[title]
หลายคนอาจคุ้นเคยกับอาหารอินเดียจำพวกแป้งนาน แกงกะหรี่ ไก่ทันดูรี แต่ความจริงแล้วอาหารอินเดียมีความหลากหลายไม่แพ้อาหารชาติอื่นๆ เพราะอินเดียไม่ใช่แค่ใหญ่ แต่ยังหลากหลายในวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมการกินและวัตถุดิบท้องถิ่นซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ นอกจากนั้นอินเดียยังเป็นทางผ่านของเส้นทางสายไหมและเส้นทางเครื่องเทศ ซึ่งส่งผลถึงการผสมผสานของวัฒนธรรมอาหารจากประเทศอื่นๆ มากเพิ่มขึ้นไปอีก และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสแวะไปที่ Indus ร้านอาหารอินเดียชื่อดังในกรุงเทพฯ ที่พาเราออกเดินทางไปตามแม่น้ำสินธุ เพื่อรู้จักกับอาหารและวัฒนธรรมการกินของผู้คนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำใหญ่กับงาน Indus: Past, Present, Future โดยได้ Dr. Pushpesh Pant นักประวัติศาสตร์ด้านอาหารมาเล่าเรื่องราว และช่วยออกแบบคอร์สอาหารในครั้งนี้อีกด้วย


เริ่มต้นกันที่ต้นแม่น้ำกับ Khumb Galouti เมนูเคบับที่ทำจากเห็ดต่างๆ ที่พบในรัฐแคชเมียร์ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเห็ดชั้นดี โดยด้านบนยังมีทรัฟเฟิลมาช่วยเสริมรสชาติอีกด้วย ตามมาด้วยเมนู Daal Dhokli จานคลาสสิคจากรัฐคุชราตที่ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นมังสวิรัติ ตัวเมนูนั้นเป็นการนำแป้งโรตีมาห่อเป็นเกี๊ยว (ถึงแม้จะดูคล้ายเกี๊ยวแบบจีน แต่ความจริงแล้วรัฐราชสถานก็มีเกี๊ยวลักษณะนี้เช่นเดียวกัน) สอดไส้ด้วยผักโขมปรุงกับเครื่องเทศ โดยเสิร์ฟมาในซุปถั่ว เมนูถัดมาคือ Haldi Murgh เมนูไก่หมักขมิ้นของดีรัฐปัญจาบ ซึ่งเสิร์ฟมาพร้อมกับขมิ้นดอง โดยตัวไก้นั้นหมักจนนุ่ขนาดที่ใช้ส้อมหั่นขาดเลยทีเดียว


จานต่อมาคือ Kadala Byas Minu อาหารจากเมืองยังกาลอร์ เมืองท่าสำคัญทางฝั่งตะวันตกของประเทศ จึงทำให้อาหารทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาเป็นอาหารสำคัญในภูมิภาคนี้ โดยจานนี้เป็นเมนูปลากระพงหมักกับโคคุม หรือมังคุดป่า ก่อนนำมาจี่บนกระทะ นอกจากนี้ยังเสิร์ฟมาพร้อมกับชัทนีย์มังคุดป่า และผงมะพร้าวอันเป็นของดีอีกอย่างของเมืองอีกด้วย จานต่อมาขยับมาที่เมืองกัว เมืองชายทะเลอาณานิคมของโปรตุเกสกว่า 400 ปี โดย Kaalva คือเมนูหอบกาบเสิร์ฟในซุปมะเขือเทศ กินคู่กับขนมปังนาน นั่นดูแล้วหน้าตาไม่ต่างกับอาหารตะวันตกเลยก็ว่าได้


เมนูถัดมาคือ Lobster Khichdi เมนูข้าวหุงกับถั่ว ผงกะหรี่ และน้ำมันมะพร้าว เสิร์ฟคู่กับล็อบสเตอร์ โดยจานนี้เป็นตัวแทนของหมู่เกาะในทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมจากหลายๆ ประเทศรอบทะเลดังกล่าว จานต่อไปคือ Raan Sikandari เมนูจากแคว้นแถบตะวันตกเฉียงเหนือ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนไปถึงสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเมื่อครั้งเดินทางมารบที่อินเดีย โดยเป็นเมนูที่ใช้เสิร์ฟในงานเลี้ยงหลังกษัตริย์ชาวกรีก มีชัยเหนือมหาราชาแห่งอินเดียนั่นเอง (Sikandar แปลว่าผู้พิชิต) โดยเมนูนี้ทำจากเนื้อแกะปรุงนานกว่า 7 ชั่วโมง ฉีกให้เป็นชิ้นๆ กินกับแป้งนานโดนใช้มือ ก่อนปิดท้ายมื้ออาหารด้วย Phirni หรือพุดดิ้งข้าวผสมผลไม้แห้งและหญ้าฝรั่น
สำหรับใครที่สนใจออกท่องเที่ยวแม่น้ำสินธุ และรู้จักวิถีชีวิตของผู้คนริมน้ำผ่านอาหารต้องอดใจรอกันสักนิด เพราะไม่แน่ในอนาคต Indus อาจนำเมนูบางส่วนมาเสิร์ฟในร้านบ้างก็ได้