[title]
สถาปัตยกรรมไทยโกอินเตอร์อีกครั้ง เมื่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับการจัดอันดับจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งในหกสนามบินที่สวยที่สุดในโลกประจำปี 2567 โดยเฉพาะอาคารผู้โดยสารใหม่ (SAT-1) ที่เข้าชิงรางวัล Prix Versailles รางวัลการออกแบบสนามบินที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกอีกด้วย
สุวรรณภูมิของเราเป็นที่รู้จักกันดีถึงความกว้างขวาง และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม รวมถึงรูปปั้นยักษ์ที่เป็นจุดถ่ายรูป และน้ำตารื้นของผู้ที่กำลังเข้า-ออกประเทศ ปีนี้ ได้ร่วมอยู่ในลิสต์เดียวกับสนามบินระดับโลกอย่าง Zayed International Airport (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์), Felipe Angeles International Airport (เม็กซิโก), Changi Airport Terminal 2 (สิงคโปร์), Logan International Airport Terminal E (สหรัฐอเมริกา) และ Kansas City International Airport (สหรัฐอเมริกา)
อาคารผู้โดยสารใหม่ หรือ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 (Satellite 1: SAT-1) เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว เสน่ห์ของ SAT-1 อยู่ที่การผสมผสานศิลปะไทยเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว เริ่มตั้งแต่ชั้นสาม พบกับประติมากรรมสเตนเลสสาน พญาช้างเผือกสองเชือกยืนต้อนรับนักเดินทางทุกคน สู่ป่าหิมพานต์พร้อมด้วยสัตว์ในตำนานอย่างหงส์ กินนร และกินรี ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นไทยและการเดินทาง
ที่ชั้นสอง มีการจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมไทย ทั้งหนังตะลุง หน้ากากโขน และว่าวไทย พร้อมพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ทางทิศตะวันออกและตะวันตก สร้างบรรยากาศแห่งความสงบและความเป็นสิริมงคล
นอกเหนือจากงานศิลปะ และสถาปัตยกรรม ตัวอาคารสนามบินสุวรรณภูมินี้ยังมีการออกแบบให้แสงธรรมชาติส่องผ่าน ทำให้มีความโปร่งสบาย รวมถึงมีการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อประหยัดพลังงาน โดยโครงสร้างอาคารที่ติดอุปกรณ์กันความร้อน ระบบการนำน้ำเสียกลับมาใช้ และระบบอื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานและความยั่งยืน
การที่สุวรรณภูมิได้รับอันดับจาก UNESCO และเข้าชิงรางวัล Prix Versailles เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าสถาปัตยกรรมนั้นก็สามารถรักษามรดกทางวัฒนธรรมไปพร้อมกับการตอบโจทย์มาตรฐานสิ่งแวดล้อมสมัยใหม่ได้ สนามบินไม่ใช่แค่จุดเชื่อมต่อการเดินทาง แต่เป็นพื้นที่มีชีวิตที่บอกเล่าเรื่องราว อนุรักษ์ทรัพยากร และแสดงให้เห็นถึงฝีมือของช่างไทย เป็นต้นแบบการออกแบบที่สวยงามและยั่งยืน ที่เคารพวัฒนธรรม ที่จะสร้างความประทับใจตั้งแต่เริ่มการเดินทาง