[title]
ถ้าพูดถึงกัมพูชา นักเดินทางส่วนใหญ่น่าจะคุ้นชินกับเสียมราฐ ที่ตั้งของปราสาทหินนครวัดนครธม รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกเป็นกระตัก แต่ที่หลายคนไม่รู้คือเมืองหลวงของกัมพูชาที่ชื่อว่า กรุงพนมเปญ นั้นกำลังฮิปมาก! เรียกว่าติดอยู่ในลิสต์เมืองน่าไปของหลายต่อหลายสื่อ แถมจากที่เราไปสัมผัสมา ถือว่ากรุงพนมเปญเป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้เมืองอื่นเลยทีเดียว
เช่นเดียวกับเมืองหลวงทั่วไป พนมเปญเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล หรือพระราชวังหลวงซึ่งก่อสร้างขึ้นช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกัมพูชา อาหารหลังสีแดงที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมเขมรและฝรั่งเศส อันเป็นบ้านของงานศิลปะและวัตถุโบราณกว่า 10,000 ชิ้น, ตลาดกลาง ที่ดูโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตเดโก้, รวมไปถึงสถานที่เรียนรู้ความหดหู่ของประวัติศาสตร์ช่วงเขมรแดงเรืองอำนาจอย่าง ทุ่งสังหาร หรือพิธภัณฑ์สังหารหมู่โตลเสลง
และก็เช่นเดียวกับเมืองหลวงทั่วไปอีกเช่นกัน ที่กรุงพนมเปญในปัจจุบันจะเติบโตอย่างไม่หยุด และเต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิต ซึ่งเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือเราว่าพนมเปญมี art scene ที่น่าสนใจไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยนะ ดังนั้นถ้าเบื่อไปเที่ยวไกลๆ ลองหันกลับมาดูเมืองน่าสนใจใกล้ๆ บ้านกันดูบ้าง ที่ซึ่งเราขอแนะนำ 3 มุมอาร์ต 3 สไตล์ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเมืองหลวงของกัมพูชาแห่งนี้
Chinese House
"บ้านจีน" ที่ไม่ได้ขายอาหารจีนแห่งนี้ จริงๆ แล้วเป็นทั้งร้านอาหารสไตล์คอมเทมโพรารี่เอเชียน ค็อกเทลบาร์ และอาร์ตแกลเลอรี่ในที่เดียวกัน แต่สิ่งที่ทำให้ร้านแห่งนี้โดดเด่นก็คือตัวร้าน ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่หนึ่งไม่กี่หลังในกรุงพนมเปญที่ยังคงโครงสร้างเดิมเอาไว้ได้ จนได้รับการจดทะเบียนเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์โดยสำนักผังเมืองพนมเปญ และยังอยู่ภายใต้การคุ้มครองขององค์การยูเนสโกอีกด้วย
Tan Bunpa นักธุรกิจชาวจีนฮกเกี้ยนสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2446-2448 โดยบ้านสองชั้นทรงสี่เหลี่ยมหลังนี้โดดเด่นที่บริเวณด้านหน้าอาคารสไตล์ฝรั่งเศส แต่ใช้หลังคากระเบื้องแบบจีนดั้งเดิม ส่วนพื้นชั้นล่างนั้นใช้เป็นกระเบื้อง ในขณะที่ชั้นบนเป็นพื้นไม้ และตกแต่งพื้นที่ต่างๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์และรูปภาพสไตล์จีน ที่ช่วยสร้างให้ร้านอาหารแห่งนี้ดูมีมนต์ขลังยิ่งกว่าเดิม แน่นอนว่านอกเหนือจากอาหาร และเครื่องดื่มแล้ว ที่นี่ยังจัดแสดงผลงานของศิลปินผลัดเปลี่ยนมาให้ชมเสมอ
Chinese House บริเวณท่าเรือ Sisowath Quay เปิดบริการ วันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 11.00-1.00 น. และวันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.00-2.00 น.
Alleyway 240 1/2
ซอย 240 1/2 เป็นตรอกเล็กๆ ระหว่างถนน 240 และถนน 244 (ถนนส่วนใหญ่ในพนมเปญมีเลขกำกับ) ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริเวณพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคลมากนัก คือซอยสุดฮิปที่คุณไม่ควรพลาด (แต่มีโอกาสพลาดเดินเลยไปสูงมาก ดังนั้นถ้าใครจะไปแนะนำให้มองหาป้ายร้าน ARTillery Arts Cafe ร้านกาแฟและอาร์ตสเปซให้ดีๆ) เพราะสิ่งที่ทำให้ซอยนี้โดดเด่นก็คืองานสตรีทอาร์ตสีสันสดใส เหมาะกับใครก็ตามที่มองหามุมถ่ายรูปเก๋ๆ เป็นที่สุด นอกเหนือจากงานอาร์ตสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีร้านรวงต่างๆ อีกมากมาย เช่น Cambodia Creations ร้านขายของแฮนด์เมคน่ารักๆ เรื่อยไปจนถึง Bong Bong Bong บาร์และอาร์ตแกลเลอรี่ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เรียกได้ว่ามาที่เดียว มีอะไรเพลินๆ ให้ดูได้หลายชั่วโมงเลยก็ว่าได้
Sofitel Phnom Penh Phokeethra
หากมีโอกาสได้แวะมาแถวริมแม่น้ำโขง (หรือแวะมาช้อปปิ้งที่ Aeon Mall ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา) เราขอแนะนำให้เดินมาอีกนิด เพื่อแวะมาโรงแรมโซฟิเทล พนมเปญ โภคีธรา โรงแรมหรูระดับห้าดาวที่ดูโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศสยุคโคโลเนียลที่ผสมผสานความเป็นกัมพูชาไว้อย่างลงตัว แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันของที่นี่คือคอลเลกชั่นภาพถ่ายขาวดำของ Georges Portal นักแสดงผู้มีความหลงใหลในการถ่ายภาพ ผู้มีโอกาสเดินทางมายังประเทศกัมพูชา และเก็บภาพวิถีชีวิตและบ้านเมืองในช่วงปีค.ศ. 1929 ซึ่งปัจจุบันหาชมภาพในช่วงก่อนเขมรแดงเรืองอำนาจได้ยากมากแล้ว
นอกเหนือจากนิทรรศการถาวรของ Georges Portal แล้ว ที่โรงแรมยังมีการจัดนิทรรศการชั่วคราวหมุนเปลี่ยนกันมาให้ดูอยู่เสมอ ซึ่งตอนนี้เป็นคิวของ Nou Sary นักวาดภาพ ช่างภาพ นักเขียน นักวาดภาพประกอบ และช่างแกะสลักชาวกัมพูชา ซึ่งผลงานส่วนใหญ่ของเขาเน้นไปที่เรื่องราวความทุกข์ในอดีต ความหวัง และความรักที่มีต่อธรรมชาติ ถึงแม้นิทรรศการของเขาจะหมดลงในเดือนนี้ แต่แน่นอนว่าทางโรงแรมจะจัดงานศิลปินดีๆ มาให้ชมกันอีกเรื่อยๆ
แวะชมงานศิลปะเสร็จแล้วหิว ก็อย่าลืมแวะมารับประทานอาหารที่โรงแรมไม่ว่าจะเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ La Coupole ส่วนใครชอบอาหารเอเชียก็มีทั้ง Hachi ห้องอาหารญี่ปุ่น และ Fu Lu Zu ภัตตาคารอาหารจีนกวางตุ้งที่อร่อยไม่แพ้กัน นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านขนม Chocolat และ Le Bar ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในบาร์ที่ดีที่สุดในกรุงพนมเปญอีกต่างหาก ส่วนใครที่กำลังมองหาที่พัก ขอบอกว่าที่นี่เพิ่งเปิดตัวห้องแบบใหม่ คือ Family Suite ห้องสำหรับครอบครัวที่แบ่งโซนเด็กอย่างเป็นสัดส่วน และ Fitness Suit ห้องสำหรับคนรักออกกำลังกายที่มีฟิตเนสส่วนตัวในห้องโดยเฉพาะ แต่ใครอยากลองห้องสวีตใหญ่ที่สุดของโรงแรมที่แว่วกันว่า Angelina Jolie เคยมาพักช่วงถ่ายทำ First They Killed My Father ก็ได้เหมือนกันนะ
ไปพนมเปญยังไงดี?
ความจริงการเดินทางไปยังเมืองหลวงของกัมพูชานั้นง่ายสุดๆ ซึ่งแน่นอนว่าการเดินทางที่เร็วและสะดวกที่สุดก็คือการขึ้นเครื่อง โดยสายการบิน Bangkok Airways นั้นมีให้บริการบินระหว่าง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - พนมเปญ ทุกวัน ตลอดทั้งวัน วันละ 6 ไฟลต์ (เที่ยวแรก 6.10 น. และเที่ยวสุดท้าย 21.30 น. ใช้เวลาบิน 65 นาที) ราคาเริ่มต้นสำหรับตั๋วไป-กลับ อยู่ที่ประมาณ 6,300 บาทเท่านั้นเอง