เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ค่ายดนตรี 4NOLOGUE ได้เปิดโปรเจ็กต์พิเศษกับ 9x9 (ไนน์ บาย ไนน์) รวมศิลปิน 9 คนจากค่ายนาดาว และค่ายโฟร์โนล็อค มาร่วมกันทำงานหลากหลายโปรเจ็กต์ทั้ง การแสดงละคร การออกปล่อยซิงเกิ้ล และการทัวร์คอนเสิร์ต ในเวลา 1 ปีเต็ม
หลังจากแอบซุ่มร้อง เต้น เล่นละคร กันมาสักพัก ในที่สุด 9x9 ก็ได้เปิดตัวโปรเจ็กต์แรกกับ เลือดข้นคนจาง ละครแนวดราม่า สืบสวนสอบสวน ผลงานการเขียนบทและกำกับของ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ (เด็กหอ, แฟนฉัน และ ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ) บอกเล่าถึงครอบครัวจิระอนันต์ที่ถึงคราวแตกหัก เมื่อสมาชิกครอบครัวถูกฆาตกรรมอย่างปริศนา และผู้ต้องสงสัยก็ไม่ใช่ใครนอกจากคนในครอบครัวนั่นเอง
ถ้าให้เล่าสั้นๆ เลือดข้นคนจาง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
เจเจ: เลือดข้นคนจาง จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งครับ ที่ตอนแรกจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นแต่ว่าพอเจอ conflict หรือว่าปัญหาภายในครอบครัว ก็เริ่มเกิดการแตกแยก และก็แตกเป็นแบบครอบครัวๆ แทนครับ แล้วเหมือนกับว่าตัวละครในเรื่องเห็นความสำคัญของตัวเองมากกว่าครอบครัว หมายถึงว่าพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
เจมส์: ทำเพื่อตัวเองมากกว่าเพื่อส่วนรวม ... [จิระอนันต์] เป็นครอบครัวจีนใหญ่ที่รักกันเหมือนครอบครัวทั่วไป จนกระทั่งมีเหตุการณ์ที่มีคนในครอบครัวเสีย แล้วมันทำให้เกิด conflict เรื่องธุรกิจอะไรกันบางอย่าง มันเกิดการแย่งชิงสมบัติมากขึ้น แล้วทีนี้ก็จะมีการฆาตกรรมกันเกิดขึ้นมา แล้วทีนี้เนี่ยความที่เป็นครอบครัวที่มันเป็นครอบครัวใหญ่มันก็เริ่มแตก คนในครอบครัวก็แตกกันๆ และรุ่นเราที่เราเป็นรุ่นหลานก็เหมือนช่วยกันแก้ปัญหา สืบไปสืบมาเราก็เจอปัญหาของครอบครัวที่มันเคยมีมาก่อนครับ คือเรื่องมันจะเล่าแบบความเทาของครอบครัว ความเทาของคนเราเนี่ยแหละครับ
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok
จริงๆ แล้วเด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่ได้เติบโตมาจากครอบครัวคนจีนขนาดใหญ่ ที่มีระดับขั้นตอนของญาติ การทะเลาะเบาะแว้ง ความรักใครกลมเกลียว ได้เรียนรู้อะไรกับการมาอยู่เป็นครอบครัวใหญ่แบบในละครเรื่องนี้บ้าง
เจมส์: มันทำให้หลายๆ คนที่ไม่ได้อยู่ในครอบครัวใหญ่ ไม่ได้มีฟีลว่าแบบครอบครัวคนจีนมันเป็นยังไง ครอบครัวที่เป็นกงสีมีระบบยังไง มันมีวิธีการคุยกันยังไง หรือว่าเขาให้ความสำคัญกับครอบครัวขนาดไหน ผมว่าเรื่องนี้คนดูน่าจะได้เห็นความเป็นพี่เป็นน้องของครอบครัวคนจีนว่าจริงๆ มันแน่นแฟ้นขนาดไหนครับผม แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังโชว์อีกว่าเวลามันเกิด conflict ยิ่งรักมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเกลียดมากเท่านั้นครับผม สำหรับผม ผมอยู่ในครอบครัวใหญ่อยู่แล้ว ก็เลยค่อนข้างคุ้นชิน
เจเจ: ผมก็น่าจะคล้ายๆ เจมส์ครับ ผมก็เป็นครอบครัวใหญ่เหมือนกันครับ ตอนที่มันมีความสุข มันก็โอเคมาก เราก็แฮปปี้มาก เราได้เจอลูกพี่ลูกน้อง เราได้เจอกับอาอี๊อะไรอย่างนี้ครับ แต่พอเขามีปัญหากัน รุ่นแม่ผมอะครับ มันก็จะส่งผลมาถึงความรู้สึกของเราครับ มันก็จะทำให้เราตัดสินญาติเราโดยอัตโนมัติ ที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยรู้ว่าเหตุผลที่เขาทำอย่างนั้นมันคืออะไร น่าจะเป็นการที่แบบ... เอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดว่าการที่เขาทำแบบนี้ก็คงมีเหตุผลของเขาแหละ
ต่อ: ผมอยู่ครอบครัวใหญ่มากๆ เหมือนกันครับ แต่ว่าเรื่องนี้ผมว่าเห็นต่าง ผมเชื่อว่าคนเราถ้าอยู่ด้วยกัน มันมีปัญหากันทั้งนั้น มันหนีปัญหากันไม่ได้ ชีวิตเรามันเกิดมาเพื่อเจอปัญหา แต่แค่เราจะแก้มันยังไง ผมว่าข้อดีของ เลือดข้นคนจาง คือวันนี้แค่กำลังเสนอปัญหาในเคสประเภทใหญ่ๆ ออกมาให้คุณเห็น ซึ่งถ้าคุณดูแล้วถ้าคุณรู้สึกว่าวันนี้คุณต้องการแก้ปัญหา คุณอาจจะกลับไปทบทวนกับครอบครัวของตัวเอง แล้วอาจจะเปลี่ยนทัศนคติบางอย่างทำให้ความสัมพันธ์ครอบครัวดีขึ้นก็ได้
ไอซ์: สำหรับผม ผมอาจจะไม่รู้มาก เพราะผมเป็นบ้านข้างนอกครับ แต่ว่ามันก็จะมีปัญหามาจากบ้านใหญ่หลุดมาให้ผมต้องมาพยายามแก้ด้วย สำหรับตัวละครผมนะ ผมรู้สึกว่าการอยู่น้อยๆ มันก็ดีเหมือนกัน เหมือนบ้านผมมันก็สงบมาตลอด จนมาเจอพวกเนี้ย (หัวเราะ) ... ผมรู้สึกว่าสามารถเอาบ้านผมไปเป็นตัวอย่างในการแก้ปัญหาของบ้านใหญ่ได้ ด้วยความที่บ้านผมมันมีอยู่น้อย แล้วผมกับแม่ก็รักกันมาก ส่วนใหญ่เราทำอะไรไม่ใช่เพราะว่าเรื่องเงิน มันคือความรักจริงๆ ครับ
ปอร์เช่: ผมว่ามันเกี่ยวกับการตัดสินคนเลย เพราะเวลาอยู่กับครอบครัวใหญ่ เราสนิทกับใครมากกว่า เราจะฟังคนนั้นมากกว่า แล้วบางทีเราอาจจะลืมมองว่าคนที่เราฟัง เขามองมุมเดียวอยู่หรือเปล่าด้วย เราก็เลยต้องเรียนรู้ด้วยว่าเราควรจะฟังอีกฝั่งนึงด้วยไม่ใช่ฟังแต่ฝั่งเดียวครับ
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok
หลายๆ คนอาจจะไม่ได้เล่นละคร ซีรีส์ หรือหนังมาก่อน มีการเตรียมตัวในการรับบทอย่างไรกันบ้าง
ไอซ์: เราก็มีการเข้าเรียน acting มาโดยตลอด พอมีบทก็เปลี่ยนจากการเรียนไปเป็นการเวิร์กช็อป แล้วก็มีคลาสพิเศษกับครูเล็ก ( ภัทราวดี มีชูธน) ที่เป็นอาม่าของพวกเราครับ แล้วบ้านทุกบ้านก็จะมีการเวิร์กช็อป ของแต่ละบ้าน แยกกันอีก ก็เลยเหมือนเราเตรียมตัวเรื่อยๆ มานานแล้วครับ
ริว: นอกจากเรียน acting ก็เรียนกับครูเล็กครับ เขาก็จะสอนเรื่องการพูด วิธีการออกเสียงครับ
ปอร์เช่: อย่างที่ไอซ์าคือครูเล็กมาเวิร์กช็อป ให้ เราก็จะคุ้นชินกับเทคนิกใหม่ๆ อย่างที่สอง คือการเตรียมคาแร็กเตอร์ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน พวกเราหน้าใหม่ คาแร็กเตอร์ของตัวละครจะคล้ายๆ คาแร็กเตอร์ของเราจริงๆ มันเลยแบบใช้เวลาน้อยกว่าคนอื่นอยู่ พอเข้ากองแล้วมันก็ยังต้องเตรียมตัวเพิ่ม เพราะว่าในกองมันไม่เหมือนในห้องเรียนครับ ในกองมันมีเรื่องวันเวลาจำกัด เรื่องความกดดัน เรื่องสถานที่ เรื่องการเล่นกับคนอื่นโดยที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนครับ
แจ็คกี้: เราได้มีการเรียนตั้งแต่ขั้น basic จนไปถึงขั้น advance เรียนตั้งแต่การรู้จักตัวเอง จนไปถึงการวิเคราะห์ตัวละคร จนเราได้เข้าไปเป็นตัวละครนั้นจริงๆ ครับ
เติร์ด: จริงๆ พวกเราก็เริ่มเรียนตั้งแต่รากฐานเลยทีเดียวครับ พอเราเข้าไปในกองแล้วมันไม่ใช่แค่การเอาสิ่งที่เรียนมาใช้ แต่เราซึมซับประสบการณ์จากคนรอบข้างที่เข้ามาเข้าซีนกับเราด้วย อย่างเช่นนักแสดงผู้ใหญ่หลายๆ คน เขาจะมีประสบการณ์ที่แบบผ่านมาเยอะพอสมควร เวลาเราพักซีนเราก็จะคอยปรึกษา หรือบางทีเขาก็จะมาแนะนำเรา เพื่อให้เราพัฒนาขึ้นได้เรื่อยๆ ทุกครั้งที่ออกกองครับ
หลังจาก ละครนี้ มีโปรเจ็กต์ อย่างอื่นต่ออีกไหม
กัปตัน: สำหรับโปรเจ็กต์แรกที่เราจะปล่อยออกมาเลยก็คือ Into the Light with 9x9 จะเป็นโปรเจ็กต์ เกี่ยวกับดนตรีครั้งแรกของพวกเรา ออนแอร์ก่อนละครวันหนึ่ง แล้วพอหลังจากนั้นก็จะมีซิงเกิ้ล ออกมา เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนครับ สามารถรอติดตามกันได้ครับ
ไอซ์: แล้วก็มีคอนเสิร์ตอีกครับ ประมาณต้นปีหน้าครับ เป็นงานทัวร์คอนเสิร์ต เหมือนกับปิดโปรเจ็กต์ ครับ
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok
อย่างนี้ทุกคนมีประสบการณ์ร้องเพลงมาก่อนรึเปล่า
ปอร์เช่: อย่างผมกับเติร์ด เราก็เคยเป็นศิลปินมาก่อนครับ ก็เลยอาจจะมีเบสิคบ้างเรื่องร้องเพลงกับเต้น
ไอซ์: แจ็คกี้ด้วยครับ
แจ็คกี้ : ครับ ผมร้องเพลงได้ครับ (หัวเราะ) คือแต่ละคนก็จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละคนอยู่แล้ว เช่น พี่ต่อก็จะเด่นทางด้านการแสดง อย่างผมก็ถนัดทางด้านการร้องเพลง
ไอซ์: ผมไม่ถนัดอะไรเลยครับ กลางๆ หมดเลยครับ (ยิ้ม)
เจเจ: ผมว่าผมกับพี่ต่อร้องได้ครับ แต่ว่าไม่เคยเรียนจริงจัง มันก็เลยพอร้องได้ พอเรามาเข้าคลาสปุ๊บ ก็เก็บพวกทฤษฎีนู้นนั่นนี่นะครับ
อย่างนี้พอจะแอบบอกได้ไหมว่าจะออกมาเป็นแนวเพลงแบบไหน
ริว: ขออุ๊บอิ๊บไว้ก่อนนะครับ
ใครชอบหนุ่มคนไหน (หรือชอบยกวง) เตรียมตัวชมละคร เลือดข้นคนจาง กันได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.45 น. และวันเสาร์ เวลา 20.10 น. ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน ทางช่อง One31
และนอกจาก 9 หนุ่มจากโปรเจ็กต์ 9x9 แล้ว ละครเรื่องนี้ยังอัดแน่นด้วยนักแสดง แถวหน้าของเมืองไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตู่-นพพล โกมารชุน, เล็ก-ภัทราวดี มีชูธน, กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง, แหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช, เจี๊ยบ-โสภิตนภา ชุ่มภาณี และปิ่น-เก็จมณี วรรธนะสิน
นากจากนั้น อย่าลืมติดตามโปรเจ็กต์ Into the Light with 9x9 ทาง Line TV รวมไปถึงผลงานเพลง คอนเสิร์ต 4 ภาค และคอนเสิร์ตใหญ่ปิดท้ายโปรเจ็กต์ในช่วงปีหน้ากันด้วย