเสียงไปกินไปได้อย่างเพลิดเพลิน